Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Oda Nobunaga

โอดะ โนบุนากะ (織田 信長)

โนบุนากะ เกิดวันที่ 23 มกราคม 1534 ในนาโกย่า, โอวาริ, ญี่ปุ่น  เขาเป็นลูกชายคนที่สองของโอดะ โนบุฮิเดะ (Oda Nobuhide) ซึ่งเป็นไดเมียว (daimyo) ระดับล่างในจังหวัดโอวาริ แต่ว่ามีฐานะร่ำรวยเพราะว่าครอบครองที่ดินจำนวนมากในโอวาริและมีกำลังทหารที่เข้มแข็ง ชีวิตของโนบุฮิเดะ ส่วนใหญ่ใช้ไปกับการรบกับมิกาว่า (Mikawa province) ของตระกูล มัตสุไดระ (Matsudiara) นำโดยมัตสุไดระ ฮิโรตาดะ (Matsudiara Hirotada) , ตระกูลอิมากาวะ (Imagawa clan) ของอิมิกาวะ โยชิโมโตะ (Imagawa Yosimoto)  ไดเมียวแห่งสุรุกะ (Suruga province), และมิโนะ (Mino province) 

ส่วนแม่ของโนบุนากะชื่อว่าโดตะ โกเซน (Dota Gozen)  

โนบุนากะเป็นลูกคนที่สอง เขามีพี่น้องอีก 13 คน โดยเป็นชาย 11 และหญิง 2 คน

วัยเด็กของ โนบุนากะ เขามีชื่อจริงว่า  คิปโปชิ (吉法師, Kipposhi)  และเพราะนิสัยที่แปลกไม่เหมือนคนอื่น จึงถูกตั้งฉายาว่า ไอโง่แห่งโอวาริ (尾張の大うつけ, The Great Fool of Owari)

1539 ตอน 5 ขวบ โนบุนากะ ถูกส่งมาอยู่ที่ปราสาทนาโกย่า (Nagoya castle) โดยแยกกันอยู่กับพ่อแม่ของเขา  เพราะว่าแม่ของเขาให้กำเนิดลูกคนใหม่ คือ โอดะ โนบุยุกิ (Oda Nobuyuki) 

1546 ตำนานเล่าว่า ในพิธีเก็มปูกุ (元服, Genpuku, งานฉลองเมื่ออายุย่าง 13 ปี)โนบุนากะ เปลี่ยนชื่อจาก คิปโปชิ มาใข้ โนบุนากะ ที่ปราสาทฟุรุวาตาริ (Furuwatari Castle)

1547 (Battle of Kanoguchi)  โนบุฮิเดะ พ่ายแพ้ให้กับไซโต โดซัน (斎藤 道三, Saito Dosan) พระนักรบแห่งมิโนะ 

1548 โอดะ โนบุฮิเดะ พ่ายแพ้ในการรบที่อะซูกิซากะ (Battle of Azukizaka) ให้กับอิมิกาวะ โยชิโมโตะ

1549 โนบุฮิเดะ สงบศึกกับมิโนะ โดยให้โนบุนากะ แต่งงานกับโนฮิเมะ (濃姫, Nohime) บุตรสาวของไซโต โดซัน (Saito Dosan)

1551 โนบุฮิเดะ พ่อของเขาเสียชีวิตอย่างกระทันหัน ทำให้โนบุนากะ ซึ่งเป็นลูกคนโตที่ถูกกฏหมาย ขึ้นมาเป็นไดเมียวคนใหม่ของโอวาริ แต่ก็ทำให้เกิดความแตกแยกภายในตระกูลโอดะเอง เพราะพี่น้องหลายคนไม่เห็นด้วยที่โนบุนากะจะเป็นผู้นำตระกูฃ

1552 สมรภูมิกาอิซุ(Battle of Kaizu)   โนบุนากะ ปราบการกบฏของ โอดะ โนบุโตโมะ (Oda Nobutomo) ได้

1555 โนบุนากะ ส่งทหารไปยังมิโนะ เพื่อช่วยเหลือไซโต โดซัน พ่อตาของเขา หลังจากไซโต โยชิตัตสุ (aito Yoshitatsu) ลูกของเขาเองพยายามจะแย่งอำนาจจากผู้เป็นพ่อ แต่ว่าการช่วยเหลือของโนบุนากะล้มเหลว และไซโต โดซัน เสียชีวิตในการรบที่นาการะ-กาวะ (Battle of Nagara-gawa)

1557 โอดะ โนบุยูกิ (Oda Nobuyuki) วางแผนการณ์ที่จะยึดอำนาจโนบุนากะ แต่ว่าโนบุนากะล่วงรู้ถึงแผนการณ์นี้ก่อนโดย ชิบาตะ คัตซูอิ (Shibata Katsuie) นำมาเปิดเผย เหตุการณ์นี้ทำให้โนบุยุกิถูกบังคับให้ต้องทำฮาราคิรีตัวเอง 

1558 (Siege of Terabe) โนบุนากะส่งทหารไปช่วยปกป้อง ซูซูกิ ชิเกเตรุ  (Suzuki Shigeteru) ซึ่งแปรพักตร์จากฝ่ายของอิมิกาวะ 

(Battle of Ukino) โอดะ โนบุกาตะ (Oda Nobukata) ซึ่งพยายามก่อกบฏ ถูกปราบลงได้ ซึ่งเป็นการกบฏครั้งสุดท้ายภายในตระกูลที่ต่อต้านโนบุนากะ

1560 โนบุนากะ สามารถขยายอิทธิพลของตนเองได้เหนือกว่าาญาติในตระกูลเดียวกันในโอวาริ ทำให้ทั้งจังหวัดอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา 

พฤษภาคม,(Battle of Okehazama) นอกจากนั้นในปีเดียวกันนี้โนบุนากะสามารถรบชนะกองทัพของอิมากาว่า โยชิโมโต้ (Imagawa Yoshimoto) ซึ่งเป็นไดเมียวแห่งมิกาว่า (Mikawa province) ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกันได้ในการรบที่โอเกฮาซามะ  ซึ่งในการรบครั้งนี้กองทัพของโอดะมีทหารเพียง 3,000 นายในขณะที่ทหารของมิกาว่ามีกว่า 40,000 นาย

ทหารของโนบุนากะนั้นเป็นกองกำลังแรกของญี่ปุ่นที่มีการปรับปรุงให้ทันสมัยด้วยการนำอาวุธปืนไฟ (muskets) ของตะวันตกมาใช้

1562 พันธมิตรคิโยสุ (Kiyosu alliance) โนบุนากะ ได้ตกลงเป็นพันธมิตรกับโตกุกาว่า อิเอยะสุ (徳川家康, Tokugawa Ieyasu) ไดเมียวคนใหม่แห่งจังหวัดมิกาว่า

1565 เมื่อโชกุน อชิกายะ โยชิเตรุ (AshikagaYoshiteru) ถูกลอบสังหาร  โนบุนากะ ได้อาศัยจังหวะนี้ยกทัพเข้าไปในเกียวโต 

1567 นำทหารไปโจมตีมิโนะ  ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการผนวกดินแดนญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งโนบุนากะ ก็ได้เริ่มนำเอาคำว่า Tenka Fubu (天下布武) ซึ่งแปลว่า “ผนวกดินแดนด้วยกำลัง” มาเป็นตราประทับประจำตัว 

1568 โนบุนากะสนับสนุน อชิกายะ โยชิอะกิ (Ashikaga Yoshiaki) ขึ้นเป็นโชกุนคนใหม่ ในฐานะหุ่นเชิดของโนบุนากะ

1570 (Battle of Anegawa), โนบุนากะร่วมกับโตกุกาวา อิเอยะสุ เอาชนะกองทัพร่วมของอซากุระ โยชิกาเกะ (Asakura Yoshikage) และอาไซ นากามาสะ (Azai Nagamasa) ลงได้

1571 โจมตีและทำลายฐานที่ตั้งของนักรบเทนได (Tendai warrior) ซึ่งทั้งอยู่บนเขาไฮอิ (Hiei mountains) ใกลับกับเกียวโต 

1573 พิชิตจังหวัดอิชิเซน (Echizen province) และจังหวัดวากาสะ (Wakasa province) จากนั้นโนบุนากะ บีบบังคับให้ อชิกายะ โยชิอะกิ ออกจากตำแหน่งโชกิน ทำให้ตำแหน่งโชกุนของตระกูลอชิกายะ มีอันต้องสิ้นสุดลง 

1575 มิถุนายน, (Battle of Nagashino) ในการรบที่นากาชิโนะ  โนบุนากะ กับโตกุกาวา อิเอยะสุ เอาชนะทาเกดะ คัตสุโยริ (Takeda Katsuyori

1576 โนบุนากะสร้างปราสาทแห่งใหม่ขึ้นที่อะซูชิ (Azuchi) ริมทะเสสาบบิวา (Lake Biwa) ใกล้กับเกียวโตเพื่อใช้เป็นฐานบัชญาการ โดยปราสาทนี้ชื่ออะซูชิ-โมโมยามะ (Azuchi-Mamoyama castle)

1579 อะเกชิ มิตสุฮิเดะ (Akechi Mitsuhide) แม่ทัพของโนบุนากะ บุกแทนบะ (Tanba) เป็นครั้งที่ 3 และสามารถเอาชนะได้ในที่สุด  และยังสามารถยึกจังหวัดเซ็ตสุ (Settsu province) มิกาซากะ (Mimasaka province) และบิเซน (Bizen province) มาอยู่ใต้อำนาจของโนบุนากะได้ 

1580 โตโยมิ ฮิเดะโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ซึ่งยังเป็นแม่ทัพของโนบุนากะ ใช้เวลา 2 ปีในการปิดล้อมปราสาทมิกิ (Miki Castle) ก่อนจะเอาชนะได้  และยึดจังหวัดทาจิมะ (Tajima) ได้ในที่สุด

1581 โตโยมิ ฮิเดะโยชิ พิชิตจังหวัดอินาบะ (Inaba province)

1582 จนถึงปีนี้ภาคกลางของญี่ปุ่นตกอยู่ใต้อำนาจของโนบุนากะแล้ว

21 มิถุนายน, (Honno-ji Incident) อะเกชิ มิตสุฮิเดะ แม่ทัพของโนบุนากะ ได้ก่อกบฏขึ้น โดยส่งกำลังทหารบุกวัดฮอนโนจิ ซึ่งโนบุนากะใช้เป็นสถานที่พักผ่อน  ทำให้โนบุนากะตัดสินใจทำฮาราคิรีตนเอง และสั่งให้โมริ รันมารุ (Mori Ranmaru) ข้ารับใช้ จุดไฟเผาวัดและร่างของเขาเพื่อไม่ให้ผู้ไดได้ศพของเขาไป

2 กรกฏาคม, สมรภูมิยามาซากิ (Battle of Yamazaki) โตโยมิ ฮิเดะโยชิ ล้างแค้นให้โนบุนากะ โดยเอาชนะกองทัพของอะเกชิ มัตสุฮิเดะ ได้ หลังจากนั้นโตโยมิ ฮิเดะโยชิ เป็นผู้สานต่อนโยบายรวมญี่ปุ่นของโนบุนากะ 

Don`t copy text!