Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Emmy Noether

เอมาไล เอ็มมี่ โนเทอร์ (Amalie Emmy Noether)
Abstract algebra, Noether’s Theorem
เอ็มมี่ เกิดวันที่ 23 มีนาคม 1882 ในเออร์แลนเจ้น, บาวาเรีย (Erlangen, Bavaria, German Empire)  ครอบครัวของเธอมีเชื้อสายยิว 
พ่อชื่อแม็กซ์ (Max Noether) ครอบครัวของเขามีธุรกิจค้าส่งสินค้า แต่ว่าแม็กซ์เองป่วยด้วยโรคโปลิโอตั้งแต่เล็ก เมื่อโตขึ้นเขาเป็นศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ในมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก (University of Heidelberg) มีผลงานสำคัญคือทฤษฏี Brill-Noether Theory ร่วมกับอเล็กซานเดอร์ บริลล์ (Alexander von Brill)
แม่ของเอ็มมี่ชื่ออมาเลีย (Amalia Kaufmann) 
เอ็มมี่เป็นลูกคนโตของครอบครัวในพี่น้องทั้งหมดสี่คน โดยน้องชื่ออัลเฟรด (Alfred, b.1883) ฟริตซ์ Fritz Noether, b.1884) และกุสตลาฟ (Gustav Robert, b.1880)
เอ็มมี่จบการศึกษาจาก Höhere Töchter Schule 
1900 ได้รับใบอนุญาตให้เป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสในโรงเรียนสตรีได้ แต่ว่าเอ็มมี่ตัดสินใจสมัครเข้าเรียนคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเออร์แลนเจ้น (University of Erlangen) โดยที่เธอเป็นเพียงหนึ่งในสองคนของนักเรียนที่เป็นผู้หญิงของมหาวิทยาลัยในขณะนั้น และไม่ได้รับสถานะนักเรียนเต็มตัว การเข้าฟังเลคเซอร์แต่ละครั้งเธอจะต้องได้รับอนุญาตจากอาจารย์ที่สอนว่าจะให้นั่งฟังเลคเชอร์ได้หรือไม่
1903 เอ็มมี่ใช้เวลาช่วงซัมเมอร์ไปฟังเลคเชอร์ที่มหาวิทยาลัยก๊อตตินเจ้น (University of Göttingen) โดยมีเดวิด ฮิลเบิร์ต (David Hilbert) เฟลิกซ์ เคลียน (Felix Klein) เฮอร์แมนน์ มินกอฟสกี้ (Hermann Minkowski) เป็นผู้สอน
1907 จบปริญญาเอกคณิตศาสตร์ จาก ม.เออร์แลนเจ้น โดยเขียนวิทยานิพนธ์เรื่อง On Complete Systems of Invariants for Ternary Biquadratic Form มีพอล กอร์ดอน (Paul Gordon) เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
หลังจากนั้นเธอก็ทำงานเป็นอาจารย์สอนที่สถาบันคณิตศาสตร์ ของ ม.เออร์แลนเจ้น (Mathematical Institute of Erlangen) โดยที่ไม่ได้รับเงินเดือนกว่าเจ็ดปี
1915 เมษายน, ตอบรับคำเชิญจากฮิลเบิร์ตและเคลียนให้ไปสอนที่ ม.ก็อตตินเจ้น โดยเธอต้องทำการสอนในนามของฮิลเบิร์ต  เพราะความคิดแบบอนุรักษ์นิยมของอาจารย์ท่านอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยที่ยังไม่ยอมรับผู้หญิงให้เป็นอาจารย์
สองอาทิตย์หลังเธอเดินทางไป ม.ก๊อตตินเจ้น แม่ของเธอก็เสียชีวิตอย่างกระทันหัน 
ปีนี้เธอค้นพบทฤษฏี Noether’s (first) theorem ซึ่งตีพิมพ์ผลงงานในปี 1918 ทฤษฏีของเธอได้รับการยกย่องว่ามีความสำคัญมากต่อการพัฒนาฟิสิกส์สมัยใหม่ เพราะพิสูจน์ว่า conversation law <=> Symmetry
1919 ได้รับตำแหน่ง “Privatdozent” ซึ่งอนุญาตให้เธอสอนหนังสือได้ในชื่อเธอเอง
1920 มีผลงานเขียน Concerning Moduli in Noncommutative Fields, Particularly in Differential and Difference Term ร่วมกับชมิดเลอร์ (Werner Schmeidler) ตีพิมพ์ลงในแม็กกาซีน Mathmatische Zeitchrift ทำให้เธอได้รับการยอมรับว่าเป็นนักคณิตศาสตร์แถวหน้า
1921 ผลงานเขียนเรื่อง idealtheorie in Ringbereichen (Theory of Ideals in Ring domains) ซึ่งเป็นพื้นฐานของ commutative ring theory (สาขาหนึ่งของ abstract algebra) 
1928 ได้รับเชิญมาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยมอสโคว์ (Moscow State University) โดยได้ทำงานร่วมกับปาเวล อเล็กซานดรอฟ (Pavel Alexandrov) นักคณิตศาสตร์โทโพโลจี (topology)  
1929 มีผลงานคณิตศาตร์เรื่อง Hypercomplex Number Systems and Their Representation และ Non-commutative Algebra
1930 มาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแฟรงเฟิร์ต (University of Frankfurt)
1932 ได้รับรางวัล Ackermann-Teubner Memorial 
1933 เมื่อนาซีเยอรมันมีอำนาจในเยอรมัน เอ็มมี่ก็อพยพมาอยู่ในสหรัฐฯ และได้งานสอนหนังสือที่บริน มาวร์ คอลเลจ (Bryn Mawr College) ในเพนซิลวาเนีย 
1934 ได้มาสอนหนังสือที่สถาบันการศึกษาขั้นสูงของมหาวิทยาลัยพรินตั้น (Institute for Advanced Study, Princeton)

1935 14 เมษายน, เสียชีวิตหลังจากเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอก  4 วัน ร่างของเธอถูกฝังไว้ข้างๆ ห้องสมุดที่บริน มาวร์ คอลเลจ
Don`t copy text!