Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Mikhail Bakhtin

มิคาอิล แบคติน (Михаил Михайлович Бахтин)

นักปรัญชา , นิยาม “polyphony”

แบคติน เกิดในออร์โยล (Oryol)  เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 1895 ในครอบครัวที่มีฐานะดี พ่อของเขาเป็นผู้จัดการธนาคาร
1905 ย้ายมาอยู่ที่วิลเนียส (Vilnius) 
1911 มาอยู่ที่โอเดสสา (Odessa)
1913 เข้าเรียนมหาวิทยาลัยด้านประวัติศาสตร์และปรัญชาี่มหาวิทยาลัยโนโวรอสสิ (Novorossiysk University) แต่ต่อมาได้ย้ายมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเปโตรกราด (University of Petrograd) 
1918 เมื่อเรียนหนังสือจบ ได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองเนเวล (Nevel, Pskov Oblast) เมืองเล็กๆ ทางตะวันตกของรัสเซียในเขตพัสกอฟ โดยที่เขาทำงานเป็นครูสอนหนังสือ ระหว่างที่เป็นครูอยู่สองปีได้เกิดกลุ่มผู้ติดตามที่สนใจงานเขียนของเขา กลุ่ม Bakhtin Circle  หนึ่งในสมาชิกเหล่านั้นเช่น วาเลนติน โวโลชินอฟ (Valentin Voloshinov) พี เมดเวเดฟ (P.N. Medvedev)
1919 13 กันยายน, มีผลงานเขียนบทความชื่อ Art and Responsibility (Искусство и ответственность) พิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ Day of Art 
1920 ย้ายมาอยู่ที่วิเตปส์ก (Vitebsk) 
1921 แต่งงานกับเยลีน่า โอโกโลวิช (Elena Aleksandrovna Okolovich, Елене Александровне Околович) 
1923 เริ่มมีอาการป่วยด้วยโรคกระดูกอักเสบ (osteomyelitis) ซึ่งทำให้เขาเดินเหินได้ไม่สะดวกนานนับสิบปี
1924 ย้ายมาอยู่ที่เลนินกราด โดยได้งานที่สถาบันประวัติศาสตร์ และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับสำนักพิมพ์ของรัฐ (State Publishing House) 
1927 โวโลชินอฟ มีผลงานเรื่อง Freudianism : A Critical Sketch
1928 เมดเวเดฟ พิมพ์ผลงาน Formal Method in Literary Scholarhip
1929 โวโลชินอฟ พิมพ์ Marxism and the Philosophy of Language
1929 Problems of Dostoevsky’s  (Проблемы творчества Достоевского) เป็นผลงานสำคัญชิ้นแรกของเขา ซึ่งวางแนวความคิดของคำว่า Polyphonic ในงานวรรกรรมของดอสโตเยฟสกี ซึ่งตัวละครคนหนึ่งมีความคิดในเรื่องหนึ่งๆ มากกว่าแนวคิดเดียวและมักถกเถียงในตัวเอง  
แต่ว่าช่วงนี้แบ็คตินถูกกล่าวหาว่าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม Resurrection กลุ่มใต้ติดที่นับถือออโธดอกซ์อย่างลับๆ ซึ่งเป็นช่วงที่สตาลินกำลังกวาดล้างนักเขียนที่ต้องสงสัยว่ามีแนวคิดต่อต้านการปฏิวัติ 
24 ธันวาคม, แบ็คตินถูกจับ และเขาถูกตัดสินเนรเทศไปไซบีเรีย แต่แบ็คตินได้อุทรณ์ว่าเขามีสุขภาพที่ไม่ดี ทำให้ที่สุดแล้วถูกส่งไปยังคาซัคสถานเป็นเวลา 6 ปี แทน
ในคาซัคสถานแบ็คตินมาทำงานอยู่ที่เมืองคัสตาไน (Kustanai) 
1935 Discourse in the Novel (Слово в романе ~World in the Novel) พิมพ์ออกมาระหว่างอยู่ในคัสตาไน
1936 สอนหนังสือที่วิทยาลัยครูมอร์โดเวียน (Mordovian Pedagogical Institute) ในเมืองซาแรนส์ก (Saransk) , ในปีนี้โวโลชิลอฟเสียชีวิตด้วยวัณโรค
1937 ย้ายมาอยู่ที่เมืองคิมรี (Kimry) ห่างจากมอสโคว์ประมาณร้อยกิโลเมตร ช่วงนี้มีผลงานเขียนอย่าง Forms of Time and of the Chronotrope (Формы времени и хронотопа в романе) , Novel of Education and its Importance in the history of realism (Роман воспитания и его значение в истории реализма)
1938 เมดเวเดฟถูกจับและถูกยิงเป้า 
1940 มาอยู่ที่มอสโคว์ ซึ่งเขาได้ส่งผลงานเขียน Rabelais and His World: carnival and grotesque ของตัวเองไปที่สถาบันกอร์กี (Gorky Institute of World Literature) เพื่อขอปริญญาเอก แต่ว่างานของเขาไม่ได้รับการพิจารณาเพราะเกิดสงครามโลกเสียก่อน 
1941 Epic and Novel
1945 หลังสงคามโลกย้ายกลับมาทำงานที่วิทยาลัยครูมอร์โตเวียน ในซาแรนส์ก
1957 เมื่อวิทยาลัยครูมอร์โดเวียนได้เลื่อนชั้นเป็นมหาวิทยาลัย (Mondovia State University)  แบ็คตินได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการของภาควิชาวรรณกรรม
1961 เกษียรราชการ
1963 Problems of Dostoevsky’s Poetics ถูกพิมพ์ออกมา แต่เป็นผลงานที่เหมือนแต่งขึ้นใหม่ต่างกับเล่มแรก 
1969 ย้ายมาอยู่ที่มอสโคว์
1974 On the methodology of the humanities (К методологии гуманитарных наук) เป็นผลงานเขียนเรื่องสุดท้าย
1975 เสียชีวิตในมอสโคว์ งานเขียนส่วนใหญ่ของเขาเป็นที่รู้จักหลังจากเสียชีวิตไปแล้ว รวมถึงผลงานที่เขียนโดยโวโลชินอฟ และเมดเวเดฟ เชื่อกันว่าแท้จริงแล้วเป็นผลงานของแบ็คติน
Don`t copy text!