Thomas More

ผู้สร้างยูโทเปีย (Utopia)

มอร์ เกิดในลอนดอน วันที่ 7 กุมภาพันธ์ เขาเป็นลูกชายของเซอร์ จอห์น มอร์ (Sir, John More) มีอาชีพเป็นผู้พิพากษา กับมารดาชื่อแอ็กเนส เกรานเจอร์ (Agnes Graunger)

เขาเริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์แอนโธนี (St. Anthony’s school) 

1490 มาอาศัยอยู่ที่บ้านของอารช์บิชอฟจอห์น มอร์ตัน (John Morthon, Archbishop of Canterbury) แห่งแคนเตอร์เบอรี่  

1492 มอร์เข้าเรียนที่อ็อกฟอร์ด โดยได้เรียนกับ โธมัส ไลเนเกร (Thomas Linacre) และ วิลเลี่ยม โกลซิน (William Grocyn) ระหว่างที่เรียนนี้เขาสนใจวรรณกรรมของกรีซและลาติน ซึ่งมีผลงานแปลประวัติของจิโอวานนี มิรันโดร่า (Giovanni Pico della Mirandola) นักปรัญชาวอิตาลี  ออกมาในปี 1510 

1494 ออกจากอ๊อกฟอร์ด 

1496 กลับมาเรียนด้านกฏหมายที่ลอนดอนอินน์ (Lincoln’s Inn)

1501 ได้รับตำแหน่งเนติบัณทิต (Barrister)

1504 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทน ในฐานะตัวแทนของเมืองเกรตยาร์เมาธ์ (Great Yarmounth) 

1505 แต่งงานกับเจน โคล์ต (Jane Colt) ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสี่คน มาร์กาเร็ต (Margaret), อลิซาเบธ (Elizabeth), ซิเซลี (Cicely) และจอห์น  (John) มอร์เป้นพ่อที่ให้ความสำคัญกับการเรียนของลูกมาก แม้ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงก็ตามซึ่งเป็นความคิดที่แปลกในยุคนั้น

1510 ได้รับเลือกตั้งอีกครั้งในฐานะตัวแทนของลอนดอน

1511 เจน ภรรยาของเขาเสียชีวิต

มอร์แต่งงานใหม่กับอลิส มิดเดิลตัน (Alice Middleton)  เป็นแม่ม่ายที่มีฐานะดี เธอมีติดหนึ่งคนเป็นผู้หญิง แต่ว่าไม่มีลูกกับมอร์

1514 ได้รับการแต่งต้งให้หนึ่งในองคมนตรี ทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับกษัตริย์เฮนรี่ ที่ 8 (King Henry VIII) 

History of King Richard III , หนังสือเกี่ยวกับประวัติกษัตริย์ริชาร์ด ที่ 3 กษัตริย์ที่โหดร้ายคนหนึ่งของอังกฤษ แม้ว่ามอร์จะเขียนไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่หนังสือเล่มนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเชคเปียร์ (Shakespeare) ในการเขียนละครเวทีเรื่องเดียวกัน

1516 Utopia : Nowhere Land ถูกพิมพ์ออกมาครั้งแรกเป็นภาษาลาติน มอร์ได้เครดิตว่าเป็นผู้ประดิษฐ์คำว่ายูโธเปียนี้ ซึ่งมาจากภาษากรีก   ευ (eu),  οὐ (not) , τόπος (topos , แผ่นดิน) ซึ่งแปลว่าดินแดนที่ดี หรือดินแดนที่ไม่มีจริง ยูโธเปียของมอร์ มีการปกครองแบบสาธารณรํฐตามความคิดของพลาโต  มอร์บอกว่ามันเป็นรูปแบบการปกครองแบบสาธารณรัฐชนิดที่ดีที่สุดที่ตั้งอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งชื่อยูโธเปีย เกาะแห่งนี้ถูกแบ่งเป็ฯ 54 เมืองและมีเมืองหลวงชื่ออมัวร็อต (Amaurot) ที่ซึ่งประชาชนทุกคนต้องทำงาน หญิงและชายมีความเสมอภาค ประชาชนไม่มีสิทธิในการเป็นเจ้าของที่ดิน อาหารและสิ่งของที่จำเป็นจะถูกเก็บไว้เป็นกองกลางและจะให้กับคนที่จำเป็นต้องใช้ ประชาชนจะมีสิทธิเลือกกษัตริย์ ซึ่งจะดำรงตำแหน่งตลอดไปหากไม่มีการคอร์รัปชั่น

1520 เมื่อมาร์ติน ลูเธอร์ (Martin Luther) เขียนหนังสือหลายเล่มโจมตีแคโธริก  , กษัตริย์เฮนรี่ ที่ 8 ได้ตอบโต้ด้วยการเขียน Assertio โดยที่มอร์ทำหน้าที่ที่ปรึกษา

1525 ได้รับตำแหน่งแชลเลอร์แห่งดัชชี่ออฟแลนคาสเตอร์ (Chancellor  of the Duchy of Lancaster) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินส่วนใหญ่ของราชวงศ์อังกฤษ  และยังได้รับตำแหน่งประธานสภาผู้แทน (House of Common) 

มอร์ปฏิเสธท่จะให้การรับรองการหย่าของเฮนรี่ ที่ 8 กับแคทเธอรีน แห่งอาราก้อน (Katherine of Aragon)

1529 ตุลาคม, ได้รับตำแหน่งลอร์ดแซลเลอร์ (Lord Chancellor) ตำแหน่งสำคัญอันดับสองในสภาของอังกฤษ ซึ่งมีฐานะเป็นหัวหน้ากระบวนการยุติธรรม

1532 พฤษภาคม ลาออกจากตำแหน่งลอร์ดแชลเลอร์  เพราะปัญหาความขัดแย้งกับเฮนรี่ ที่ 8 เกี่ยวกับการหย่าและอภิเษกใหม่ , นอกจากนั้นเฮนรี่ ยังต้องการที่ตัดความสัมพันธ์กับโรม  และตั้งนิกายของอังกฤษ (Church of England) เองขึ้นมา

1533 มิถุนายน, มอร์ปฏิเสธการไปร่วมในพิธีสถาปนาพระราชินีองค์ใหม่ แอนน์ โบเลียน (Anne Boleyn)

1534 ถูกกล่าวหาว่ามีสมรู้ร่วมคิดกับแม่ชี อลิซาเบธ บาร์ตัน (Elizabeth Barton, the nun of Kent)  เพื่อขวางไม่ให้เฮนรี่ ที่ 8 ตัดความสัมพันธ์กับโรม แม่ชีบาร์ตันกล่าวประณามพระราชาต่อสาธารณะชนในเรื่องดังกล่าวจนถูกจับ  แต่ว่ามอร์ไม่โดนจับเพราะได้รับความคุ้มคลองในฐานะที่ยังมีตำแหน่งในสภาสูง (House of Lords) 

เมษายน, มอร์ปฏิเสธที่จะให้คำสัตย์ต่อกฏหมาย Act of Succession(กำหนดให้เจ้าหญิงอลิซาเบธ (Elizabeth) ซึ่งยังอยู่ในพระครรถ์ของแอนน์ โบเลียน เป็นผู้สืบทอดอังกฤษอย่างถูกต้อง และลิดสิทธิของเจ้าหญิงมารี (Mary) พระราชธิดาที่เกิดกับแคทเธอรีน แห่งอาราก้อน ), Act of Supremacy  (ให้ถือว่ากษัตริย์เป็นผู้นำสูงสุดของคริสต์จักร)

ซึ่งหากสมาชิกสภาผู้ใดปฏิเสธการให้สัตย์วาจา  จะมีความผิดข้อหากบฏตามกฏหมาย Treason Act 1534

1535 17 เมษายน ถูกจับในข้อหาเป็นกบฏ และนำไปขังที่ปราสาทหอคอยลอนดอน (Tower of London) ระหว่างระการสอบสวน

6 กรกฏาคม ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดคอ ร่างที่ไร้ศรีษะนั้นถูกเผาภายในห้องเซนต์ปีเตอร์แอ๊ดวินคูล่า (St.Peter ad Vincula) ซึ่งใช้เผาร่างนักโทษที่ถูกตัดหัว ส่วนศรีษะของถูกนำไปเสียบประจานไว้ที่สะพานลอนดอน (London Bridge) นานนับเดือน 

1935 19 พฤษภาคม, พระสันตะปาปาปิอุส ที่ 11 (Pope Pius XI) แต่งตั้งให้มอร์เป็นนักบุญ (feast day , 9 กรกฏาคม)