Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Ivan Turgenev

turgenev.org.ru


อีวาน เซอร์เกวิช เตอเกเนฟ (Иван Сергеевич Тургенев)
เกิดในจังหวัดออโยล (Oryol) ในครอบครัวเจ้าของที่ดินที่มั่งคั่ง เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1818 ่พ่อของเขาชื่อ เซอร์เกย์ (Sergei Nikolaevich Turgenev) เป้นนายทหารในกองทัพจักรวรรดิรัสเซียแม่ของเขาคือ วาร์วาร่า ลุโตวิโนว่า (Varvana Petrovna Lutovinova) มาจากครอบครัวที่มีฐานะดีเช่นกันในตอนเด็กครอบครัวอาศัยอยู่ในเขตสปาสสกี-ลุโตวิโนโว่ (Spassky Lutovinovo) ห่างจากตัวเมืองออโยล ไป 10 กิโลเมตร

1827 เมื่ออายุได้ 9 ปี ครอบครัวเขาได้ย้ายมายังมอสโคว์เตอเกเนฟมีความรักแสนโรแมนติกครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี กับหญิงสาวเพื่อนบ้านที่อายุ 18 ปี ภายหลังเขาเขียนมันในหนังสือ First Love

1833 ตอนอายุ 15 ปี เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมอสโคว์ ในสาขาการศึกษา

1834 พ่อของเขาเสียชีวิตตอนอายุได้ 16 ปี เตอเกเนฟและพี่ชาย นิโคลัส (Nicholas) ต้องอาศัยอยู่กับแม่ ที่เป็นคนดุ  , นิโคลัสเข้าเรียนที่สถาบันการยิงปืนใหญ่ ทำให้ครอบครัวต้องย้ายมายังเซนต์ปีเดอร์เบิร์ก เตอเกเนฟ จึงต้องย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเซนต์ปีเดอร์เบิร์ก ในสาขาปรัญชา เขาเริ่มเขียนบทกวี The Wall (Стено)

1838 ย้ายไปยังเยอรมัน อาศัยอยู่ในเบอร์ลิน ช่วงนี้เขาใช้เวลาในการเข้าไปฟังแล็คเชอร์ในมหาิวทยาลัยของเยอรมันเพื่อเรียนกประวัติศาสตร์และวรรณกรรมกรีซโรมัน

1839 ย้ายกลับมายังรัสเซีย แต่ว่าในปีต่อมา 1940 ก็ออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังเยอรมัน อิตาลีและออสเตรีย และได้เขียนนวนิยายเรื่อง Spring Waters (Вешние воды)1841 เดินทางกลับไปยังบ้านที่ออโยล เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิง เธอเป็นทาสในที่ดินของเขา มีสามีแล้ว ต่อมาเธอได้ให้กำเนิดลูกสาวแก่เขาในปีต่อมา

1842 เขาเขียนหนังสือขอรับการทดสอบเพื่อเอาวุฒิปริญญาโทด้านปรัญญาจากมหาวิทยาลัยมอสโคว์ ในขณะเดียวกันก็ทำงานเป็นนักเขียนไปด้วย หนังสือเล่มแรกของเขา Paracha (Параша) พิมพ์ออกมาในปี 

1843 ช่วงฤดูใบไม้ผลิได้พบกับนักร้องโอเปร่าหญิงชาวฝรั่งเศส (Pauline Garcia Viardot) เธอเป็นหญิงอีกคนที่เขาหลงรัก แต่ว่าเธอแต่งงานมีสามีแล้ว เขาตามเธอและสามีไปยังกรุงปารีส เขาหาเงินในฝรั่งเศสโดยการเขียนเรื่องสั้น A Sports Man’s Sketches (Записки Охотника) ซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกที่ทำให้คนจดจำเขาได้ มันเขียนเล่าประสบการณ์ของเขาระหว่างที่อาศัยอยู่ในบ้านที่รัสเซีย ได้เห็นการกดขี่แรงงาน ทาส และเรื่องที่เขาถูกแม่ทำร้าย หนังสือเรื่องนี้ได้รับเครดิตว่าเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งให้เกิดการเลิกทาสในปี 1861 มันถูกตี่พิมพ์ครั้งแรกลงในแม๊กกาซีน The Contemporary เป็นตอนๆ ก่อนที่จะมีการรวมเป็นหนังสือออกมาในปี 1852 

1850 เขากลับมารัสเซีย หลังทราบข่าวการตายของโกโกล เตอเกเนฟ ถูกจับและกักบริเวณภายในบ้านในเซนต์ปีเดอร์เบิร์ก โดยคำสั่งของซาร์นิโคลัสที่  2 เป็นเวลากว่า 18 เดือน ด้วยสงสัยว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวปฏิรูป ในปีนั้นนักเขียนอย่างดอสโตเยฟสกี ก็ถูกเนรเทศไปไซบีเรีย และเบรินสกีก็เสียชีวิตด้วย1855 เขาได้พบกับตอลสตอย ขณะอยู่ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์กตอนนั้นตอลสตอยยังไม่เป็นนักเขียนมีชื่อเสียง แต่เตอร์เกเนฟ ชื่นชมงานเขียนของเขาและบอกว่าเขาจะต้องเป็นนักเขียนที่ิยิ่งใหญ่ ส่วนตอลสตอยเคยเขียนถึงเตอร์เกเนฟว่า “น่าเบื่อ” ลงในไดอารี นักเขียนสองท่านมีความสัมพันธ์ที่ตึงต่อกันในภายหลัง พวกเขาเคยเดินทางไปปารีสด้วยกันในปี1857

ผลงานอื่นๆ ของเขา ที่มีชื่อ เช่น

  • Rudin (1856)
  • A Nest of Nobles (1859)
  • On the Eve (1860)
  • Fathers and Sons (1862) ผลงานสำคัญอีกอันหนึ่งของเขาที่รับเอาแนวคิดแบบ Nihilism มา

ตั้งแต่ปี 1860s เขาปักหลักอาศัยอยู่ที่เมืองบาเดน-บาเดน ในเยอรมัน เป็นหลัก และอาศัยอยู่ในยุโรปมากกว่าอยู่ในรัสเซีย เขาเสียชีวิตในปารีส เมื่อ 22 สิงหาคม 1883 จากโรคมะเร็งปอด ร่างของเขาถูกย้ายกลับมาประกอบพิธีที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ในสุสาน Volkov

The Torrents of SpringSketches from a Hunter's Album: The Complete Edition (Penguin Classics)A Sportsman's Notebook (Everyman's Library)Fathers and Sons

Don`t copy text!