อัลเบิร์ชต ดูฮาร์ (Albrecht Dürer)
ดูฮาร์ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 1471 ในนูเรมเบิร์ก, โฮลี่โรมัน (Nurembeg, Holy Roman Empire) ดูฮาร์ เป็นลูกคนที่สามของบ้าน พ่อและแม่ของเขามีลูกราวสิบห้าถึงสิบแปดคนซึ่งไม่ทราบจำนวนที่ชัดเจน
ดูฮาร์ มีชื่อเดียวกันกับพ่อของเขาซึ่งเดิมเป็นชาวฮังการี มีอาชีพเป็นช่างทอง และทำงานงานเป็นผู้ช่วยของเฮียโรนูมัส (Hieronymus Holper) ซึ่งต่อมาดูฮาร์ผู้พ่อ ได้แต่งงานกับลูกสาวของเฮียโรนูมัน คือบาร์บาร่า โฮลเปอร์ (Barbara Holper) แม่ของดูฮาร์ ในปี 1467
ดูฮาร์ฝึกการเป็นช่างทองจากพ่อของเขาตั้งแต่เป็นเด็ก
1486 เมื่ออายุ 14 ปี ดูฮาร์ เรียนการวาดรูปจากไมเคิ้ล (Michael Wolgemut)
1490 เขาออกเดินทางท่องเที่ยวเพื่อศึกษางานศิลปะ โดยเดินทางไปตอนเหนือของประเทศ
1492 มาอยู่ในโคลมาร์ (Colmar) ตั้งใจจะเรียนศิลปะกับ Martin Schöngauer แต่ว่ามาร์ตินได้เสียชีวิตไปหนึ่งปีก่อนหน้านี้แล้ว
1494 กลับมายังนูเร็มเบิร์ก
9 กรกฏาคม, แต่งงานกับแอ็กเนส เฟรย์ (Agnes Frey) เธอเป็นลูกสาวของพ่อค้าในเมือง แต่ทั้งคู่ไม่มีทายาทด้วยกัน
ช่วงปลายปีเขาออกเดินทางอีกครั้ง ไปยังอิตาลี
1495 กลับมายังนูเร็มเบิร์กแลละเริ่มทำงานศิลปะออกมายังต่อเนื่อง โดยผลงานที่มีชื่อเสียงแรกๆ เป็นการแกะสลักแผ่นไม้สำหรับพิมพ์เป็นภาพ (woodblock printing)
1505 เดินทางมาอิตาลีอีกครั้ง และได้รับว่าจ้างให้สร้างผลงานประดับโบสถ์ซานบาร์โตโลมีโอ (San Bartolomeo) ซึ่งเขาได้สร้างผลงานอย่าง Adoration of the Magi, Paumgartner altarpiece ซึ่งใช้เทคนิคแบบเทมเพอร่า (Tempera) ซึ่งเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในขณะนั้นที่ใช้ผงสีผสมกับไข่แดง
1507 เดินทางกลับมายังบ้านเกิด ช่วงเวลานี้ได้สร้างผลงานภาพเขียนอย่าง Adam and Eve (1507) , Virgin with the Iris (1508)
1511 ช่วงต้นของ 1510s ดูฮาร์ให้ความสนใจกับการสร้างผลงานแกะสลัก มีผลงานสำคัญอย่าง The Knight and Death (1513), Milencolia I (1514), Saint Jerome in his Stydy (1514)
1512 จักรพรรดิแม็กซิมิเลียน ที่ 1 (Mazimilia I) ทรงกลายเป็นผู้สนับสนุนงานศิลปะของดูฮาร์คนสำคัญ
1515 เขียนภาพ Rhinoceros ผลงานชิ้นหนึ่งที่เป็นที่รู้จักที่สุดของดูฮาร์
1521 เดินทางกลับนูเร็มเบิร์ก หลังจักรพรรดิแม็กซิมเลี่ยน สวรรคตอย่างกระทันหัน
1525 พิมพ์หนังสือ The Four Books of Measurement
1528 6 เมษายน เสียชีวิต เมื่ออายุ 56 ปี ที่นูเร็มเบิร์ก คาดว่าสาเหตุอาจจะมาจากโรคมาลาเรีย และถูกฝังที่สุสานโจฮันนิสไฟรด์ฮอฟ (Johannisfriedhof cemetery)
หนังสือ The Four Books of Human Proportion พิพม์ออกมาหลังจากเขาเสียชีวิตไม่นาน