Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Mikhail Sholokhov

มิคาอิล อเล็กซานโดรวิช โชโลคอฟ (Михаил Александрович Шолохов)

เจ้าของรางวัลโนเบล สาขา วรรณกรรม จากนวนิยายเรื่อง Quiet Flows the Don ที่เขาอาจไม่ใช่คนแต่ง
โซโลคอฟ เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1905 ในครูซลินิน แฮมเลต (Kruzhlinin hamlet) สตานิตส่า (Stanitsa) ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวคอสแซค ในจังหวัดเวเชนสกาย่า (Veshenskaya) เขต รอสตอฟ-ออน-ดอน (Rostov on Don region)
เขาเกิดในของครัวของเกษตรกร พ่อของเขาเป็นเกษตรกร และพ่อค้าปศุสัตว์ ชื่อว่าอเล็กซานเดอร์ (Aleksander, 1865-1925) ภูมิลำเนาเดิมของเขาอยู่ในเรียซาน (Ryazan)  แม่ชื่ออนาสตาเซีย (Anastasia Chermikova, 1871-1942) เป็นสตรีชาวคอสแซค จากยูเครน พ่อของเธอเป็นทาส ซึ่งเธอเป็นผู้หญิงที่อ่านเขียนไม่ได้ แต่เริ่มเรียนเขียนหนังสือเมื่ออายุ  40 แล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ส่งเสียให้ลูกเข้าโรงเรียน 
เพราะสงครามโลก ครั้งที่ 1 ทำให้โซโลคอฟต้องย้ายโรงเรียนบ่อยมาก เขาเริ่มเรียนในโรงเรียนที่มอสโคว์ ก่อนที่จะย้ายไปเมืองโบกุชาร์  ในเขตโวโรเนซ (Boguchar, Voronezh region) และก็ย้ายมาเรียนที่เมืองเวเชนสกาย่า(Veshenskaya, Rostov region) จนเรียนจบมัธยม 4 ในปี 1918 
 ช่วงสงครามกลางเมืองในรัสเซีย นั้นเขาอายุเพียง 13 ปี แต่เลือกที่จะเข้ากลับฝ่ายของบอลเชวิค และร่วมต่อสู้ในสงครามกลางเมืองด้วย ข้อมูลบางแห่งก็บอกว่าเขามีหน้าที่ในการยึดเอาผลผลิตชาวนาฐานะดีที่ไม่ยอมสนับสนุนบอลเชวิค
1920 อาศัยอยู่ร่วมกับพ่อแม่ในหมู่บ้าน การ์กินสกาย่า (Karginskaya, Rostov region) ระหว่างนี้ได้เข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเกษตรกรที่ศึกษางานเขียน, ทำงานเป็นครูในโรงเรียนประถม และเป็นคณะกรรมการการปฏิวัติของเมือง ทำหน้าที่ในการเก็บภาษี ผลผลิตจากเกษตรกร
1922 ตุลาคม ตอนอายุได้ 17 ปี เขาย้ายมาอยู่ในมอสโคว์เพราะอยากจะเรียนต่อ เขาต้องทำงานเป็นกรรมกรรับจ้างทั่วไปเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง เขาเริ่มงานเขียนด้วยการเข้าร่วมกับกลุ่ม Young Guard และไม่นานต่อมาก็ได้เข้าร่วมกับยุวคอมมิวนิสต์
1923 ในหนังสือพิมพ์ Youth Truth (Юношеская правда, 1919-1923) ปรากฏผลงานเขียนคอลัมน์แนวเสียดสีครั้งแรก
1924 11 มกราคม , แต่งงานกัน  มาเรีย โกรโมสลาฟสกาย่า (Maria Gromoslavskaya) ลูกสาวของอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ,  ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 4 คน
ผลงานเขียนเรื่องสั้นของเขาเรื่องแรกได้รับการตีพิมพ์ลงใน Youth Truth หนังสือพิมพ์หลายฉบับ จากนั้นก็เริ่มรวมรวมผลงานเขีียนเรื่องสั้นพิมพ์ออกมาในชื่อ  Tales of the Don 
1925 เขาเดินทางกลับอยู่ที่เมืองดอน
1926 Lazurevaya Step หนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มใหม่พิมพ์ออกมา
นวนิยาย เรื่องแรกที่เขาเขียนออกมาชื่อ Quietly Flows The Don (Тихий Дон) เขาเริ่มต้นเขียนในช่วงนี้ และมันกินเวลานานถึง   14 ปี ในการทำให้งานสมบูรณ์ 
1928 Quietly Flows The Don  เริ่มพิมพ์ออกมาครั้งแรก ในตอนที่ 1  และที่ 2 กับแม็กกาซีน October  , ผลงานนี้เล่าเรื่องของชาวคอสแซค ในเมืองดอน (Don Cossack)  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และในช่วงสงครามกลางเมืองในรัสเซีย  การถูกกดขี่และต้องต่อสู้กับบอลเชวิค จนพลเมืองของเมืองดอนถูกสังหารไปกว่าครึ่ง ตัวเอกของเรื่อง กริกอรี่ เมเลคอฟ (Grigory Melekhov) 
แต่ว่าไม่นานหลังจากนั้นก็มีข่าวลืออกมาว่าโชโลคอฟสังหารนายทหารคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เขียน แล้วเอาต้นฉบับงานเขียนของคนอื่นมาพิมพ์ในชื่อของตัวเอง และมีหญิงชราคนหนึ่งบอกว่าลูกชายที่เสียชีวิตของเธอเป็นคนเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา
1929 นักวิทยาศาสตร์ของโซเวียต  คอนสแตนติน ฟรีม่า (Konstantin Pryyma) พยายามที่จะพิสูจน์ข่าวลือดังกล่าว ทำให้ทางการสั่งระงับการพิมพ์ออกไป
บรรณาธิการของแม็กกาซีน October  , อเล็กซานเดอร์ เซราฟิโมวิช  (Alexander Serafinovich) อ้างว่า เพราะนักเขียนคนอื่นอิจฉาในอัจฉริยะภาพของโชโลคอฟ ซึ่งมีอายุเพียง 22 ปี 
ทามกลางกระแสโจมตีว่าเขาขโมยผลงานคนอื่นมา โซโคลอฟ จึงได้ส่งต้นฉบับเขียนด้วยลายมือของเขาให้แก่คณะกรรมการสอบสวน ที่ตั้งโดยสมาคมนักเขียนแห่งรัสเซีย (Russian Association of Proletarian Writers) เพื่อเป็นหลักฐาน แต่ว่าประธานคณะกรรมการสอบสวนนี้ ก็คือนายอเล็กซานเดอร์ เซราฟิโมวิช
มีนาคม หนังสือปราพด้า  ตีพิมพ์จดหมายของ RAPW ที่สรุปว่าข้อกล่าวหาว่าโชโลคอฟ ขโมยผลงานนั้นเป็นเท็จ และข้อกล่าวหาถูกยกเลิกไป , แต่ว่าต้นฉบับที่โซโคลอฟ ส่งให้คณะกรรมการชุดนี้ ในตอนนั้นมีคนน้อยมากที่ได้เห็นฉบับจริง และต่อมามันได้สูญหายไปในช่วงสงครามโลก ก่อนที่จะพบอีกครั้งในปี 1999 ซึ่งเนื้อหา ใกล้เคียงกับเรื่อง Tales of Don มากกว่า
1930 โซโลคอฟ เกือบจะถูกจับเพราะ Quietly Flows The Don ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะกับอุดมการณ์ของคอมมิวนิสต์ เพราะเรื่องจบโดยที่ตัวเอกยังคงเป็นผู้สนับสนุนกองทัพขาว  และยังถูกกล่าวหาว่าแท้จริงแล้วมันเขียนโดย ฟีโอดอร์ ครุคอฟ (Fyodor Kryokov) ซึ่งเป็นนักเขียนเชื้อสายคอสแซคที่ต่อต้านบอลเชวิคและเสียชีวิตไปในปี  1920  , แต่ว่าสตาลิน ได้อนุญาตให้ผลงานตีพิมพ์ต่อไปได้
1932 Virgin Soil Upturned พิมพ์ออกมาตอนแรกชื่อ Seeds of Tomorrow ทำให้เขาได้รับ Lenin Prize (ในปี 1961)แต่เขาใช้เวลาอีก 28 ปี กว่าที่ตอนที่สอง Harveest on the Don จะพิมพ์ออกมาในปี 1960 
1937 ข่าวเรื่องการขโมยผลงาน Quietly Flows The Don กลับมาอีกครั้ง เมื่อหนังสือพิมพ์ The Hammer ,และคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ในรอสตอฟ ได้รับจดหมายร้องเรียน ว่าผู้เขียนเรื่องดังกล่าว แท้จริงแล้วเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียงชาวคอสแซค และเขายังเป็นสมาชิกของกองทัพขาว ชื่อว่า ฟีโอดาร์ ครุสคอฟ (Fyodor Kryukov) ซึ่งครุสคอฟ เสียชีวิตในปี 1920 ระหว่างสงครามกลางเมืองด้วยโรคไทฟอยด์
หนึ่งในคนที่เห็นว่าโชโลคอฟ ไม่น่าจะเป็นคนเขียนเรื่องนี้ คือนักเขียนรางวัลโนเบล อเล็กซานเดอร์ โซลเชนิตซิน (Aleksandr Solzhenitsyn)
1941 Quietly Flows the Don ได้รับรางวัล Stalin Prize
1940s  ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาต้องไปทำงานกับกองทัพ โดยรับหน้าที่เป็นนักข่าวทหาร 
1965 Quietly Flows The Don  ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม
1984 เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในลำคอ

1999 หลังมีการค้นพบต้นฉบับที่โชโคลอฟ ส่งให้กับคณะกรรมการสอบสวนเมื่อปี 1929 แล้ว , ต้นฉบับหายไปในช่วงสงครามโลก เพราะว่าบ้านของโชโลคอฟ นั้นถูกทิ้งระเบิดในช่วงสงคราม เพื่อนของโชโคลอฟ คนหนึ่งชื่อว่า วาสสิลี คุดาชอฟ (Vassily Kudashov) เป็นทหารแต่เสียชีวิตในสงคราม ภรรยาม่ายของคุดาชอฟ เก็บต้นฉบับอันหนึ่งของโชโลคอฟ เอาไว้ แต่เธอไม่เคยเปิดเผย จนกระทั้งสถาบัน Institute of Wolrd Literature, Academy of Science สามารถต้นฉบับเจอ
ต้นฉบับดังกล่าว มีทั้งหมด 885 หน้า โดย 605 หน้าเขียนด้วยลายมือของโชโคลอฟ ในขณะที่ 280 หน้า เขียนโดยภรรยาและน้องสาวของโชโคลอฟ  ทำให้หลายคนหมดข้อสงสัยในการเป็นเจ้าของผลงาน โดยโชโคลอฟ 
แต่ว่าผู้ที่สงสัยก็ยังมีอยู่ โดยพวกเขาบอกว่าการค้นพบต้นฉบับลายมือนั้นไม่ได้หมายความว่าโซโคลอฟ แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาเอง เขาอาจจะลอกผลงานจากต้นฉบับตัวจริงอีกทีหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาต้องให้ภรรยาและน้องสาวช่วยในการลอกให้เสร็จก่อนส่งคณะกรรมการ
ข้ออ้างของผู้ที่ยังสงสัยก็คือ
โชโคลอฟ ยังเด็กเกินไปตอนที่เขียนนิยายเรื่องนี้ แต่เขากลับสามารถบรรยายเหตุการณ์ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามกลางเมือง ตลอดจนภูมิศาสตร์และวิธีชีวิตของชาวคอสแซคได้ดี ซึ่งคนทั่วไปอาจจะใช้เวลานานในการรู้จักเมืองดอนอย่างละเอียด นอกจากนั้นผู้อ่าน Quiet Flow the Don เทียบกับ Tales of Don ย่อมเห็นถึงอถรรสที่แตกต่างกันของงานทั้งสอง / แต่ฝ่ายสนับสนุนเขาก็บอกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานในการรู้เรื่องราวต่างๆ ไม่จำเป็นต้องไปยังสถานที่จริง แต่หาอ่านจากหนังสือที่มีอยู่มากมายก็ได้
ข้อถกเถียงเรื่องใครกันแน่ที่แต่ง Quietly Flows the Don ไม่ได้ข้อสรุปจนปัจจุบัน ซึ่งโชโคลอฟ ก็ยังคงควรได้รับเครดิตต่อไปว่าเป็นผู้แต่งนิยายเรื่องนี้
ผลงานเขียน
• Донские рассказы (Tales of Don)
• Лазоревая степь (Azure Steppe)
• Тихий Дон (Quiet Flows the Don)
• Поднятая целина (Virgin Soil Upturned)
• Они сражались за Родину (They Fought for Their Country , 1942-1969 เขียนไม่เสร็จ)
• Наука ненависти (The Science of Harted, 1942)
• Слово о Родине (Word of the Motherland)
• Судьба человека (The Fate of a Man ,1956-1957)
Don`t copy text!