Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Emperor Norton

Emperor Nortonphoto : wikipedia.org

โจชัว อัมบราฮัม นอร์ตัน (Joshua Abraham Norton)

จักรพรรดิแห่งสหรัฐอเมริกา และผู้พิทักษ์แห่งเม็กซิโก (Emperor pf United States and Protector of Mexico)

      เขาเกิดในประเทศอังกฤษ เขาเป็นลูกของ จอห์น (John Norton, 1848) และ ซาราห์ (Sarah Norden) ซึ่งซาราห์เป็นน้องสาวของเบนเจมิน นอร์เด็น พ่อค้าเชื้อสายยิวที่มีฐานะ   เกิดในไพเออร์ลี (Priorslee (Telforf)), ชรอฟไชร์ (Shropshire) ประเทศอังกฤษ 

แต่ว่าข้อมูลวันเกิดไม่แน่ชัด ว่าเป็น 17 มกราคม 1811 หรือ  วันที่  4 กุมภาพันธ์ 1819  แต่ว่าเอกสารการเข้าเมืองของประเทศอัฟริกาใต้ในปี 1820 ระบุว่าเขามีอายุ 2 ขวบตอนที่ครอบครัวอพยพไปยังอัฟริกาใต้ ดังนั้นปี 1819 จึงน่าจะเป็นไปได้มากกว่า
นอร์ตัน อพยพมายังสหรัฐอเมริกา ในปี 1849 หลังจากได้รับมรดกจากพ่อเป็นเงินกว่า 40,000 เหรียญสหรัฐ ซึ่งในสหรัฐเขาได้ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และมีทรัพย์สินรวมกว่า 250,000 เหรียญในช่วงปี 50s
ช่วงต้นปี 1853 เกิดภาวะแห้งแล้งในประเทศจีน จนจีนห้ามการส่งออกข้าว ทำให้ราคาข้าวในซานฟรานซิสโก ฟุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จาก 9 เซนต์ ไปถึง 70 เซนต์ ต่อกิโลกรัม นอร์ตัน เห็นว่าเป็นโอกาสในการทำกำไรจากธุรกิจข้าว เขาจึงได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวจำนวน  91 ตัน จากนาย กลิด (Glyde) ซึ่งขนข้าวมาจากเปรู ด้วยราคา  25,000 เหรียญ  แต่ว่าหลังจากลงนามในสัญญาแล้ว กลับมีเรือลำอื่นที่นำข้าวจากเปรูเข้ามาอีก ทำให้ราคาข้าวตกลงอย่างรวดเร็ว และนอร์ตัน พยายามที่จะยกเลิกสัญญา แต่ว่าคดีถูกนำไปต่อสู้ในศาลอย่างยาวนานจนถึงปี 1857 และนอร์ตันเป็นฝ่ายแพ้คดี จนถูกบังคับให้นำทรัพย์สินมาชายทอดตลาด และเขาประกาศล้มละลายในปี 1858 และได้เดินทางออกจากซานฟรานซิสโกไป ซึ่งการสูญเสียทรัพย์สินจำนวนมากนี้เองที่ทำให้เขามีอาการทางจิต
1859 หลังเดินทางกลับมายังซานฟรานซิสโก , 17 กันยายน นอร์ตันได้ประกาศสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิแห่งสหรัฐอเมริกา และผู้พิทักษ์แห่งเม็กซิโก โดยที่ตัวเขาเขาได้ส่งจดหมายไปยังหนังสือพิมพ์หลายฉบับโดยประกาศตัวว่าเป็น จักรพรรดิแห่งประเทศนี้ (Emperor of these United States) โดยข้อความในจดหมายระบุว่า 

At the peremptory request and desire of a large majority of the citizens of these United States, I, Joshua Norton, formerly of Algoa Bay, Cape of Good Hope, and now for the last 9 years and 10 months past of S. F., Cal., declare and proclaim myself Emperor of these U. S.; and in virtue of the authority thereby in me vested, do hereby order and direct the representatives of the different States of the Union to assemble in Musical Hall, of this city, on the 1st day of Feb. next, then and there to make such alterations in the existing laws of the Union as may ameliorate the evils under which the country is laboring, and thereby cause confidence to exist, both at home and abroad, in our stability and integrity 

NORTON I,Emperor of the United States.

17th September, 1859.

ด้วยปรารถนาแห่งประชาชนส่วนใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ข้า โจชัว นอร์ตัน แห่ง อัลกอ เบย์, แหลม  กู๊ดโฮป ซึ่งอยู่ในซานฟานซิสโก แคลิฟอร์เนีย มาเป็นเวลา 9 ปี กับ 10 เดือน ขอประกาศให้ทราบว่า ข้าคือจักรพรรดิแห่งสหรัฐอเมริกา และด้วยอำนาจของข้าพเจ้านี้  จึงขอสั่งการไปยังผู้แทนของแต่ละรัฐ ให้มาประชุมกันที่ Musical Hall ของเมืองนี้ ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ของปีถัดไป เพื่อร่วมกันหารือถึงกฏหมายที่มีอยู่และทางเลือกของประเทศนี้ เพื่อช่วยกันกำจัดความชั่วร้ายที่ประเทศนี้กำลังรับใช้ และเพื่อให้ประเทศคงอยู่ตลอดไป ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เพื่อความมั่นคงและความเป็นปึกแผ่น
นอร์ตัน ที่ 1, 17 กันยายน 1859
12 ตุลาคม  ออกกฤษฏีกา ประกาศยุบสภาคองเกรส โดยให้เหตุผลว่าคอร์รัปชั่น และมีการกระทำที่ละเมิดกฏหมายอย่างต่อเนื่อง โดยพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง ไม่ได้ปกป้องประชาชนและทรัพย์สินอย่างที่ได้รับมอบหมาย

2 ธันวาคม จักรพรรดินอร์ตัน ที่ 1 ประกาศยุบรัฐบาลของ Wise of Virginia เพราะไม่พอใจที่ เขาตัดสินประหาร John Brown ด้วยการแขวนคอ , นอร์ตัน ทรงแต่งตั้งให้ John C. Breckenridge of Kentucky มาดำรงตำแหน่งแทน
1860 1 กุมภาพันธ์ ออกกฤษฏีกาในการเรียกประชุมตัวแทนจากรัฐต่างๆ ให้มาประชุมกันที่ Platt’s Music Hall เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการกดขี่แรงงาน
16 กรกฏาคม ออกกฤษฏีกา เพื่อยุบ  "สหรัฐอเมริกา"
1 ตุลาคม ออกกฤษฏีกาเรียกประชุมในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
1861 5 กุมภาพันธ์ เปลี่ยนสถานที่นักประชุมจาก Platt’s Music Hall ไปยัง Assaembly Hall เพราะว่า Platt’s Music Hall เกิดไฟไหม้
17 กันยายน  ที่โรงภาพยนต์ Tucker’s Hall ได้จัดการแสดงเรื่อง “Norton The First” หรือ “An Emperor for A Day”
1863 ตุลาคม  ลาซารัส (Lazarus) สุนัขทรงเลี้ยงของจักรพรรดินอร์ตัน เสียชีวิต เพราะถูกสังหาร
1864 14 กุมภาพันธ์ พระองค์เดินทางไปยังแมรี่วิลล์ ( Marysville) เพื่อร่วมงานฉลองการเปิดเส้นทางรถไฟ
1865 11 พฤศจิกายน  มาร์ก ทเวน (Mark Twain) เขียนคำไว้อาลัยให้กับ สุนัข ชื่อ บัมเมอร์ (Bummer) เพื่อนสนิทของลาซารัส ลงในหนังสือพิมพ์ Daily Morning ที่เสียชีวิตจากคนเมาเตะ, Bummer and Lazarus เป็นสุนัขบ้างถนนในเมืองลอสแองเจเลส ที่มีความสามารถในการจับหนูได้เก่ง จนหนังสือพิมพ์หลายฉบับมาทำข่าว  ซึ่งบางทีสุนัขทั้งสองตัวก็ออกไปเที่ยวเล่นกับจักรพรรดินอร์ตัน ซึ่งความจริงแล้วเขาไม่ได้เป็นเจ้าของมัน แต่ว่าคนเขียนการ์ตูน เอาภาพทั้งนอร์ตันและสุนัขทั้งสองมาเขียนเป็นประจำ จนเรียกว่าเป็น The Three Bummers
1867 21 มกราคม อาร์มันด์ บาร์เบอร์ (Armand Barbier) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับตัวจักรพรรดินอร์ตัน ที่ 1 ในข้อหามีความผิดปกติทางจิต วิกลจริต แต่ว่าต่อมาหัวหน้าตำรวจ แพรทริก โครวเลย์ (Patrick Crowley) ได้สั่งให้มีการปล่อยตัวจักรพรรดิออกมา และขออภัยในความผิดผลาด ในขณะที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับก็ทำข่าวการถูกจับตัวครั้งนี้ 
1869 25 กรกฏาคม  นอร์ตัน ประกาศกฤษฏีกาฉบับใหม่ สั่งให้ชาวซานฟรานซิสโก ช่วยกันออกเงินให้กับเฟรเดริค แมร์ริออต (Frederick Mariott) ในการพัฒนาเครื่องบิน
2 สิงหาคม ประกาศพระราชกฤษฏีกา ยุบพรรค รีพลับลิกัน และพรรคเดโมแครต เพราะเห็นว่าขัดแย้งกับการปกครองอาณาจักรของพระองค์
15 ธันวาคม เดินทางออกจากซานฟรานซิสโก 
16 ธันวาคม ออกกฤษฏีกา ให้ชาวซาคราเมนโต้ ช่วยกันทำความสะอาดสถนนที่สกปรกและให้ติดไฟบนถนนเพื่อให้สวยงาม
1870 21 กันยายน  ออกกฤษฏีกาให้โรงแรมแกรนด์โฮเต็ล ทำความสะอาดห้องของเขา เป็นการลงโทษที่โรงแรมขับไล่ไสส่งเขา
1872 23 มีนาคม  กฤษฏีกาให้มีการเร่งสร้างสะพานระหว่างโอคแลนด์ พอยต์ (Oakland Point) ไปยังเกาะโก๊ต (Goat Island) 
21 กันยายน  สั่งให้มีการสำรวจว่าควรจะสร้างสะพานหรืออุโมงจึงจะเหมาะสมกว่ากันในการเชื่อระหว่างโอ๊คแลนด์และซาน ฟรานศซิสโก , หลังจากนั้นได้มีการออกคำสั่งให้มีการจับกุมตัวบอร์ดของเมืองที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
1873 2 มกราคม กฤษฏีกา ประกาศให้มีการประชุมเกี่ยวกับไบเบิ้ล สากลในซานฟานซิสโก ในวันเดียวกันนี้
8 มีนาคม ที่โรงละคร Metropolitan Theatre ได้มีการเรื่อง The Gold Demon ซึ่ง David Belasco แสดงเป็นจักรพรรดินอร์ตัน
1880 จักรพรรดิ นอร์ตัน ที่ 1 เสียชีวิต ในวันที่ 8 มกราคม ระหว่างที่เดินทางจากถนนแคลิฟอร์เนีย (California St.) มายังถนนแกรนต์ (Grand Ave.) เพื่อจะไปบรรยายที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติ (Academy of Natural Sciences) เนื่อจากมีอาการหัวใจวาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สังเกตุเห็นทันทีที่เขาล้มลง และได้พยายามเข้ามาช่วยและนำตัวส่งโรงพยาบาล City Receiving Hospital แต่ว่านอร์ตัน ได้เสียชีวิตไปก่อนที่จะไปถึงแล้ว
9 มกราคม หนังสือพิมพ์ต่างพากันพาดหัวข่าวว่า “นอร์ตัน ที่ 1 , จักรพรรดิแห่งสหรัฐอเมริกาและผู้พิทักษ์แห่งเม็กซิโก สวรรคต” หรือยังหนังสือพิมพ์ San Frincisco Chronicle ก็ตีพิมพ์พาดหัวว่า Le Roi ext Mort (The King is Dead)
10 มกราคม มีการประกอบพิธีศพของนอร์ตัน ที่ 1 ที่สุสานเมสัน (Masonic Cemetery) มีประชาชนกว่าหมื่นคนที่เดินทางมาร่วมในพิธี
1934 30 มิถุนายน มีการนำศพของจักรพรรดินอร์ตัน มาประกอบพิธีใหม่ที่สุสานวู๊ดลอน (Woodlawn cemetery) โดยประชาชนของเมืองซาน ฟรานซิสโก
1980 7 มกราคม ในซาน ฟรานซิสโก มีการจัดงานรำลึก 100 ปี การจากไปของจักรพรรดิพระองค์เดียวของสหรัฐอเมริกา บนถนนมอนโกเมอรี่ (Montgomery st.)
ระหว่างมีชีวิต จักรพรรดิ นอร์ตัน ชอบแต่งกายด้วยชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงิน มีอินทธนูสีทอง ซึ่งเขาได้รับมาจากเจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่ง  และสวมหมวดทรงสูงปักหมายกุหลาย ประดับด้วยขนนกยูง และชอบเดินตรวจตราทรัพย์สินสาธารณะว่าอยู่ในสภาพที่เหมาะแก่การใช้งานหรือไม่
เขาเป็นที่รักของชาวเมืองซานฟรานซิสโก และมักเข้าไปรับประทานอาหารในร้านหรูๆ ซึ่งทางร้านก็มีป้ายติดไว้ด้วยว่า “ได้รับการรับรองโดยจักรพรรดิ นอร์ตัน แห่งสหรัฐ”
Don`t copy text!