Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Maurice Merleau-Ponty

มัวริซ เมอร์โล-พอนตี้ (Maurice Merleau Ponty)
phenomenology
พอนตี้ เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 1908  ในโรชฟอร์ต-ชู-แมร์ ในจังหวัดชาร์อ๊อง-มารีทีม (Rochefort-sur-Mer, Charente-Maritime) ฝรั่งเศส 
1913 พ่อของเขาเสียชีวิตในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 1 หลังจากพ่อเสียชีวิตแล้วครอบครัวของเขาจึงได้ย้ายมาอยู่ในปารีส
พอนตี้ เรียนหนังสือระดับมัธยมที่ Parisian lycees Janson-deSailly และที่ Louis-le-Grand เขาๅต/1923 สำเร็จวิชาปรัชญาพื้นฐานจาก Janson-de-Sailly  
1926 เข้าเรียนต่อที่อิโคล โนแมล์ สุแปริเออร์(Ecole Normale Superieure, ENS) ซึ่งที่นี่เขาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับ ฌอน-พอล ซาทรี (Jean-Paul Satre), ซึมง โบวัวร์ (Simone de Beauvoir), ณอห์น ฮิปโปไลต์ (Jean Hyppolite)
ช่วงเวลานี้เขาเริ่มเขียนนวนิยายเรื่อง Nord โดยใช้นามปากกาว่า Jacques Heller
1930 จบการศึกษาด้านปรัชญาจาก ENS  โดยได้วุฒิเทียบเท่าปริญญาโท
1931 ได้งานสอนหนังสือที่โรงเรียนบัววิส (Lycee de Beauvais) ระหว่างนี้ได้รับทุนจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (Caisse nationale des sciences) ในการทำวิจัยเกี่ยวกับการรับรู้
1934 ย้ายมาสอนที่โรงเรียนชาร์ต (Lycee de Chartres)
1935 มาเป็นติวเตอร์ที่ ENS
1940 เมื่อเกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 เขาได้เข้าประจำการณ์ในหน่ยวทหารบกที่ 5 โดยติดยศร้อยโท พอนตี้ได้รับบาดเจ็บในการรบกับเยอรมันช่วงเดือนมิถุนายน ก่อนที่ฝรั่งเศสจะยอมจำนนต่อเยอรมัน
พอนตี้ได้รับเหรียญ Croix de querre เป็นรางวัลจากวีรกรรมในช่วงสงคราม และหลังจากรักษาตัวหายดีแล้วเขาก็กลับไปสอนหนังสือที่โรงเรียนคาร์นอต (Lycee Carnot) ในกรุงปารีส 
พฤศจิกายน, เขาแต่งงานกับชูซานเน่ (Suzanne Jolibois)
ช่วงเวลานี้เขายังได้กลับไปรวมกลุ่มกลับณอน-พอล ซาทรี และตั้งกลุ่ม Socialisme et Liberté ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต่อต้านการยึดครองฝรั่งเศสของเยอรมัน
1942 กลุ่ม Socialisme et Liberté ถูกยุบตัวลงไป หลังจากทางการสั่งให้มีการจับกุมตัวสมาชิกบางคน
พอนตี้พิมพ์หนังสือเรื่อง Le structure de comportement (The Structure of Behavior)
1943 เขาเขียน Phénoménologie de la perception (Phenomenology of Perception)
1944 ย้ายมาสอนหนังกอนดอร์เซต (Lycee Condorcet)
1945 ได้รับปริญญาเอกจาก ENS จากผลงานเขียน The Structure of Behavior และ Phenomenology of Perception 
พอนตี้ได้มาสอนจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยลีอน (University of Lyon)
ตุลาคม, ร่วมกับณอน-พอล ซาทรี, และซีมง โบวัวร์ ทำวารสาร Les Temps Modernes วารสารซึ่งณอน-พอล ซาทรี เป็นแกนนำในการเผยแพร่แนวคิดปรัชญา Existentialism
1947 เขียนหนังสือ Humanisme et terreur, essai sur le problème communiste (Humanism and Terror: An Essay on the Communist Problem)
1948 ได้รับตำแหน่งศาสตราจด้านจิตวิทยาจาก ม.ลีอน แต่ระหว่างนี้เขาก็ไปสอนที่ ENS ด้วย
1949 ช่วงต้นปีเขาลาออกจาก ม.ลีอน และเดินทางไปสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยเม็กซิโก (University  of Mexico)  ก่อนที่จะกลับมาเป็นอาจารย์สอนวิชาจิตวิทยาในเด็กที่มหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ (Sorbonne University)
1952 ได้รับตำแหน่งคณะบดีภาคปรัชญาที่ฟรานซ์คอลเลจ (College de France) ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ทรงเกียรติที่สุดในสาขานี้ของฝรั่งเศส 
ธันวาคม, พอนตี้ลาออกการกองบรรณาธิการของวารสาร Les Temp Modernes เพราะเกิดความขัดแย้งทางความคิดกับณอน-พอล ซาทรี โดยพอนตี้เห็นว่าณอน-พอล ซาทรี นั้นฝักใฝ่บอลเชวิคมากเกิดไปและนิยมความรุนแรง
1953 แม่ของเขาเสียชีวิต
1960 มีผลงานหนังสือเล่มสุดท้ายระหว่างที่มีชีวิตอยู่ ชื่อ Signs ซึ่งรวมรวบงานเขียบทความเกี่ยวกับศิลปะ, ภาษาและปรัชญา
1961 3 พฤษภาคม, เสียชีวิตจากอาการหัวใจวายในกรุงปารีส ขณะมีอายุ 53 ปี

1964 The Visible and The Invisible ถูกพิมพ์ออกมาโดยเคาด์ เลอฟอร์ต (Claude Lefort) นำงานเขียนที่ยังไม่เสร็จของพอนตี้มาเรียบเรียงและตีพิมพ์

Don`t copy text!