Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Moise Uritsky

wikipedia.org

มอนซี อูริตสกี (Моисей Соломонович Урицкий)

หนึ่งในแกนนำพรรคบอลเชวิค ช่วงการปฏิวัติรัสเซีย
เกิดในเมืองเชอร์กาซี (Cherkasy) ในเคียฟ ในครอบครัวของพ่อค้าชาวเชื้อสายยิว พ่อของเขาเสียชีวิตตอนที่เขามีเพียงอายุแค่ 3 ขวบ เขาเรียนจบด้านกฏหมายจากมหาวิทยาลัยเคียฟ  ระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่นั้นได้ร่วมกับพรรค RSDLP ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ผิดกฏหมาย
1897 ถูกจับเพราะเผยแพร่หนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ระหว่างท่เขาอยู่ในยากุตส์ (Yakutsk)
1903 หลังจากการประชุมพรรค RSDLP ครั้งที่ 2 แล้ว เขาได้เข้ากับฝ่ายของเมนเชวิค (Menshevik) 
1905 ช่วงการปฏิวัติ เขาเคลื่อนไหวอยู่ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก
1906 ถูกจับและเนรเทศไปยังเมืองโวล็อกด้า (Vologda) ก่อนจะถูกส่งไปยังอาร์คแองเจิ้ล (Arkhangelsk)
1912 สิงหาคม เข้าร่วมการประชุมพรรค RSDLP ครั้งที่ 6 ในเวียนนา และได้รับเลือกเป็นคณะกรรมการกลางของพรรค
1914 หนีออกมาอยู่ในต่างประเทศ  , ในปี 1916 เขาอยุ่ในสต็อกโฮม ร่วมทำหนังสือพิมพ์ Our World ร่วมกับทร็อตสกี และยังได้ร่วมกับอเล็กซานเดอร์ ปาร์วุส (Alexander Parvus) ในการทำสถาบันในการศึกษาบทบาทของสังคมที่นำไปสู่สงคราม
1917 หลังการปฏิวัติในเดือนกุมภาพันธ์ เขาด้เดินทางกลับมายังรัสเซีย ที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และได้เข้าร่วมกับกลุ่ม Mezharayontzi  กลุ่มย่อยภายในพรรค RSDLP  แต่ว่าไม่นานก่อนการปฏิวัติตุลาคม เขาก็ย้ายไปอยู่กับกลุ่มของบอลเชวิค เขาได้รับเลือกให้เป็นคณะกรรมการกลางชองพรรคในเดือนกรกฏาคม เวลาเดียวกันนี้ก็ได้ทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ปราฟด้าด้วย  และช่วงการปฏิวัตินั้นเขาควบคุมกลุ่มติดอาวุธในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เขาเองเป็นคณะกรรมาธิการทหารเพื่อการปฏิวัติประจำเมืองนี้ (Petrogran Military Revolutionary Committee)
1918 แต่ว่าเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับการทำสนธิสัญญา Brest-Litovsk Treaty ทำให้เขาลาออกจากตำแหน่งในปี 1918 เช่นเดียวกับสมาชิกพรรคหลายคนอย่างบูคาริน, ดเซอร์ซินสกี 
มีนาคม ได้เป็นกรรมการในการทำวารสาร Kommunist ซึ่งเป็นวารสารของกลุ่ม Left Communist , 10 มีนคม เขาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าของหน่วยเชก้า (Cheka) ประจำเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก 
30 สิงหาคม เขาถูกสังหาร ในสำนักงานของกระทรวงมหาดไทย (People’s Commisariat of Internal Affiars)ที่ตั้งอยู่บนพาเลสแสคว์ (Palace Square)  ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก   โดยคนที่ลงมือสังหารเขาคือ Leonid Kannegiserom (Леонидом Каннегисером) เขาบอกเหตุผลที่ต้องสังหารว่าเป็นเพราะ อูริตสกี ทำให้คนเชื้อสายยิวต้องแปดเปื้อน คนร้ายเองก็เป็นชาวยิว และต้องการให้ชาวยิวในสังคมรัสเซียมีด้านดีๆ ลีโอนิค ยังเป็นสาชิกของพรรค People’s Socialists ของ Nicholas Tchaikovsky ด้วย
ในวันเดียวกันนี้ ผู้หญิงคนหนึ่งชื่อฟานย่า ( Fanya Kaplan) พยายามจะสังหารเลนิน ระหว่างที่เขาไปปราศรัยที่โรงงานแห่งหนึ่งในมอสโคว์ เธอยิงไปที่เลนินสามนัด แต่มีเพียงนัดเดียวที่โดนเข้ากับเสื้อคลุมของเลนิน ทำให้เลนินได้รับบาดเจ็บ 
2 กันยายน ยาคอฟ สเวิร์ดลอฟ(Yakov Sverdlov) ได้ออกเอกสารที่ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกมันว่าเป็น Red Terror ซึ่งคณะกรรมการกลางพรรคได้รับรองในวันที่ 5 กันยายน โดยบอกว่าการพยายามสังหารเลนินและเจ้าหน้าที่ระดับสุงนั้นเป็นฝีมือของพวกต่อต้านการปฏิวัติ และพวกชนชั้นสูง  กลายเป็นแคมเปญแรกในการกวาดล้างศัตรูทางการเมืองของบอลเชวิคหลังการปฏิวัติ
ร่างของ มอนซี อูริตสกี นั้นถูกประกอบพิธี ที่ Cham de Mars  (Марсово Поле) ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก , จตุรัสพาเลสนั้นเปลี่ยนชื่อเป็นอูริตสกีสแคว์ระหว่างปี 1918-1944
Don`t copy text!