Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Heinrich Kramer

ไฮน์ริช ครามาร์ (Heinrich Kramer)

ผู้เขียน Malleus Maleficarum (The Hammer of Witches)

ครามาร์ หรือชื่อภาษาลาตินของเขาคือเฮนริคัส อินสติโตริส (Henricus Institoris) เกิดราวปี  1430  ในอัลแซค (Selestat, Alsace) เขามาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน 

1445 เข้าร่วมกับกลุ่มนักบวชโดมินิกัน (Dominican Order) ของนิกายแคโธลิค 

ต่อมาได้มีโอกาสเข้าเรียนในโรงเรยรนสอนภาษาลาติน และปรัชญา

1474 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการณ์ศาสนา (Inquisitor) ดูแลท้องที่ในเขขตโมราเวีย, โบฮีเมีย, ไตรอล, และซัลซ์เบิร์ก  (Moravia, Bohemia, Tyrol, Salzburg) เมืองทางตอนใต้ของเยอรมัน เขาทำงานเป็นเสมือนเป็นมือของของอาร์คบิชอฟ แห่งซัลซ์เบิร์ก (Archbishop of Salzburg)

1479 หลังจากเดินทางไปกรุงโรม เขาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการณ์ศาสนาประจำเมืองอัลเลมาเนีย (Allemania)

1484 ได้ร่วมทำงานกับจาคอฟ สเปรนเจอร์ (Jacob Spenger, 1436-1495) ซึ่งพวกเขาทำงานสอบสวนในคดีเกี่ยวกับแม่มดและผู้ใช้เวทมนต์ 

5 ธันวาคม, Summis desiderates affectibus เป็นจดหมาย (papal bull) ที่พระสันตะปาปาอินโนเซ็นต์ ที่ 8 (Pope Innocent VIII) เขียนตอบมาหาครามาร์ เพราะว่าครามาร์ต้องการคำยืนยันจากโป๊ปว่าเขามีอำนาจในการทำคดีแม่มด ซึ่งเขาไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งเนื้อหาในจดหมายรับรองว่ากระบวนการสอบสวนมีความถูกต้อง 

1485 เขาไปทำคดีที่อินสบรัค (Innsbruck) แต่ว่าการทำคดีล้มเหลวและได้ถูกบิชอฟของเมืองเนรเทศออกมา

ระหว่างปี 1482-1486 เฉพาะในเมืองราเวนสเบิร์ก (Ravensburg) มีคน 48 คนที่ถูกสอบสวนโดยครามาร์ ในคดีการใช้เวทมนต์  ผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกลงโทษ เช่น แอนนา (Anna of Mindelhym) และ แอ็กเนส บาเดริน (Agnes Baderin)

อย่างไรก็ตามแม้เขาจะอ้างจดหมายสนับสนุนอำนาจของเขามาจากโป๊ป แต่ครามาร์ก็ไม่ได้ทำงานได้ราบรื่น บิชอฟจอร์จ โกลเซอร์ (bishop, George Golser) ขัดขวางไม่ให้เขาทำคดีของอีกหลายผู้ต้องหาว่าเป็นแม่มด  ต่อมาครามาร์จึงได้ลาออกจากตำแหน่งและมาเขียนหนังสือ

1486 เครเมอร์ และจาคอฟ สเปรนเจอร์ ร่วมกันเขียน Malleus Maleficarum

1487 Malleus Maleficarum พิมพ์ออกมาครั้งแรกในเยอรมัน ในชื่อภาษาเยอรมันคือ Hexenhammer  โดยที่ Summis desiderates affectibus ถูกพิมพ์ใส่เข้าไปในหนังสือด้วย 

หนังสือเล่มนี้แสดงทฤษฏี,ความเชื่อของเขาเกี่ยวกับการมีอยู่ของแม่มด และวิธีการในการสังเกตุหรือระบุว่าใครเป็นแม่มด 

9 พฤษภาคม, พวกเขาส่ง Malleus Maleficarum ไปยังคณะเทคโนโลยี ของมหาวิทยาลัยโคโลญจน์ (Universtiy of Cologne) โดยหวังที่จะได้รับการรับรองหนังสือของพวกเขา ซึ่งมีจดหมายจากมหาวิทยาลัยโคโลญจน์ที่ตอบกลับมาโดยให้การรับรองหนังสือเล่มนี้ (แต่คนจำนวนหนึ่งเชื่อว่าจดหมายรับรองนี้เป็นของปลอมมที่เขาทำขึ้น)

1490 ที่ประชุมของนิกายแคโธลิค มีมติสั่งห้ามเผยแพร่หนังสือเล่มนี้ และจัดไว้เป็นหนังสือต้องห้าม (Index Libroum Prohibitorum) 

1493 เขาได้งานสอนหนังสือในวิชาศาสนา ในเมืองซัลซ์เบิร์ก

1495 ถูกเชิญไปยังเมืองเวนิช(Venice) เพื่อเปิดการบรรยายเกี่ยวกับหนังสือของเขาให้กับประชาชนทั่วไปเข้าฟัง ซึ่งการบรรยายของเขาได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก

1500 ครามาร์ ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีแม่มด กับพวกลัทธิปิคาร์ด (Picards) และลัทธิวาลเดน (Waldensians

1505 เสียชีวิต ในโมราเวีย ซึ่งอาจจะเป็นที่เมืองโอลมุตซ์ (Olmütz) หรือบรันน์ (Brünn)

ตลอดชีวิตของคาร์มาร์ เขาสั่งลงโทษเผาแม่มดและพวกนอกรีต ไปราว 200 คน

แม้ว่าจะหนังสือ Malleus Maleficarum จะถูกสั่งห้ามพิมพ์โดยวาติกัน แต่ในยุโรปยุคกลาง ระหว่างปี 1487-1520 มีการพิมพ์หนังสือเล่มนี้ 13 ครั้ง และระหว่างปี 1574-1669 พิมพ์ 16 ครั้ง กลายเป็นคู่มือมาตรฐานของตำราล่าแม่มด

Don`t copy text!