Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Diogenes of Sinope

ดิโอจิเนส แห่ง ไซโนป (Διογένης ο Κυνικός)
cynical philosophy

ดิโอจิเนส เกิดในปี 412 BC (ปีเกิดไม่แน่ชัด)  ในไซโนป (Sinope) เมืองชายฝั่งทะเลดำ ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของกรีก ปัจจุบันอยู่ในประเทศตุรกี พ่อของเขาชื่อฮิเซเซียส (Hicesias)  
เมื่อโตขึ้นมาดิโอจิเนสได้ช่วยพ่อเขาทำงานในดูแลการผลิตเงินซึ่งเป็นงานของรัฐ  ต่อมาพวกเขาพ่อลูกถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์ จนทำให้ดิโอจิเนสและพ่อถูกเนรเทศออกจากเมือง
สาเหตุหนึ่งที่ดิโอจิเนสทำเหรียญปลอม เล่าเอาไว้ว่า…ดิโอจิเนสได้พบกับนักพยากรณ์ (Oracle at Delphi) ซึ่งเขาได้รับคำทำนายที่บอกให้เขาเปลี่ยนแปลงค่าของเงิน แต่ว่าดิโอจิเนสเข้าใจว่าบอกให้เขาทำเงินปลอม
หลังจากถูกเนรเทศ ดิโอจิเนส เดินทางมาอาศัยอยู่ในเอเธนส์กับทาสคนหนึ่งชื่อ เมเนส (Menes) แต่ว่าไม่นานเมเนสก็ทิ้งเขาไป ดิโอจิเนสจึงอยู่ลำพังคนเดียวโดยอาศัยนอนในไหขนาดใหญ่
เขาได้บังเอิญได้ฟังคำสอนของแอนติสธีเนส (Antisthenes) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของโสเครตีส (Socrates) ทำให้เขาอยากจะเรียนรู้จากแอนติสธีเนส แต่ว่าในตอนแรกกลับถูกทำร้ายจากสาวกของแอนติสธีเนส ทำให้ดิโอจิเนส พูดว่า “ทุบเลย, แล้วท่านจะได้รู้ว่าไม่มีไม้ใดที่แข็งทนพอที่จะทำให้ข้าอยู่ห่างจากตัวท่านได้ ตราบเท่าที่ข้ายังรู้ว่าท่านมีเรื่องที่จะพูดอยู่”  ในที่สุดแอนติสธีเนสก็ได้ยอมรับให้ดิโอจิเนสเป็นศิษย์
แอนติสธีเนส เป็นคนแรกที่วางเค้าโครงของปรัชญาซึนิค (Cynicism) ซึ่งคำว่า ซีนิค มาจากภาษากรีกโบราณ คูนิคอส (κυνικός ) ที่แปลว่า คล้าย-สุนัข (dog-like) เป้าหมายของซีนิคคือ ยูไดโมเนีย (Eudiamonia~human flourishing)  ซึ่งเชื่อว่าเป็นความสุขสูงสุดของมนุษย์ โดยการดำรงชีวิตที่สอดคล้องกับธรรมชาติและพอเพียง และเป็นอิสระจากการแสวงหาความร่ำรวย, อำนาจ, หรือชื่อเสียง
ซีนิคซิซึม จึงเปรียบตัวเองเหมือนสุนัข และดิโอจิเนสดำรงชีวิตด้วยการนอนในไห เดินเท้าเปล่า
มีอยู่ครั้งหนึ่ง โสเครตีสได้ถาม พลาโต้ (Plato) ว่าความหมายของมนุษย์ (Man) คืออะไร พลาโต้บอกว่า คือ สัตว์ที่เดินสองขาไม่มีขน (featherless bipeds)  ดิโอจิเนสพอได้รู้อย่างนั้นเขาก็ถอนขนไก่ตัวหนึ่งออกจนหมดแล้วนำมาที่โรงเรียน(Academy) ของพลาโต้ แล้วตะโกนบอกว่า “เอาไป ข้าซื้อมนุษย์มาให้ท่านตัวหนึ่ง” หลังจากนั้นพลาโต้จึงได้เพิ่มนิยามใหม่เติมเข้าไปว่า “…และมีเล็บแบน (with broad flat nails)”
ต่อมาดิโอจิเนสถูกโจรสลัดไปขายเป็นทาสบนเกาะครีต (Crete) เขาถูกซื้อไปโดยซีเนียเดส (Xeniades) ที่มาจากเมืองโครินธ์ (Corinth) โดยที่ดิโอจิเนสได้ทำหน้าที่ดูแลและสอนหนังสือให้กับลูกชายสองคนของซีเนียเดส  
ในโครินธ์นี้ดิโอจิเนสบังเอิญได้พบกับอเล็กซานเดอร์ (Alexander the Great) โดยที่อเล็กซานเดอร์ได้เดินมาถามหาบอกว่าอยากจะพบนักปราญช์ที่ยิ่งใหญ่สักคนหนึ่ง แต่ขณะนั้นดิโอจิเนสกำลังนั่งรับแสงแดดในตอนเช้า จึงได้บอกว่าอเล็กซานเดอร์ว่า “จงอย่ายืนบังแสงแดด”  
อเล็กซานเดอร์ จึงรับสั่งอย่างโมโห “ถ้าข้าไม่ใช่อเล็กซานเดอร์, ข้าคงอยากจะเป็นดิโอจิเนส”
ดิโอจิเนส ตอบ “ถ้าข้าไม่ใช่ดิโอจิเนส, ข้าก็อยากจะเป็นดิโอจิเนสอยู่ดี”
เล่ากันว่าดิโอจีเนสอาศัยอยู่ที่โครินธ์ในบ้านของซีเนียเดสจนกระทั้งเขาแก่ชราและเสียชีวิต
323 BC 10 มิถุนายน, จากงานเขียนนของดิโอจิเนส ลัวเตียส (Diogenes Laërtius) ดิโอจิเนส เสียชีวิต ในโครินธ์ วันเดียวกันกับที่อเล็กซานเดอร์มหาราช สวรรคต
สาเหตุการตายมาจากการป่วยเพราะกินปลาหมึกดิบ หรืออีกเรื่องหนึ่งบอกว่าเขาถูกสุนัขกัดจนล้มป่วย และก่อนตายเขาบอกว่าให้เอาศพของเขาไปโยนที่ชานเมืองให้เป็นอาหารของสัตว์ป่า

Don`t copy text!