Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Reinhard Gehlen

ไรน์ฮาร์ด เกห์เลน (Reinhard Gehlen)
ผู้ตั้งหน่วยข่าวกรอง The Org ( Gehlen organization)
เกห์เลน เกิดเมื่อวันที่  3 เมษายน 1902 ในเอร์เฟิร์ต, เยอรมัน (Erfurt, German Empire) พ่อของเขาชื่อวอลเทอร์ (Walther) อดีตนายทหารที่ต่อมาเปิดร้านขายหนังสืออยู่ในเบรสลอ (Breslau~Wroclaw) ซึ่งเกห์เลนเติบโตขึ้นมาในเมืองนี้  ส่วนแม่ชื่อแคทเธอรีน่า (Katharina van Vaernewyk)
1908 เข้าเรียนที่จิมเนเซียมในเบรสลอ 
1920 จบการศึกษาพื้นฐาน และได้เข้าทำงานกับกองทัพ (Reichswehr)
1931 แต่งงานกับเวอร์ต้า (Werta von Skiblitz-Kurzbach) พวกเขามีลูกด้วยกันสี่คน
1935 เข้าเรียนที่ German Staff College (War Academy) ในเบอร์ลิน โดยขณะนั้นเขามียศชั้นกัปตัน
1939 ได้เลื่อนยสเป็นร้อยเอก ก่อนที่เกห์เลน จะถูกส่งเข้าร่วมกับหน่วยทหารราบในชุดที่นาซีส่งไปบุกโปแลนด์ 
1940 ถูกย้ายมาเป็นทหารผู้ช่วยของจอมพลวอลเตอร์ (Field Marshal Walther von Brauchitsch) และต่อมาได้ย้ายมาเป็นผู้ช่วยของนายพล ฟรานซ์ ฮอลเดอร์  (General Franz Halder)
1941 ถูกส่งไปทำงานในหน่วย FHO (Fremde Heere Ost / Foreign Armies East) ซึ่งเป็นหน่วยงานข่าวกรอง ทำงานอยู่ในแนวรบด้านตะวันออก
1942 ได้เลื่อนยศเป็นพันเอก และได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าของ FHO แทนพลโทอีเบอร์ฮาร์ด (Colonel Eberhard Kinzel) 
เกห์เลน อ้างว่าในปีนี้เขาได้พบกับพลโทเฮนนิ่ง (Colonel Henning von Tresckow) และพลโทเคลาส์ (Colonel Clause von Stauffenberg) เกห์เลน บอกว่าพวกเขาต้องการให้ตัวของเขาร่วมมือในแผนการลอบสังหารอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler)
1944 เกห์เลน ได้ยศเป็นนายพลจัตวา 
เมษายน, เขาถูกปลดจากตำแหน่งโดยคำสั่งของฮิตเลอร์
20 กรกฏาคม, การวางระเบิดเพื่อสังหารฮิตเลอร์ล้มเหลว และฮิตเลอร์ได้สั่งให้มีการตามล่าผู้สมรู้ร่วมคิด
ก่อนที่เกห์เลนจะหลบหนี เขาเอาเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลของโซเวียตที่หน่วยของเขารวมรวมมา ไปฝังไว้ในสถานที่ลับในเทือกเขาแอลป์ ก่
1945 22 พฤษภาคม, ช่วงปลายสงคราม เขายอมมอบตัวกับหน่วย CIC (U.S. Army Counter Intelligence Corps) หน่วยข่าวกรองของกองทัพสหรัฐฯ 
หลังจากนั้นเขาถูกนำตัวไปสอบปากคำที่แคมป์คิง (Camp King) โดยกับตัน จอห์น โบเกอร์ (John R. Boker) โดยที่เกห์เลนได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับโซเวียตที่เขามีเพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสรภาพของตัวเขา ซึ่งโบเกอร์ตกลงและได้ลบชื่อของเขาออกจากรายชื่อเชลยสงคราม โดยที่แม้แต่ CIC ก็ไม่ได้รับรายงาน  แต่ว่าโบเกอร์ ได้รายงานตรงไปที่นายพลเอ็ดวิน ซีเบิร์ด (Brigadier General Edwin Sibert) เจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยข่าวกรอง G-2 ของกองทัพที่ 12 หัวหน้าของเขาที่สายตรงไปถึงนายพลวอล์เตอร์ สมิท (General Walter Bedel Smith) ที่ปรึกษาคนหนึ่งของประธานาธิบดีไอเซ่นโอเวอร์ (Eisenhower)   โดยความต้องการของเขาคือการนำตัวเกห์เลนกลับมาทำงานให้กับสหรัฯ
20 กันยายน, เกห์เลน ถูกพาตัวขึ้นเครื่องบินกลับมายังสหรัฐฯ
1946 กรกฏาคม, เขาได้รับอิสระภาพอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นเขาได้บินกลับมายังเยอรมัน 
ปลายปีเกห์เลนกลับเข้าทำงานกับกองทัพเยอรมัน เขาเรียกลูกน้องเก่าๆ หลายร้อยคนกลับเขาทำงานกับเขา โดยที่ยังคงได้รับการสนับสนุนจากหน่วย G-2 ของสหรัฐฯ  ซึ่งหน่วยของเขาที่สหรัฐฯ สนับสนุน ถูกเรียกภายหลังว่าเป็น Gehlen organization หรือ The Org
ชื่อสายลับของเกห์เลนที่สหรัฐฯ เรียกคือ Unity 
The Org  จารกรรมข้อมูลมากมายเกี่ยวกับยุโรปตะวันออกส่งมาให้กับสหรัฐฯ   
ในระหว่างปี 1947-1955 เชลยสงครามทุกคนที่ถูกโซเวียตส่งกลับมาจะถูกนำตัวไปสัมภาษณ์โดย The Org
1956 Gehlen organization ถูกยุบไป หลังเยอรมันตะวันตกก่อตั้งหน่วยข่าวกรอง BND (Bundesnachrichtendienst / Federal Intelligence Service) ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ และเกห์เลน ได้รับตำแหน่งหัวหน้าของ BND เป็นคนแรก
1967 ได้รับเหรียญ War Meric Cross และ Federal Cross of Merit with Shoulder Ribbon จากทางการเยอรมัน
1968 30 เมษายน, เขาเกษียณงานจาก BND 
1972 เขียนหนังสือ The Service : The Memories of General Reinhard Gehlen

1979 8 มิถุนายน, เสียชีวิตที่บ้านในเมืองเบิร์ก (Berg)
Don`t copy text!