เจมส์ ฮัตตัน (James Hutton)
theory of Uniformitarianism , บิดาแห่งธรณีวิทยาสมัยใหม่
ฮัตตัน เกิดเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 1726 ในอีดินเบิร์ก, สก๊อตแลนด์ (Edinburgh, Scotland) พ่อของเขาเป็นพ่อค้าชื่อวิลเลี่ยม (William Hutton) และแม่ชื่อซาราห์ บัลโฟร์ (Sarah Balfour) ครอบครัวของพวกเขามีฐานะร่ำรวยมากนอกจากทำการค้าแล้วยังเป็นเจ้าของที่ดินขนาดใหญ่หลายร้อยเอเคอร์
1729 พ่อของเขาเสียชีวิต ตอนฮัตตันอายุเพียง 2 ขวบ แม่จึงทำหน้าที่เลี้ยงดูเขาและลูกคนอื่นอีกสามคนเพียงลำพัง โดยที่แม่ไม่ได้แต่งงานใหม่
1736 เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมอีดินเบิร์ก (Edinburgh High School)
1740 เมื่ออายุได้ 14 ปี ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยอีดินเบิร์ก (Universtiy of Edinburgh) ด้านกฏหมาย
1743 เมื่ออายุ 17 ปี ได้ฝึกงานด้านกฏหมายกับจอร์จ ชาลเมอร์ (George Chalmers) ทนายความ แต่ว่าเขากลับเริ่มหันเหไปสนใจวิชาเคมีเมื่อได้มีดอกาสเข้าฟังเลคเ๙อร์ของคณะแพทย์และการทดลองเคมีในห้องแล๊ป เขาจึงตัดสินใจไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส และเข้าเรียนที่ ม.ปารีส (University of Paris)
1747 ฮัตตันมีลูกชายคนหนึ่งเกิดขึ้นมาโดยที่เขายังไม่ได้แต่งงาน แม่ของเด็กชื่อ อีดิงตั้น (Edington)
1749 ได้รับปริญญาเอกด้านการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยลิเดน (Leiden University) โดยที่เขาได้นำเสนอวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับระบบการไหลเวียนโลหิต
1750 กลับมาอยู่ในอังกฤษ และทำงานร่วมกับเพื่อนเก่าชื่อ เจมส์ เดวี่ (James Davie) เปิดโรงงานผลิต แอมโมเนียคอลไรด์ (Ammonium Chloride) ซึ่งนำไปใช้ในอุตสาหกรรมสีและเหล็ก ซึ่งธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างมาก
1752 ย้ายไปอยู่ในฟาร์มของเขาที่สไลเฮาส์ (Slighhouses) และเริ่มทำเกษตรกรรมโดยที่เขาพยายามปรับปรุงการเกษตรในฟาร์มของเขาให้ทันสมัย ระหว่างที่อยู่ที่ฟาร์มนี้เองที่เขาสนใจเกี่ยวกับธรณีวิทยาและชั้นบรรยากาศ
1764 ออกเดินทางสำรวจทางธรณีวิทยาร่วมกับจอร์จ แม็กเวลล์ (George Clerk Maxwell) เพื่อนของเขาไปยังตอนเหนือของสก็อตแลนด์
1768 กลับมาอยู่ในอีดินเบิร์ก และได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างคลองโฟร์ธแอนด์แคล็ด (Forth and Clyde canel)
ในสก็อตนี้เขาเป็นเพื่อนบุคคลที่มีชื่อเสียงเชื้อสายสก๊อตหลายคน อาทิ อดัม สมิท (Adam Smith), เจมส์ วัตต์ (James Watt), เดวิด ฮูม (David Hume)
ฮัตตันกับอดัม สมิทและผองเพื่อนยังร่วมกันก่อตั้งชมรม Oyster Club เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความรู้กันในทุกๆ วันศุกร์
1784 7 มีนาคม, สมาคมวิทยาศาสต์แห่งอีดินเบิร์ก (Royal Society of Edinburgh) เชิญฮัตตันไปบรรยายผลงานของเขาเกี่ยวกับทฤษฏีเกี่ยวกับการเกิดของแผ่นดิน Concerning the System of the Earth, its Duration and Stability แต่ว่าฮัตตันป่วยจึงได้ส่งให้ ให้โจเซฟ แบล็ค (Joseph Black) เพื่อนของเขามาบรรยายแทน
4 เมษายน, ฮัตตันได้รับเชิญอีกครั้งหนึ่ง เขาได้นำเสนอผลงานด้วยตัวเอง
1788 Concerning the System of the Earth, its Duration and Stability ถูกตีพิมพ์ออกมาครั้งแรกในชื่อ Theory of the Earth (Investigation of the Laws observable in the Composition, Dissolution, and Restoration of Land upon the Globe)
ทฤษฏีของฮัตตันขัดกับทฤษฏี Neptunist ของอับราฮัมม เวอร์เนอร์ (Abraham Gottlob Werner) ที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น Neptunist บอกว่าหินเกิดจากการตกผลึกของแร่ธาตุที่อยู่ในมหาสมุทร
ในขณะที่ทฤษฏีของฮัตตันถูกเรียกว่า Plutonist เสนอแนวคิดใหม่ที่ว่าชั้นในของโลกนั้นร้อนและเป็นกลไกที่ทำให้เกิดหิน
ฮัตตัน ยังเสนอแนวคิด Deep Time (Uniformitarianism, Gradualism) ที่ตั้งสมมุติฐานว่าการก่อตัวของโลกนั้นเป็นกลไกที่เป็นไปอย่างช้าๆ และกินเวลานาน อาจเป็นเวลาหลายล้านปี ซึ่งก็ขัดกับทฤษฏี Catastrophism ที่ยอมรับกันในขณะนั้น ที่บอกว่าการเกิดของโลกนั้นเกิดขึ้นมาอย่างกระทันหัน รวดเร็ว มีปรากฏการณ์ใหญ่ๆ เช่น น้ำท่วมโลก หรือการระเบิดใหญ่เป็นตัวเร่ง
1788 เดินทางพร้อมกับเซอร์เจมส์ ฮอลล์ (Sir James Hall) กับจอห์น เพลย์แฟร์ (John Playfair) ไปสำรวจบริเวณชายฝั่งทะเลเหนือของสก๊อตแลนด์ เพื่อศึกษาธรณีวิทยาบริเวณดังกล่าว
1797 26 มีนาคม, เสียชีวิตในอีดินเบิร์ก
ผลงานเขียน
• 1785. Abstract of a dissertation read in the Royal Society of Edinburgh, upon the seventh of March, and fourth of April,
• 1788. The theory of rain
• 1788. Theory of the Earth (an investigation of the laws observable in the composition, dissolution, and restoration of land upon the Globe)
• 1792. Dissertations on different subjects in natural philosophy.
• 1794. Observations on granite.
• 1794. A dissertation upon the philosophy of light, heat, and fire.
• 1794. An investigation of the principles of knowledge and of the progress of reason, from sense to science and philosophy.
• 1795. Theory of the Earth, Vol 2.
• 1797. Elements of Agriculture. ไม่ได้ตีพิมพ์
• 1899. Theory of the Earth, Vol 3.