Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Vasily Vereshchagin

วาสิลี เวเรซชากิ้น (Василий Васильевич Верещагин

จิตกรที่วาดภาพเกี่ยวกับสงคราม

เวเรซชากิ้น  เกิดในเมืองเชเรโปเว็ต, นอฟโกรอด (Cherepovets, Novgorod) รัสเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 1842 เขาเป็นลูกชายคนกลางในบรรดาพี่น้องสามคน ครอบครัวมีฐานะร่ำรวย พ่อของเขาเป็นเจ้าของที่ดินจำนวนมาก
1850 เมื่ออายุได้ 8 ขวบ ถูกส่งเข้าโรงเรียนที่เมืองซาร์สโกเย่ เซโล่ (Tsarskoe Selo) ใกล้กับเซนต์ปีเตตอร์เบิร์ก 
1853 เข้าเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารอเล็กซานเดอร์ (Alexander Cadet corps) 
1858 ได้มีโอกาสออกเดินทางในทะเลครั้งแรกกับเรือฟรีเกตชื่อคัมชัตก้า (Kamchadtka) ซึ่งล่องเรือผ่านเดนมาร์ก ฝรั่งเศสไปจนถึงอียิปต์ 
1860 หลังสำเร็จวิชาทหารย ลาออกจากการเป็นทหารเพราะต้องการเรียนด้านศิลปะ เขาเข้าเรียนที่ Academy of Fine Arts
1863 ภาพ Ulysses slaying the Suitors ของเขาได้รับรางวัลจากจากสถาบันศิลปะในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก  , ต่อมาเขาได้รับคำเชิญจากเพื่อนทหารให้เดินทางไปยังกรุงทบิลิซี, จอร์เจีย  (Tbilisi, Georgia) เขาไปอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ช่วงหนึ่ง
1864 เดินทางมาปารีส และได้เข้าไปศึกษาศิลปะกับ จีโรเม่ ( Jean-Leon Gerome) ในสตูดิโอ Ecole des Beaux-Arts 
1865 เดินทางมายังคอเคซัสอีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้นอกจากจอร์เจียแล้วเขายังไปอาร์เมเนียด้วย หลังจากนั้นได้กลับมาปารีสเพื่อเรียนต่อ
1866 จัดการแสดงผลงานครั้งแรกที่ปารีสซารอน (Paris Salon)  มีผลงานอย่างภาพ Dukhobors chanting their Psalms ถูกนำมาแสดง 
พอช่วงฤดูร้อนเขาเดินทางกับมารัสเซีย และไปพักอยู่ที่บ้านของพ่อแม่ในทีเวอร์ (Tver province) 
1867 กลับเข้ามาเป็นทหาร และได้ร่วมกับทีมสำรวจของนายพลคอนสแตนติน คอฟแมน (Konstantin Kaufman) เดินทางไปยังเตอร์เกสถาน (Turkestan) พวกเขาไปอยู่ในกรุงทัชเคนท์ (Taskent) และออกสำรวจพื้นที่โดยรอบ
1868 เดินทางกลับมาเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เขากลับเข้าเป็นทหารและเข้าร่วมในช่วงที่มีการรบกันบริเวณป้อมปราการซามาร์คาน (Siege of Samarkand fortress, 2-8 มิถุนายน ) หลังสงครามจบวาสิลี ได้รับเหรียญ St. George ชั้นที่ 4 เป็นรางวัลในความกล้าหาญ  , จนเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงได้เดินทางกลับเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและกลับไปยังปารีส
1869  ได้นำภาพเขียนเกี่ยวกับเตอร์เกสถานกลับมาเปิดนิทรรศกาลในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยใช้ชื่องานว่า Turkestan exhibition หลังจากนั้นเขาเดินทางไปยังเตอร์เกสถานอีกเป็นครั้งที่สอง และได้เดินทางไปสำรวจใกล้กับบริเวณพรหมแดนที่ติดกับจีน  
1870 ตุลาคม เขากลับมาเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยใช้เส้นทางผ่านไซบีเรีย
1871 เดินทางมาอาศัยอยู่ในมิวนิค เยอรมัน  , และได้แต่งงานกับ มารี อลิซาเบธ ชิฟเชอร์ (Mary Elizabeth Fisher)
1872 เข้าร่วมงานแสดงผลงานศิลปะรัสเซียที่จัดขึ้นในลอนดอน 
1873 ผลงานของตัวเองที่ลอนดอน ในคริสตันพาเลส
1874 เดินทางไปอินเดีย โดยไปอาศัยในบอมเบย์ และเดินทางไปเที่ยงยังหลายเมืองทั้งเดลลี, มาดรัส , และยังไปแถบเทือกเขาหิมาลัย 
1876 กลับมายังมิวนิค และเดินทางไปอยู่ในปารีสและใช้เวลาส่วนใหญ่เขียนรูปที่เกี่ยวกับอินเดีย
1877 เมื่อเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและตุรกี (Russo-Turkish War, 1877-1878) เขาเดินทางกลับมารัสเซียและกลับเข้าประจำการณ์ในกองทัพ อยู่ใต้การบังคับบัญชาของนายพลสโกเบเลฟ (M.D. Skobelev) เขามีส่วนในเหตุการณ์รบ crossing of the Shipka Pass และ the Siege of Pleven  , น้องชายของเขาเสียชีวิตไปในสงครามครั้งนี้ 
1878 หลังสงครามเขาเดินทางกลับไปปารีส สลับกับการเดินทางมายังแถบบอลข่านเพื่อหาข้อมูลไปวาดภาพ 
1879 มีการแสดงผลงานของเขาในลอนดอนและปารีส
1880 ภาพเขียนเกี่ยวกับอินเดียของเขา ถูกนายพล P.M. Tretyakovym ซื้อเอาไป
1882 เดินทางมาอินเดียเป็นครั้งที่สอง และอยู่ประเทศนี้นานกว่าหนึ่งปีก่อนจะกลับไปปารีส 
1883 เวเรซชากิ้นพร้อมภรรยาเดินทางไปซีเรียและปาเลสไตน์  และเริ่มเขียนภาพชุด Trilogy executions เกี่ยวกับปาเลสไตน์ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ในปี  1887
1885-1887 นำภาพเขียนของตัวเองไปเปิดแสดงในหลายเมืองทั่วยุโรป
1887 ช่วงสิบปีสุดท้ายของชีิวิตเขาใช้เวลาส่วนใหญ่วาดภาพชุดสงครามปี  1812 ระหว่างรัสเซียและนโปเลียน  ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1900  
1889 เดินทางไปเปิดนิทรรศกาลในสหรัฐ
1890 หย่ากับภรรยาคนแรก และแต่งงานใหม่กับแมร์รี่ แอนดริว (Marry Lydia Andrew) 
1894 มีผลงานเขียนหนังสือนิยาย In the war of Asia and Europe, Memoirs of V.V Vereschagin (На войне в Азии и Европе. Воспоминания художника В.В.Верещагина)
1898 พิมพ์หนังสือ Leaves from a Notebook (Листки из записной книжки художника)
1901 ถูกเสนอชื่อเข้ายิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
1902 เดินทางไปสหรัฐ , ภาพเขียนชุด 1812 ของเขาส่วนใหญ่ถูกรัฐบาลรัสเซียซื้อไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์
1903 ไปญี่ปุ่น 
1904 ช่วงสงครามรัสเซียญี่ปุ่น เขาเข้าไปร่วมสังเกตุการณ์ในเหตุการณ์ด้วย เขาได้เดินทางไปตะวันออกไกลของประเทศ ต่อมาเดินทางไปอยู่กับทหารอเมริกันในฟิลิปปินส์ และต่อมาได้รับเชิญจากนายพลมาการอฟ (Admiral Stepan Makarov) ให้ไปอยู่บนเรือรบเปโตรปาฟลอฟ (Petropavlovsk) 
13 เมษายน , เรือเปโตรปาฟลอฟ ชนกับทุ่นระเบิด 2  ลูก ระหว่างเดินทางกลับไปยังท่าเรืออาร์เธอร์ (Port Arthur) จนทำให้เรือล่มและเปโตรบาฟลอฟ และวาสิลี เวเรซชากิ้น จนน้ำเสียชีวิตไปพร้อมกับเรือ โดยผู้เห็นเหตุการณ์ที่รอดชีวิตบอกว่าเวเรชซากิ้น ใช้ช่วงเวลาสุดท้ายวาดภาพอย่างสงบ และต่อมาภาพสุดท้ายที่เขาวาดซึ่งมีนายพลมาการอฟด้วย ถูกกู้ขึ้นมาได้
ผลงานเขียน
  • На войне в Азии и Европе. Воспоминания художника (In War in Asia and Europe)
  • Литератор (Writer)
  • Детство и отрочество (Childhood and Adolescence) 
  • Иллюстрированные автобиографии нескольких незамечательных русских людей (Illustrated autobiography several unremarkable Russian people)
  • На Северной Двине. По деревянным церквам (In the Northern Dvina. On wooden churchs)
  • Листки из записной книжки  (Leaves from a Notebooks)
 
Don`t copy text!