Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Hugo Chavez

ฮูโก้ ชาเวช (Hugo Rafael Chavez Frias)

ประธานาธิบดี เวเนซูเอล่า ระหว่าง 1999-2013
ชาเวช เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม 1954 ในหมู่บ้านซามาเนต้า รัฐบารินาส (Sabaneta, Barinas State) ครอบครัวของเขาเป็นทั้งพ่อและแม่ต่างก็เป็นครูในโรงเรียนประถม พ่อของเขาชื่อ ฮูโก้ เรเยส ชาเวซ (Hugo de los Reyes Chavez) และแม่ชื่ออีเลน่า ฟรีแอส (Elena Frias) ชาเวซเป็นลูกคนที่สองในพี่น้องเจ็ดคน แต่มีสองคนที่เสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเป็นทารก  
ชาเวซถูกส่งไปอยู่กับยายชื่อ โรซ่า (Rosa Ines Chavez) ให้เป็นคนเลี้ยงดู  ชาเวชชอบเล่นเบสบอลมาตั้งแต่เล็ก และเมื่อโตขึ้นยังมีความสามารถในการวาดรูป เล่นดนตรี และเขียนบทกวี 
1966 เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนจูเลียนปิโน่ (Julian Pino Elementary School) 
1960s ย้ายมาที่บารินาส และเรียนต่อระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนดาเนียลโอเลียรี่ (Liceo Florentino Daniel O’ Leary)
1971 ตอนอายุ 17  ปี สมัครเข้าเรียนในสถาบันทหารในคาราคัส (Venezuelan Academy of Military Sciences, Caracas)
1975 7 กรกฏาคม, สำเร็จการศึกษา โดยได้รับยศว่าที่ร้อยโท (Sub-Lieutenant) และปริญญาทางด้านวิทยาศาสตร์และศิลปะการทหาร (military arts and science)  เอกวิศวกรรม , หลังจากนั้นในปีเดียวกันได้เข้าฝึกอบรมในหลักสูตรการสื่อสาร ในโรงเรียนการสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ของกองทัพ (School of Communications and Electronics of the Armed Forces) 
ช่วงเวลานี้เริ่มสนใจงานเขียนของมาร์กซ, เลนิน, และเหมา แต่ว่าหนังสือเล่มโปรดของเขาคือ The Times of Ezequiel Zamora
1977 ก่อตั้ง Venezuelan People’s Liberation Army 
แต่งงานกับแนนซี (Nancy Colmenares) พวกเขามีลูกด้วยกันสามคนคือ โรซ่า (Rosa Virginia, b.1978) มาเรีย (Maria Gabriela, b 1980) และ ฮูโก้ (Hugo Rafael, b. 1983)
1979 ได้รับยศร้อยโท
1982 ได้รับยศร้อย 
17 ธันวาคม, ก่อตั้ง Revolutionary Bolivarian Movement-200 (MBR-200) ร่วมกับนายทหารคนอื่นๆ อย่าง เจซัส เฮอร์นันเดก (Jesus Urdaneta Hernandex),ฟิลิเป้ คาร์เลส ( Felipe Acosta Carles),ราอูล บาดูเอล (Raul Isaias Baduel)  ภายใต้ต้นซามาน เดอ กูเร่ (Samán de Guere , ต้นก้ามปู (Saman tree) ในหมู่บ้านกูเร่ (Guere village) ซึ่งเกี่ยวข้องกับอิสระภาพของประเทศในหลายเหตุการณ์ ต้นก้ามปูต้น ในปี 1933 ประธานาธิบดีจวน โกเมซ (Juan Vicente Gomez)  ประกาศให้เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นเอกราชของเวเนซูเอร่า) ชาเวซ อ้างถึง ซาโมร่า (Ezequiel Zamora) , ซิม่อน โบลิวาร์ (Simon Bolivar) และ ไซม่อน โรดรีเกียซ (Simon rodriguez) นักรบที่ต่อสู้เพื่อเอกราชของประเทศในต่างยุคสมัยกันว่าเป็น รากของต้นไม้ (Three roots of tree) 
ช่วงเวลานี้ได้รู้จักกับเฮอร์ม่า มาร์กแมน (Herma Marksman) ซึ่งทั้งคู่ชื่นชอบในความคิดของกันและกัน และมีความสัมพันธ์กันอย่างลับๆ 
1989 เข้าเรียนปริญญาโทรัฐศาสตร์การเมืองที่มหาวิทยาลัยไซม่อน โบลิเวียร์ (University of Simon Bolivar)
เกิดเหตุการสังหารหมู่ El Caracazo ในสมัยของประธานาธิบดีคาร์ลอส เปเรซ (Carlos Andres Perez) ซึ่งพาเวเนซูเอร่าเข้าสู่โปรแกรมช่วยเหลือของไอเอ็มเอฟ (IMF) ทำให้รัฐบาลของเขาต้องตัดงบประมาณจำนวนมาก จนประชาชนไม่พอใจและพากันประท้วง ปธน.เปเรซ จึงสั่งให้ใช้กำลังเข้าปราบปราม และมีผู้เสียชีวิตเกือบสามร้อยคน 
1990 สำเร็จ ป.โท และปีนี้ได้รับยศพลโท
1992 Operation Zamora ,4 กุมภาพันธ์ , MBR-200 พยายามจะทำการปฏิวัติโค่นประธานาธิบดีคาร์ลอส เปเรส  โดยชาเวซนำทหารเกือบสองพันคน เพื่อต้องการปลดเวเนซุเอล่าออกจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ  (IMF)
แต่ว่าแผนการล้มเหลว และชาเวสได้ยอมมอบตัว เขาถูกนำตัวไปขังที่เรือนจำทหารซานคาร์ลอส (San Carlos mlitary stackade) ทางเหนือของคาราคาส 
เขาหย่ากับภรรยาหลังถูกจับตัว และความสัมพันธ์กับเฮอร์ม่าก็ยุติลงด้วย 
1994 ราฟาเอล คาลเดร่า (Rafael Caldera) ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี หลังจากนั้นเขาได้ปล่อยตัวชาเวสและสมาชิกของ MBR-200 ซึ่งเป็นคำสัญญาตามที่คาลเดร่าได้หาเสียงเอาไว้ ชาเวซออกจากเรือนจำในวันที่ 26 มีนาคม 
1997 แต่งงานกับมาริซาเบิล (Marisable Rodriguez)เธอมีอาชีพเป็นนักข่าว ชาเวซเป็นสามีคนที่สองของเธอ เธอมีลูกสาวกับชาเวซคือ โรซ่า (Rosines Chavez) 
1998 MBR-200 เปลี่ยนเป็นพรรคการเมือง The Movement for the Fifth Republic, MVR ทำหน้าที่สนับสนุนชาเวสในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี  6 ธันวาคม,  ชาเวสชนะการเลือกตั้งโดยได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 56.20% 
1999 2 กุมภาพันธ์, รับตำแหน่งประธานาธิบดี  สมัยแรก 
เมื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี  เขาบริจาคเงินเดือนทั้งหมดในแต่ละเดือนให้กับกองทุนเพื่อการศึกษา ขายรถเลมูซีนและเครื่องบินประจำตำแหน่งเพื่อเอาเงินเข้ารัฐ  
29 กุมภาพันธ์, ตั้งโครงการ Plan Bolivar 2000 เพื่อส่งเสริมสวัสดิการในสังคม ส่งทหารหลายหมื่นคนออกไปซ่อมแซมถนนและโรงพยาบาล ทำโครงการ Mission Barrio Adentro ให้การรักษาพยาบาลฟรีแก่ประชาชน และ The Mercalsเพื่อขายอาหารให้กับประชาชนในราคาถูก 
เขาแปรรูปอุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติกลับมาเป็นของรัฐ โดยเฉพาะกิจการน้ำมัน กลับมาอยู่ในการควบคุมของ Petroleos de Vanezuela S.A.
ธันวาคม, ประชาชนออกไปลงคะแนนรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 15  ของประเทศ  ซึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ขยายระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีจากห้าปีไปเป็นหกปี แต่จำกัดไว้เพียงสองสมัย และประชาชนมีสิทธิขอการประชาพิจารณ์เพื่อยกเลิกประธานาธิบดี, ให้ความคุ้มครองชนกลุ่มน้อย, ให้สิทธิในปัจจัยสี่ ซึ่งมีประชาชนออกไปใช้สิทธิเพียง 50% แต่เสียงสนับสนุนสูงถึง 72%   
2000 กรกฏาคม, ได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นสมัยที่ 2 ด้วยเสียงสนับสนุน 59.76% ในขณะคู่แข่งของเขาคือฟรานซิสโก้ คาร์เดนาส (Francisco Arias Cardenas)  อดีตนายทหารที่เป็นเพื่อนของเขา ได้รับคะแนน 37.52%
หย่ากับภรรยาคนที่สอง
2001 ก่อตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (BANDES, The Economic and Social Development Bank of Venezuela) 
หลังเหตุการณ์ 11 กันยายน ในนิวยอร์ค และสหรัฐเริ่มบุกอัฟกานิสถาน ความสัมพันธ์ของชาเวซและสหรํฐก็เริ่มแย่ลง เมื่อชาเวซประณามการที่ประชาชนและเด็กที่บริสุทธิ์ในอัฟกานิสถานถูกทหารและระเบิดของสหรัฐสังหารไปจำนวนมาก  ชาเวซเรียกมันว่าเป็นการสังหารหมู่ผู้บริสุทธิและบอกว่าอเมริกาไม่ควรทำตัวเป็นผู้ก่อการร้ายเพื่อสู้กับผู้ก่อการร้าย 
2002 11 เมษายน, มีการเดินขบวนครั้งใหญ่ต่อต้านชาเวสในกรุงคาราคาส โดยมีนายทหารระดับสูงหลายคนร่วมด้วย ฝ่ายที่ออกมาพยายามปฏิวัติชาเวซนั้นได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริก ในสมัยประธานาธิบดีบุช (George Bush)   ชาเวสถูกขับออกจากอำนาจไป 47 ชั่วโมง  โดยเปโดร คาร์โมน่า (Pedro Carmona) นักธุรกิจ ได้ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีของรัฐบาลเฉพาะกาล 
14 เมษายน , ซาเวซโดยได้รับการสนันสนุนจากประชาชนและทหารที่เห็นด้วยกับเขา ยึดอำนาจคืนมาได้ 
หลังจากนั้นรัฐบาลของเขาระดมซื้ออาวุธจำนวนมากทั้งปืนกลและเครื่องบิน เพราะเกรงว่าสหรัฐจะบุก 
2005 Bolivarian Alternative for the Americas (ALBA) , Treaty of Free Trade Area of the Americas (FTAA) 
2006 ได้รับเลือกกลับเข้ามาเป็ฯสมัยที่ 3 ด้วยคะแนนเสียง 62.85% 
2007 ก่อตั้งพรรค United Socialist Party of Venezuela , PSUV โดยรวมเอาพรรคฝ่ายซ้ายเข้ามาเป็นพรรคเดียว ทำให้กลายเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีสมาชิกเกือบหกล้านคน 
2009 ตั้งธนาคาร Bank of the South โดยร่วมมือกับหลายประเทศในลาตินอเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประเทศในอเมริกาใต้มีบทบาทคล้ายกับธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ โครงการนี้ไดรับการยกย่องจากโจเซฟ ซติกลิตซ์ (Joseph Stiglitz) นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลว่าเข้าถึงปัญหาของภูมิภาคอย่างแท้จริง 
2011 10 มิถุนายน เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งครั้งแรกในคิวบา ตัวชาเวซเองนั้นเชื่อว่ามะเร็งของเขานั้นเป็นฝีมือของสหรัฐ เช่นเดียวกับประธานาธิบดีในลาตินอเมริกากว่า 6 คน ที่ตรวจพบมะเร็ง อย่าง ดิลม่า (Dilma Rousseff) ของบราซิล , ลูโก้ (Fernando Lugo) ปารากวัย , ลูซ  อินคานิโอ ซิลวา  (Luiz Inacio Lula da Silva) อดีต ปธน. บราซิล แม้จะไม่มีหลักฐานแต่ชาเวซอ้างถึงการทดลองผลของเพนนิซิลิน (penicillin) ของสหรัฐในประเทศตัวเตมาล่า ในปี 1940s ซึ่งมีการใช้ประชาชนที่ไม่รู้เรื่องกว่าหกพันคนมาฉีดเชื้อซิฟิลิส(syphilis)เข้าไป
2012 ได้รับเลือกตั้งอีกสมัยด้วยคะแนนเสียง 55.5%
กุมภาพันธ์, เข้ารับการผ่าตัดอีกครั้ง
11 ธันวาคม, เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งครั้งที่ 4 ในคิวบา ก่อนเข้าผ่าตัดเขาได้ประกาศให้รองประธานาธิบดีมาดูโร่ (Nicolas Maduro)  เป็นทายาททางการเมือง
2013 11 มกราคม, ปกติจะต้องเป็นวันที่ชาเวช เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย แต่ว่าเขาไม่อาจจะเดินทางมาร่วมงานได้
5 มีนาคม​,  4.25 P.M. เสียชีวิต , คาดว่าร่างของชาเวซจะถูกสลาฟและนำไปตั้งในในพิพิธภัณฑ์ทหาร 
Don`t copy text!