Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Constantine XI

คอนสแตนติน ที่ 11 พาเลียโอโลกอส (Constantine XI Palaiologos)

จักรพรรดิองค์สุดท้ายของโรมัน

จักรพรรด คอนสแตนติน ประสูตร เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1904 ในกรุงคอนสแตนติโนเปิล อาณาจักรไบเซนไทน์ เป็นโอรสองค์ที่ 4 ของจักรพรรดิ มานูเอล ที่ 2 (Manuel II Palaiologos) กับ เฮเลน่า ดรากัส (Helena Dragaš) เจ้าหญิงจากเซอร์เบีย 
พี่ชายคนหนึ่งของคอนสแตนติน ชื่น จอห์น ที่  8 (John VIII Palaeologus) ก็เป็นจักรพรรดิของไบเซนไทน์ จอห์น ที่ 8 ครองราชย์ในปี 1423 ซึ่งหลังจากพระองค์ได้รับตำแหน่งได้ออกเดินทางไปยังเวนิช, มิลาน, ฮังการี เพื่อหาการสนับสนุนในการต่อต้านจักรวรรดิอ๊อตโตมาน (Ottoman) โดยระหว่างที่พระองค์ไม่อยู่ เฮเลน่าและคอนสแตนตินทำหน้าที่ดูแลเมืองแทน และทั้งสองได้ทำสัญญาสันติภาพกับสุลต่านมูรัด ที่ 2 (Sultan Murad II) แห่งอ๊อตโตมาน 
1427 คอนสแตนติน บุกอาเชีย (Achaea) เมืองทางตอนเหนือของโมเรีย(Morea~Peloponnese)
1428 1 กรกฏาคม, อภิเษกกับแม็กดาลีน (Magdalene)  ธิดาของลีโอนาร์โด้ ที่ 2 (Leonardo II Tocco) ซึ่งหลังแต่งงานแม็กดาลีน ได้เปลี่ยนชื่อตามธรรมเนียมของไบเซนไทน์ เป็น ธีโอโดร่า ทอคโค่ (Theodora Tocco) แต่ว่าธีโอโดร่า เสียชีวิตในเดือนพฤศจิกายน ปีต่อมา 
1440 แต่งงานอีกครั้งกับ แคทเธอรีน (Catherine  Gattilusio) แต่ว่านางก็เสียชีวิตในปี 1442 
1443 ได้รับตำแหน่งเดสโปเทสแห่งโมเรีย (Despotes of the Morea) หลังจากยึดเมืองต่างๆ ของโมเรียไว้ได้
จากนั้นคอนสแตนตินได้สั่งให้มีการบูรณะกำแพงเฮกซะมิเลียน (walls of Hexamillion) ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้รับความเสียหายไปเมื่อปี 1423 กำแพงแห่งนี้เป็นจุดเดียวที่เชื่อมโมเรียกับแผ่นดินใหญ่ของกรีซ ผ่านช่องแคบโครินธ์ (Isthmus of Corinth)
บางข้อมูลบอกว่าคอนสแตนตินแต่งงานอีกครั้งกับแคทเธอรีน โนตารัส (Catherine Notaras) แต่ว่านางเสียชีวิตไม่นานหลังแต่งงาน
1444 10 พฤศจิกายน​,  การรบที่วาร์น่า (Battle of Varna), คอนสแตนตินยกทัพจากโมเรียบุกเอเธนส์   พระองค์ต่อสู้กับของทหารของดุ๊กเนริโอ (Nerio II Acciaiuoli) ซึ่งขณะนั้นเอเธนส์เป็นเมืองบริวารของอ๊อตโตมานอยู่
1446 สุลต่ามมูรัด ที่ 2  ยกกองทัพกว่าครึ่งแสนนายมายึดเอาเอเธนส์คืนไป
27 พฤศจิกายน,  สุลต่านมูรัด โจมตีกำแพงเฮกซะมิเลียน
10 ธันวา กำแพงเฮกซะมิเลียนพังลง และทหารอ๊อตโตมานก็บุกยึดโมเรียไว้ได้  แต่ว่าคอนสแตนตินสามารถหนีรอดกลับไปยังคอนสแตนติโนเปิ้ลได้
1448 31 ตุลาคม, จักรพรรดิ จอห์นที่ 8 สวรรคตจากพระอาการประชวร ทำให้การปกครองไปอยู่กับเฮเลน่าพระมารดา , และได้เกิดความขัดแย้งระหว่างคอนสแตนตินกับเดเมเทรียส (Demetrious Palaiologos) พี่ชาย ในการแย่งตำแหน่งกัน เฮเลน่าได้ส่งสาห์นไปยังสุลต่านมุรัดที่ 2 เพื่อให้ช่วยตัดสินใจในเรื่องนี้ 
1449 6 มกราคม, ในมิสตรา (Mistra) เมืองหลวงของโมเรีย คอนสแตนตินได้รับการสวมมงกุฏเป็นจักรพรรดิ โดยได้รับการสนับสนุนจากสุลต่านมุรัด ที่ 2 โดยพิธีจัดขึ้นในวิหารภายในเมือง ซึ่งฝ่ายที่ไม่สนับสนุนคอนสแตนตินเห็นว่าเป็นพิธีที่ไม่ถูกต้องที่จักรพรรดิจะทำพิธีนอกเมืองหลวงของไบเซนไทน์ และยังไม่มีพระสังราชของนิกายออโธดอกซ์ เข้าร่วมด้ว ซึ่งสังฆราชเวลานั้นคือกริกอรี ที่ 3 (patriarch Gregory III) อย่างไรก็ตามกองทัพให้การสนับสนุนแก่คอนสแตนติน 
12 มีนาคม, คอนสแตนติน ล่องเรือ Venetian ship กลับมายังคอนสแตนติโนเปิ้ล เพื่อลบข้อครหาว่าเป็นจักรพรรดินอกกฏหมาย  โดยที่เฮเลน่าได้มอบตราสัญลักษณ์ของจักรพรรดิและกุญแจพระคลังให้เพื่อเป็นการลบข้อครหา
1451 3 กุมภาพันธ์, สุลต่านมูรัด สวรรคต และเมห์เม็ด ที่ 2 (Sultan Mehmed II) วัย 19 ชันษาได้ครองอ๊อตโตมานแทน ซึ่งเมห์เม็ดนั้นต่างกับพระบิดา เพราะพระองค์นั้นต้องการที่จะยึดคอนสแตนติโนเปิ้ล  เมห์เม็ดได้สั่งให้มีการสร้างป้อมปราการรูเมลิฮิซารี (Rumelihisari) และ อนาโอลูฮิซารี (Anadoluhisari) บริเวณสองฝั่งของช่องแคบบอสฟอรัส (Bosporus Strait) ทำให้อ๊อตโตมานควบคุมการติดต่อระหว่างทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้สมบูรณ์
1453 6 เมษายน, เมห์เม็ด บุกคอนสแตนติโนเปิ้ล 
29 พฤษภาคม , คอนสแตนติโนเปิ้ลแตก 
การเสียชีวิตของคอนสแตนติน เล่ากันว่า พระองค์ทรงถอดเครื่องแบบของจักรพรรดิออกแล้วพยายามจะหนีไปพร้อมกับประชาชน แต่เชื่อกันว่าทรงถูกจับและถูกสังหารบริเวณท่าซานโรมาโน่ (port of San Romano) จากนั้นพระศพถูกตัดพระเศียรและแห่ไปรอบเมือง ก่อนโดยนำพระเศียรไปวางไว้ที่เสาคอนสแตนติน (column of Constantine I) ส่วนร่างของพระองค์น่าจะถูกฝังพร้อมทหาร
Don`t copy text!