Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Tag: Egypt

  • Rhodophis (Egyptian Cinderella)

    โรโดฟิส (Ῥοδῶπις) โรโดฟิสเป็นนิทานโบราณเรื่องหนึ่ง ที่มีพล๊อตคล้ายซินเดอเรลล่า ถูกบันทึกเอาไว้ครั้งแรกในหนังสือ Geographica โดยสตาโป (Strabo) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ซึ่งเขียนไว้ราวปี 7 BC-24 AD เนื้อเรื่อง โรโดฟิส เป็นหญิงสาวชาวกรีกซึ่งถูกโจรสลัดจับตัวไปและขายไปเป็นทาสอยู่ในอียิปต์  วันหนึ่งขณะที่โรโดฟิสกำลังอาบน้ำอยู่ในลำธาร ก็ไ้ดปรากฏว่ามีนกอินทรีตัวหนึ่งได้โฉบลงมาเอารองเท้าแตะของนางแล้วบินหนึไป เมื่อนกอินทรีบินมายังเมืองเมมฟิส ในขณะที่ฟาโรห์กำลังออกมาสูดอากาศอยู่ในอุทยาน เจ้านกอินทรีก็ปล่อยรองเท้าแตะของหญิงสาวตกลงมาเบื้องหน้าของพระองค์ ในตอนแรกพระองค์ทรงแปลกพระทัยที่จู่ๆ รองเท้าก็ตกลงมาจากฟ้า แต่เมื่อทรงทอดพระเนตรรองเท้าคู่นั้น พระองค์ก็สังเกตุเห็นรอยบนรองเท้า ว่าผู้ที่สวมใส่รองเท้านี้จะต้องเป็นผู้ที่มีความงดงามแน่  พระองค์จึงได้เสด็จออกจากพระราชวังเพื่อไปตามหาผู้หญิงที่เป็นเจ้าของรองเท้่า จนกระทั้งได้พบกับโรโดฟิส หญิงสาวเจ้าของรองเท้าข้างนั้น พระราชาจึงได้ทรงพาหญิงสาวกลับไปยังหวัง แต่จัดพิธิอภิเษกสมรส หญิงสาวจึงกลายเป็นราชินีแห่งอียิปต์

  • Nitocris

    ไนโตคริส (Νίτωκρις) ในหนังสือ Histories เขียนโดย เฮโรโดตัส (Herodotus, 484 BC-425 BC) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ได้เล่าถึงตำนานฟาโรห์อียิปต์ ไนโตคริส เอาไว้ว่า พระองค์เป็นสตรีสวยและมีพระชนม์ไม่มาก ทรงได้รับสั่งให้มีการสร้างท้องพระโรงสวยงามแห่งหนึ่งขึ้นมาใต้ดิน เมื่อท้องพระโรงสร้างเสร็จ พระองค์ได้ได้เชิญ เหล่าขุนนางและทหารมาร่วมในการฉลองการเปิดท้องพระโรงใหม่ ซึ่งแขกทั้งหมดล้วนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการวางแผนสังหาร พระสวามี(และพี่ชาย) ของพระองค์ เมื่อแขกหรือได้ดื่มกินกันจนเมามาย ไนโตคริสก็ได้สั่งให้มีการปล่อยน้ำเข้ามาในท้องพระโรง จนแขกทั้งหมดเสียชีวิตเพราะจมน้ำหรือไม่ก็ถูกกระแสน้ำพัดจนไหลลงไปในแม่น้ำไนล์  ซึ่งหลังจากทรงแก้แค้นได้สำเร็จ ไนโตคริสก็ปลงพระชนม์พระองค์เอง โดยกระโดดเข้าไปในกองไฟ เพื่อไม่ให้ผู้ใครมาล้างแค้นพระองค์ได้  เรื่องราวของไนโตคริส ซึ่ง มาเนโท (Manetho) นักประวัติศาสตร์กรีกอีกคน ได้เพิ่มเติมเรื่องราวว่าใน Aegyptiaca (Historyo of Egypt) ว่า พระองค์เป็นฟาโรห์ อียิปต์ ที่สวย ผิวกระจ่าง และมีแก้มที่ชมพู ทรงเป็นฟาโรห์ องค์สุดท้ายในราชวงค์ที่ 6 (VI dynasty) ช่วงระหว่าง 2151-2150 BC และเป็นผู้สร้างปิรามิด องค์ที่…

  • Manetho

    มาเนโท (Μανέθων) ผู้เขียน Aegyptiaca เชื่อกันว่าเดิมเขาเป็นชาวเมืองเซเบนนีตอส (Sebennytos) ในอียิปต์โบราณ เขาเป็นคนอียิปต์โดยกำเนิดและใช้ภาษาอียิปต์ มีชีวิตอยู่ในช่วงของราชวงศ์ปโตเลเมียค (Ptolemaic dynasty) ช่วง 300 ปีก่อนศริสต์กาล ข้อมูลเกี่ยวกับมาเนโทนั้นไม่แน่ชัด ส่วนใหญ่ข้อมูลเกี่ยวกับเขาถูกอ้างอิงจากงานเขียนของนักประวัติศาสตร์กรีกและยิว อาทิ โจเซฟัส (Flavius Josephus, 37-100 CE), ยูเซเบียส (Eusebius of Caesarea, 260-339 AD), อฟริแคนัส (Africanus) จากข้อมูลของพลูตาร์ช (Plutarch) มาเนโททำงานรับใช้กษัตริย์พโตเลมี ที่ 1 โซเตอร์  (Ptolemy I Soter, 323-283 BC) ข้อมูลของจอร์จ ซิลเซลลัส (George Syncellus) บอกว่ามาเนโททำงานอยู่ในสมัยของกษัตริย์ปโตเลมี ที่ 2  ฟิลาเดลฟัส (Ptolemy II Philadelphus, 285-246 BC) มาเนโท…

  • Omm Sety

    โดโรธี เอดี้ (Dorothy Louise Eady) ผู้หญิงซึ่งอ้างว่าเป็นนักบวชในอียิปต์โบราณกลับชาติมาเกิด โดโรธี เกิดวันที่ 16 มกราคม 1904 ในลอนดอน (Blackhearth, London) เป็นลูกคนเดียวของรัวเบน (Reuben Ernest Eady) ช่างตัดเสื้อ และแม่ชื่อคาโรไลน์ (Caroline Mary Frost)  ตอนอายุ 3 ขวบโดโรธีประสบอุบัติเหตุตกจากบันไดจนหมดสติไป ขนาดที่หมอคาดว่าเธอจะไม่มีชีวิตรอด และเธอมีอาการของโรคผิดปกติในการออกเสียงพูด (foreign accent syndrome) แต่แล้วเธอก็ผ่านช่วงเวลาที่วิกฤตมาได้อย่างปาฏิหารย์ ครอบครัวของโดโรธีเป็นแคโธริก เธอจะต้องเข้าโบสถ์เป็นประจำทุกอาทิตย์ตั้งแต่เด็ก มีอยู่วันหนึ่งตอน 4 ขวบ พ่อได้พาโดโรธีไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์  และเธอได้เห็นภาพวิหารของฟาโรห์ เซติ ที่ 1 (Seti I) ฟาโรห์ในราชวงศ์ที่ 19 ของอียิปต์ โดโรธีบอกกับทุกคนว่าที่นั่นคือบ้านของเธอ  เธอล้มลงจูบที่เท้าของรูปปั้นฟาโรห์ และตั้งแต่นั้นมาเธอก็เริ่มเรียนอักษรเฮียโรกริฟห์ ของอียิปต์ ตอนอายุ 15 โดโรธีเล่าถึงความฝันว่าได้พบกับฟาโรห์ เซติ…

  • Cleopatra Philopator

    คลีโอพัตรา ฟิโลปาเตอร์( Κλεοπάτρα Φιλοπάτωρ) คลีโอพัตรา ฟลิโลปาเตอร์ เกิดในตระกูลปโตเลมี หรือ ลากิดอฟ (Ptolemy, Lagidov) ซึ่งเป็นชาวกรีก มาเคโดเนีย (Macedonian Greek) ปโตเลมี ที่ 1 โซเตอร์ (Ptolemy I Soter) ต้นตระกูลนั้นเป็นเพื่อนและเป็นทหารองครักษ์ของอเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งพระองค์สววรคตในปี 323 BC หลังจากนั้นปโตเลมีได้เข้าปกครองอียิปต์ และประกาศตัวเองเป็นกษัตริย์ในปี 305 BC ซึ่งไม่นานชาวอียิปต์ยอมรับพวกเขาในฐานะฟาโรห์ แต่ว่าภายในราชวงศ์ปโตเลมีนั้น ไม่มีใครพูดภาษาอียิปต์ พวกเขาใช้ภาษากรีกเป็นทางการ และมักจะแต่งงานกันเองภายในเครือญาติ เอกสารที่เล่าถึงประวัติของคลีโอพัตรานั้น ปรากฏอยู่ในงานเขียนของชาวโรมัน พลูตาร์ช (Plutarch), ซูโตเนียส (Suetonius), แอปเปี้ยน (Appian),ดิโอ คัสเซียส ( Dio Cassius), และโจเซฟัส (Josephus) ซึ่งให้ข้อมูลค่อนข้างน้อย 69 BC คลีโอพัตราเกิด ในวันที่ 2 พฤศจิกายน…

Don`t copy text!