Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Abram Ioffe

wikipedia.org

อับราม ฟีโดโรวิช อีออฟเฟ่ (Абрам Фёдорович Иоффе)

นักวิทยาศาตร์
เกิดในครอบครัวเชื้อสายยิวที่มีฐานะปานกลาง ในเมืองรอมนี่ (Romny) เมืองเล็กๆ ในจักรวรรดิรัสเซีย ปัจจุบันอยู่ในยูเครน 
1902 เขาจบการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก (Sainte Petersburg State Institute of Technology)  จากนั้นได้เข้าทำงานเป็นผู้ช่วยของ วิลเฮล์ม รอน์ตเจน (Wilhelm Conrad Rontgen) นักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลชาวเยอรมัน ผู้ค้นพบคลื่่นแม่เหล็กไฟฟ้า ช่วงความถี่ที่เราเรียกว่าเป็นคลื่น X-Ray , อีออฟเฟ่ทำงานเป็นผู้ช่วยที่ห้องทดลองส่วนตัวของรอน์ตเจนในเมืองมิวนิค และยังเข้าเรียนต่อปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยมิวนิคไปด้วย
1905 จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยมิวนิค
1906 เข้าทำงานที่สถาบันโพลีเทคนิค เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก (Saint Petersburg Polytechnical Institute) 
1911 เขาเปลี่ยนมานับถือนิกายลูเธอร์รัน (Lutheranism) และแต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่ใช่ชาวยิว , ในปีนี้ อีออฟเฟ่ สามารถวัดประจุของอิเล็กตรอน (Charge of Electron) ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นไอเดียที่เหมือนกับนักวิทยาศาสตร์อเมริกา โรเบิร์ต มิลลิแกน (Robert Andrews Millikan) แต่ว่าทั้งคู่ต่างทำงานของตนเป็นอิสระ ไม่ได้ทราบถึงการทดลองของอีกฝ่ายหนึ่ง …  แต่อีอฟเฟ่ ตีพิมพ์ผลการทดลองของเขาในปี 1913 ช้ากว่า มิลลิแกน เพียงเล็กน้อย
1913 ได้รับตำแหน่ง ศาสตราจารย์ ระหว่างที่ยังอยู่ที่สถาบันโพลีเทคนิค หลังจากนั้นได้ไปทำงานเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันฟิสิกเลสกาฟต์ (Lesgaft.spb.ru) , ในปีนี้ยังได้สอบดีเฟนด์วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของตัวเองด้านฟิสิกได้ย
1918 ได้ตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาฟิสิกและเทคโนโลยี ที่สถาบัน State Institute of Roentgenology and Radiology หรือสถาบัน Ioffe Institue ตามชื่อของอิอฟเฟ่ ซึ่งเพิ่งก่อตั้งในปีนี้
1920 ได้เป็นสมาชิกสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งรัสเซีย (Russian Academy of Sciences)
1923 เป็นประธานของคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก
1924 เป็นประฐานของสมาคมนักฟิสิกแห่งชาติ
1932  เป็นผู้อำนวยการของสถาบันฟิสิกการเกษตร ( Agrophysical Institue)
1933 ได้รับรางวัล Honored Scientist of RSFSR
1934 เขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง the House of Scientists ในเลนินกราด ริมแม่น้ำเนว่า ไม่ห่างจะพิพิธภัณฑ์ เฮอมิเทธ มากนั้ก ,  ซึ่งใช้เป็นชมรมที่รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของโซเวียต โดยตั้งอยู่ในปราสาทเดิมของเจ้าชายวลาดิมีร์ (Grand Dukr Vladimir Alexandrovich) เป้าหมายในการก่อตั้งเริ่มแรกเพื่อช่วยในการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของนักวิทยาศาสตร์ในประเทศ
ช่วงก่อนสงครามโลก เขาในฐานะสมาชิกของ RAS ได้พยายามจัดการประชุมด้านวิทยาศาสตร์เพื่อการวิจัยและค้นคว้าการสร้างเรดาห์สำหรับกองทัพเพื่อตรวจจับเครื่องบินที่รุกล้ำน่านฟ้า
1942 เมื่อโซเวียตเริ่มโครงการนิวเคลียร์ อิออฟเฟ่ ก้ได้ถูกเสนอชื่อให้เข้ารับหน้าที่ผู้อำนวยการของโครงการ แต่ว่าตัวเขาเองปฏิเสธเพราะอายุที่มากแล้ว แต่ก็ได้ อิกอร์ เคอร์ชาตอฟ(Igor Kurchatov) ลูกศิษย์ของเขารับหน้าที่แทน ,  ในปีนี้เขายังได้รับรางวัล Stalin Prize ด้วย
1950 ในยุคของสตาลิน , สตาลินได้ริเร่ิมโครงการ Rootless Cosmopolitan (Безродный Космополит) ซึ่งเป็นโครงการต่อต้านและกำจัดชาวยิว ทำให้อิออฟเฟ่ ถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานสภานักวิทยาศาสตร์
1952 เริ่มทำงานในห้องทดลองที่วิจัยเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ ก่อนที่ห้องแล็ปจะถูกยกสถานะเป็นสถาบันวิจัยเซมิคอนดักเตอร์ ของ RAS 
1955 ได้รับรางวัล Hero of Socialist Labor
1961 ได้รับรางวัล Lenin Prize
อิออฟเฟ่ เขียนตำราทางด้านวิทยาศาสตร์เอาไว้มากมาย เช่น Basic concepts of modern physics (Основные представления современной физики, 1949), Semiconductor Physics (Физика полупроводников,1957) 
เขาเป็นสมาชิกกิตติมาศักดิ์ของสถาบันวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศ อย่าง Gottingen (1924), Berlin (1928), the American Academy of Arts and Sciences (1929), honorary member of the German Academy “Leopoldina” (1958), the Italian Academy of Sciences (1959), Honorary Doctor of the University of California (1928) , Sorbonne (1945), University of Graz (1948), Bucharest and Munich (1955).
อิออฟเฟ่ เสียชีวิตภายในห้องทำงาน ในวันที่ 14 ตุลาคม 1960 และถูกฝั่งไว้ที่ส่วน  Literatorskie catwalk ภายในสุสาน Volkov cemetary ซึ่งถูกใช้ฝังนักวิทยาศาสตร์และนักเขียน 
Don`t copy text!