Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Harry S. Truman

แฮร์รี่ เอส ทรูแมน (Harry S. Truman)
ประธานาธิบดี คนที่ 33 ของสหรัฐฯ
ทรูแมน เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 1884  ในลาม่าร์, มิซซัวรี่ (Lamar, Missouri) พ่อของเขาชื่อว่าจอห์น (John Anderson Trumna) และแม่ชื่อมาร์ธ่า (Martha Ellen Young) น้องชายชื่อว่าจอห์น วิเวียน (John Vivian) และน้องสาวแมรี่ (Mary Jane)
ทรูแมน เป็นลูกคนโตของบ้าน ชื่อ แฮร์รี่ ขอเขาถูกตั้งชื่อตามลุง (พี่ชายของแม่) แฮร์รีสัน แฮร์รี่ ยัง (Harrison Harry Young)  ส่วน อักษร “S” ของชื่อของเขา ตั้งเพื่อรำลึกถึงปู่และตาของเขา ปู่ แอนเดอร์สัน ชิปป์ ทรูแมน (Anderson Shipp Truman) และตาโซโลมอน ยัง (Solomon Young)
จอห์น พ่อของทรูแมนมีอาชีพเป็นเกษตรกรและเป็นนายหน้าซื้อขายปศุสัตว์ 
หลังจากทรูแมนเกิดได้ไม่กี่เดือน ครอบครัวก็ได้ย้ายออกจากลาม่าร์ มาอยู่ในฟาร์มแห่งใหม่ที่ฮาร์ริสันวิลล์ (Harrisonville, Missouri)
1887 ย้ายมาอยู่ที่ฟาร์มของปู่ในแกรนด์วิว (Granview) ที่มีขนาดใหญ่กว่า 600 เอเคอร์
1890 ย้ายมาอยู่ที่อินดิเพนเด้นท์ (Indepencence) ที่เมืองนี้ทรูแมนเริ่มเข้าเรียนในโรงเรียนตอนอายุ 8 ปี เขามีความสนใจวิชาประวัติศาสตร์ และดนตรี
1901 หลังจากจบมัธยมจากโรงเรียนมัธยมอินเดิพเพนเด้นท์ (Independence High School)  เขาสมัครเข้าเรียนที่วิทยาลัยพาณิชย์สปาลดิ้ง (Spalding’s Commercial College)  ในแคนซัส ซิตี้ (Kansad city)แต่ว่าเรียนอยู่ได้เทอมหนึ่งก็ลาออกมาทำงาน โดยทำงานหลายอย่าง ทั้งเป็นเสมียรให้กับบริษัทก่อสร้างรางรถไฟกับบริษัท Topeka & Santa Fe Railway, ทำงานที่ Atchison
1902 ทรูแมนน์ กับจอห์นน้องชายได้งานเป็นเสมียรในธนาคารเนชันแนล (National Bank of Commerce)
1905 เข้าสมัครเข้าเป็นทหารกองหนุนของเนชั่นนอลการ์ด ประจำมิสซัวรี่ (Missouri National Guard) ทรูแมนมีความฝันที่จะเป็นทหารและอยากจะเข้าเรียนที่เวสต์ปอยต์ (United State Military Academy at West Point) แต่ว่าเขาไม่ผ่านการทดสอบสายตา
1906 กลับมาอยู่ที่แกรนด์วิว เพื่อช่วยพ่อดูแลกิจการฟาร์มของครอบครัว
1917 เมื่อสหรัฐฯ เข้าร่วมในสงครามโลก ครั้งที่ 1 ทรูแมนได้ร่วมในการต้องกำลังหน่วยทหารปืนใหญ่ที่ 2 ของรัฐมิซัวรี่ (2nd Regiment of Missouri Field Artillery) ซึ่งไม่นานถูกเรียกไปร่วมกับกองทหารปินใหญ่ที่ 129 (129th Field Artillery) และถูกส่งไปรบที่ฝรั่งเศส เขาได้ยศพันโทหลังจากสิ้นสุดสงครามโลก
1919 28 มิถุนายน, แต่งงานกับเบสส์ (Bess Wallace) ซึ่งเป็นเพื่อนตั้งแต่วัยเยาว์ของเขา พวกเขามีลูกด้วยกันเพียงคนเดียวคือ แมรี่ (Mary Margaret, b.1924)
ช่วงปี 1919-1922 ทรูแมนมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่ในแคนซัส ซิตี้ ร่วมกับเอ็ดดี้ (Eddie Jacobson) เพื่อนทหารของเขาที่รู้จักกันในช่วงสงคราม แต่ว่ากิจการเสื้อผ้าล้มเหลวเพราะเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหลังสงคราม
1922 ทรูแมนได้รับเลือกตั้งเป็นผู้พิพากษาของศาลในแจ็คสัน คันทรี่ (Jackson Country Court) ซึ่งเขาทำงานด้านบริหารมากกว่าที่จะทำการตัดสินคดี
1923 เขาสมัครเข้าเรียนกฏหมายที่โรงเรียนกฏหมายแคนซัสซิตี้ (Kansas City Law School)
1924 ทรูแมนพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งผู้พิพากษาสมัยที่สอง  ซึ่งหลังจากแพ้การเลือกตั้งเขาก็ลาออกจากการเรียนกฏหมายก่อนที่จะจบ
1926 เขาได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสามของคณะผู้พิพากษาของศาลแจ็คสัน คันทรี่ 
1930 ได้รับเลือกตั้งกลับมาเป็นผู้พิพากษาสมัยที่สอง
1934 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแคร็ต
1940 ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว. อีกครั้ง ซึ่งได้สมัยนี้เขายังได้ถูกเลือกให้เป็นประธานของคณะกรรมการพิเศษวุฒิสภาที่เข้าไปดูแลกิจการกระทรวงกลาโหม (Senate Special Committee to Investigate the National Defense Program) ซึ่งบางทีถูกเรียกว่าคณะกรรมการทรูแมน (Trumann Committee) ซึ่งไปตรวจสอบดูแลสัญญาของกองทัพว่าถูกต้องมีประสิทธิภาพหรือไม่
1944 กรกฏาคม, ทรูแมนได้รับการเสนอชื่อในตำแหน่งรองประธานาธิบดี คู่กับแฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ (Franklin D. Roosevelt) ซึ่งลงสมัครในตำแหน่งประธานาธิดี
1945 12 เมษายน, ประธานาธิบดีรูสเวลต์ เสียชีวิตอย่างกระทันทัน และทรูแมน ได้เข้าพิธีสาบานตนเป็นประะนาธิบดีคนที่ 33
16 กรกฏาคม, อเมริกาทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรก (Trinity test)
17 กรกฏาคม, ทรูแมนเข้าร่วมประชุมที่พอตส์ดัม (Potsdam Conference) ในเยอรมัน ซึ่งได้พบกับเชอร์ชิล (Winston Churchill) และสตาลิน (Joseph Stalin) ซึ่งระหว่างการพบกับสตาลิน เขาได้บอกใบ้ว่าสหรัฐฯ กำลังจะมีอาวุธชนิดใหม่  สตาลินตอบว่า “ยินดีที่ได้ทราบ”  ซึ่งจริงๆ แล้วสตาลินรู้เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ มานานก่อนทรูแมนเสียอีก
6,9 สิงหาคม, สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น โดยการตัดสินใจของของ ปธน.ทรูแมน
14 สิงหาคม, ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม
ช่วงปลายปี มีการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับโซเวียตก็มีการเผชิญหน้ากันมากขึ้นเรื่อยๆ
1946 หลังสงครามโลก สหรัฐฯ เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจ เพราะว่าทรูแมนลดการใช้จ่ายด้านการทหารลงอย่างมาก แต่กลับเกิดภาวะเงินเฟ้อสูง จนนำไปสู่การประท้วงครั้งใหญ่ของแรงงานในอุตสาหกรรมเหล็ก, ถ่านหิน,​ และคนง่านก่อสร้างทางรถไฟ
1947 12 พฤษภาคม, (Truman Doctrine) ทรูแมนกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาเรียกต้องให้สมาชิกสนับสนุนเขา เรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการเงินและทหารแก่กรีซและตุรกี ด้วยความกังวลว่าลัทธิคอมมิวนิสต์จะขยายเข้ามาในยุโรปตะวันตก 
พฤษภาคม, ทรูแมน ให้การรับรองอิสราเอล
1948 3 พฤษภาคม, ทรูแมน ประกาศใช้แผนมาร์แชลล์ (Marshall Plan) เป็นโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อฟื้นฟูประเทศในยุโรปที่เป็นประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ และเพื่อสกัดอิทธิพลของสหภาพโซเวียต
14 พฤษภาคม, อิสราเอลประกาศตัวเองเป็นรัฐ และสิบนาทีต่อมาสหรัฐฯ ของทรูแมน ก็เป็นชาติแรกที่ให้การรับรองสถานะของอิสราเอล
3 พฤศจิกายน, หนังสือพิมพ์ชิคาโก้ เดียรี่ ทรีบูน (Chicago Daily Tribune) พาดหัวข่าวว่า “Dewey Defeats Truman” โทมัน เดวีย์ (Thomas E. Dewey) ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี  ซึ่งเป็นการพาดหัวข่าวที่ผิดพลาด ความจริงทรูแมนชนะการเลือกตั้งได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย โดยในตอนนั้นเขาถูกคาดหมายว่าจะแพ้การเลือกตั้ง แต่ว่าทรูแมนใช้แคมเปญ “Whistlestop” ซึ่งเขาตระเวณออกทัวร์หาเสียงไปทั่วประเทศ
1949 4 เมษายน, ก่อตั้งองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติคเหนือ (NATO, North Atlantic Treaty Organization)
1950 25  มิถุนายน, ประธานาธิบดีคิม อิล ซุง (Kim Il-sung) บุกดินแดนตอนใต้ของเกาหลี ซึ่งสหรัฐฯ ให้การสนับสนุน เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเกาหลี
1 พฤศจิกายน, ชาวเปอร์โตริโก้ สองคน คือ กริเซลิโก ตอร์เรสโซล่า (Griselio Torresola) และออสก้า โคลลาโซ่ (Oscar Collazo) บุกเข้าไปที่แบร์เฮาท์ (Blair House) บ้านพักประธานาธิบดี ระหว่างที่กำลังมีการซ่อมปรับปรุงทำเนียบขาวอยู่  พวกเขาสองคนต้องการเรียกร้องเอกราชให้กับเปอร์โตริโก้ที่ถูกสหรัฐฯ อเมริกายึดครอง แต่ว่าก็ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดียิงเสียชีวิต
1953 หลังสิ้นสุดตำแหน่ง ประธานาธิบดี ทรูแมนกลับไปใช้ชีวิตที่บ้าน Wallace home ในเมืองอินดิเพนเด้นซ์, มิซซัวรี่  ร่วมกับภรรยาและแม่ของเขา
เขาใช้ชีวิตหลังวัยทำงานเขียนหนังสือบันทึกความทรงจำออกมา 2 เล่ม โดยในหนังสือ เขาชอบเรียกตัวเองว่า Mr. Citizen
1955 Memoirs by Harry S. Truman : Year of Decisions and Memoirs
1956 Memoirs by Harry S. Truman : Years of Trial and Hope
1972 5 ธันวาคม, ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะอาการของปอดติดเชื้อ 

26 ธันวาคม, ทรูแมนเสียชีวิต ในวัย 88 ปี  ร่างของเขาถูกฝังไว้ที่หอสมุดทรูแมน (Truman Library and Museum) ในอินดิเพนเด้นซ์
Don`t copy text!