Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Pyotr Ufimtsev

ปีเตอร์ ยาคอฟเลวิช ยูฟิมเชฟ (Пётр Яковлевич Уфимцев
เงาแห่งเครื่องบินล่องหน (Shadowed Father of Stealth)
เขาเกิดในครอบครัวชาวนา ในปี 1931 ในหมู่บ้าน ชื่ิยูต-ชาริชสกี ปรีสตาน (Ust-Charyshsky Pristan, Усть-Чарыцскаф Пристань)เขตอัลไต (Altai Krai)  
พ่อ  ยาคอฟ ฟีโดโรวิช (Яков Федорович, Yakov Fedorovich Ufimtsev )
แม่ วาซิลลิซ่า โดโรปชิน (นามสกุลเดิม)(Василиса Васильевн Торопчин, Vacilisa Toroрchin)
เสียพ่อไปตั้งแต่ตอนที่อายุเพียงแค่ 3  ขวบ เพราะว่าพ่อของเขานั้นถูกจับและส่งตัวเข้าค่ายใช้แรงงานหนัก จนกระทั้งเสียชีวิต 
ยูฟิมเชฟ เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมภายในหมู่บ้าน ซึ่งในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2  นั้น เป็นช่วงที่คลาดแคลนอาหาร และเขาเองก็ได้รับวิตามินไม่เพียงพอ จนมีปัญหาสายตาสั้น แต่ว่าเขาปฏิเสธที่จะใส่แว่น เพราะว่าอายที่ถูกเพื่อนหัวเราะ
1949 เรียนจบชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนภายในหมู่บ้าน และได้สมัครเข้าเรียนที่คณะ ฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย อัลม่า-เอต้า (Alma-Ata State University) 
แต่เนื่องจากปัญหาสายตา เขาจึงได้รับการแนะนำให้ไปรักษาสายตาที่สถาบันสายตาในโอเดสสา (Odessa Forrensic Institute)ในยูเครน โดย ดร. วลาดิมีร์ ฟิลาตอฟ (Vladimir Filatov) เป็นผู้ที่รักษาเขา
1952  เพราะว่าการรักษากินเวลานาน ทำให้ยูฟิมเชฟย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยโอเดซสา (University of Odessa )
1954 สำเร็จการศึกษา สาขาทฤษฏีฟิสิกส์
หลังจากนั้นไปทำงานที่ สถาบันวิจัยวิศวกรรมคลื่นวิทยุ TSNRTI (ЦНИРТИ , www.cnirti) ในมอสโคว์ ซึ่งสถาบันนี้วิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาเรดาห์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เขาทำงานที่สถาบันแห่งนี้จนกระทั้งปี 1973

ช่วงปี  1960s ยูฟิมเชฟ พัฒนาทฤษฏีเกี่ยวกับการคาดคะเนการกระจายตัวของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าถี่สูง (high frequency asymptotic theory) สำหรับการทำนายการกระจายของคลื่อนแม่เหล็กไฟฟ้า สำหรับวัสดุรูปทรงสองมิติ และสามมิติ ซึ่งทฤษฏีนี้ต่อมาถูกเรียกว่าเป็น ฟิสิกส์เกี่ยวกับการกระจายตัวของคลื่น ( Physical Theory of Diffraction)
1962 พิมพ์ผลงานเรื่อง (Метод краевых волн в физической теории дифракции,Method of edge waves in the physical theory of diffraction ตีพิมพ์โดย สำนักพิมพ์โซเวียตเรดิโอ (Soviet Radio)  ตอนนั้นมันถูกพิมพ์มาในจำนวนไม่มากแค่ 6500 ก็อปปี้ แต่ว่าหนังสือเล่มนี้ได้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษโดย แผนกศึกษาข้อมูลด้านการบินและอวกาศ , ฐานทัพอากาศวไรต์-แพทเทอร์สัน (National Air and Space Intelligence Center , Wright-Patterson Air Force Base)กองทัพอากาศสหรัฐ ประจำรัฐโอไฮโอ และพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษในปี 1971
โครงการพัฒนาเครื่องบินสเตรลของสหรัฐเริ่มในปี 1975 โดยบริษัทล็อคฮีด  (Lockheed) ในชื่อรหัสโครงการ Have Blue โดยที่ เบน ริช (Ben Rich) เจ้าของฉายาบิดาแห่งสเตลธ์ (Father of Stealth) เป็นผู้อำนวยการของโครงการนี้ 
เบน ริช ได้อ่านหนังสือ Method of edge waves in the physical theory of diffraction ของยูฟิมเซฟ ที่อธิบายว่าการสะท้อนของเรดาห์ เกิดจากมุมขอวัตถุมากกว่าขนาดของมัน ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างวัตถุที่แม้จะมีขนาดใหญ่แต่ก็สามารถทำให้ให้เสมือนล่องหนจากเรดาห์ได้ 
เบน ริช ได้เรียกตัวนักคณิตศาสตร์ของล็อคฮีต ได้แก่  บิล ชโรเดอร์ (Bill Schroeder) และโปรแกรมเมอร์ เดนิส โอเวอร์โหลเซอร์ (Denys Overholser) มาศึกษาและสร้างแบบจำลองจากทฤษฏีของยูฟิมเชฟ  
นี้เองที่ทำให้เครื่องบินล่องหนลำแรกของโลกสำเร็จออกมาได้เป็น F-117 ในปี 1981  ,  บริษัทนอร์ทอฟ ก็ใช้ทฤษฏีของยูฟิมเชฟในการทำโปรแกรมจำลองสำหรับการสะท้อนของเรดาห์ของเครื่องบินบินระเบิด B-2
1973 เข้าทำงานที่สถาบัน Institute of Radio Engineering and Electronics, Academy of Sciences
ซึ่งระหว่างทำงานอยู่ในมอสโคว์นี้เขามีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องของการสะท้อนของแสงเลเซอร์ แต่ว่าในตอนนั้นผลงานของเขาถูกวิจารณ์ว่าไม่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและการทหาร ทำให้เขาได้รับอนุญาตจากทางการในการตีพิมพ์ผลงานวิจัยของเขาในต่างประเทศได้
1990 เข้าไปทำงานที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (University of Carifornia, Irvine www.uci.edu) ในสหรัฐ ในคณะวิศวกรรมอิเล็กทรอนิสก์ ซึ่งในสหรัฐเขาได้ถูกจ้างจาก บ.นอร์ทรอฟ ให้ร่วมโครงการพัฒนเครื่องบินล่องหน  B-2 ด้วย
ได้รับรางวัล  USSR State Prize
1991 ได้รับรางวัล Leroy Randle Grumman Medal
ทุกวันนี้ ดร.ยูฟิมเชฟ วัย 81 ปี ยังคงอาศัยอยู่ในแคลิฟอร์เนีย เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับหลายมหาวิทยาลัยในสหรัฐ อิตาลี และรัสเซียด้วย
Don`t copy text!