Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Sophie Scholl

โซฟี ชอยล์ (Sophie Magdalena Scholl)

สมาชิกกลุ่ม White Rose ซึ่งเคลื่อนไหวต่อต้านนาซีเยอรมัน

โซฟี เกิดวันที่ 9 พฤษภาคม 1921 พ่อของเธอชื่อโรเบิร์ต (Robert Scholl) และแม่ชื่อแม็กดาเลน่า (Magdalena Müller) โรเบิร์ตนั้นเป็นผู้ว่าการเมืองฟอร์ชเตนเบิร์ก (Forchtenberg) เขาเป็นนักการเมืองสายเสรีนิยมและเป็นคนที่มักพิพากษ์วิจารณ์นาซี 

โซฟี นั้นเป็นลูกคนที่ 4 ในพี่น้องทั้งหมดหกคน ได้แก่ 

1. อิง (Inge Aicher-Scholl, 1917-1944 (สูญหาย))

2. ฮานส์ (Hans Scholl, 1918-1943)

3. อิลิซาเบธ (Elisabeth Hartnagel-Scholl, 1922-2020)

4. โซฟี 

5 เวอร์เนอร์ (Werner Scholl, 1922-1944(สูญหาย)) 

6. ธิลด์ (Thide Scholl, 1925-1926)

โซฟีเริ่มเข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนตอนเธออายุ 7 ปี โดยชอบเรียนวาดรูปและดนตรี

1930 ครอบครัวย้ายมาอยู่ในเมืองลุดวิกสเบิร์ก (Ludwigsburg) 

1932 ครอบครัวย้ายมาอยู่ที่เมืองอูล์ม (Ulm) โดยที่โรเบิร์ตได้มาเปิดสำนักงานให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจ ซึ่งที่เมืองนี้โซฟีซึ่งมีอายุ 12 ปี ได้เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมสตรี ซึ่งระหว่างที่เรียนเธอได้เข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มสันติบาตสตรีเยอรมัน (League of German Girls, Bund Deutscher Mädel, BDM) ซึ่งเป็นกลุ่มยุวชนในสังกัดของพรรคนาซี (Nazi Party)

1933 อด๊อล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) และพรรคนาซี (NSDAP) เริ่มมีอำนาจในเยอรมัน ซึ่งโซฟีในช่วงเวลานั้นให้การสนับสนุนแนวคิดของพรรคนาซี และเธอได้ร่วมกับกลุ่มสันนิบาตเด็กหญิงชาวเยอรมัน (Bund Deutscher Mädel, League of German Girls) ซึ่งเป็นองค์กรในสังกัดพรรคนาซี ซึ่งตอนนั้นนอกจากโซฟีแล้ว อิงและอิลิซาเบธพี่สาวของโซฟีก็เป็นสมาชิก ในขณะที่ฮานส์พี่ชายได้เข้ากับกลุ่มยุวฮิตเลอร์ (Hitler Youth)

1937 ฮานส์, อิง, เวอร์เนอร์, และโซฟีถูกจับ เพราะเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มยุวชนที่มีแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์ แต่ว่าโซฟีได้รับการปล่อยตัวออกมาในวันรุ่งขึ้นเพราะว่าอายุเพียง 16 ปี ในขณะที่ฮานส์และพี่น้องคนอื่นๆ ถูกขังอยู่ราวสามอาทิตย์ 

ในปีนี้โซฟียังได้พบรักกับ ฟริตซ์ ฮาร์ตเนเจล (Fritz Hartnagel) ซึ่งความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยาวนานจนกระทั้งโซเวียเสียชีวิต

1940 โซฟีสำเร็จการศึกษาระดับมัธยม ซึ่งหลังจากเรียนจบเธอก็ได้ทำงานเป็นครูระดับอนุบาล ประจำสถาบันโฟรเบล (Fröbel Institute) 

ในช่วงเวลานี้ฮานส์พี่ชายของโซฟีได้พบกับชาวโรมันแคโธริกซ์สองคน ซึ่งทำให้ฮานส์เปลี่ยนแนวคิด มาสนใจศาสนา ปรัชญาและศิลปะ และตั้งคำถามเกี่ยวกับแนวคิดและการปกครองของนาซีมาขึ้น ไม่นานฮานส์ก็ได้ตั้งกลุ่ม White Rose ขึ้นมา โดยร่วมกับ อเล็กซานเดอร์ ซโมเรลล์ (Alexander Schmorell) วิลลิ กราฟ (Willi Graf) และเจอร์เก้น วิตเต้นสไตน์ (Jurgen Wittenstein) โดยที่พวกเขายึดแนวทางสันติวิธีโดยกาใช้การแจกใบปลิวและวาดรูปเพื่อโจมตีนาซี 

1941 ในช่วงสงคราม โซฟีเข้าทำงานกับ National Labor Service ซึ่งเป็นหน่วยงานกึ่งทหาร โซฟีถูกส่งไปเป็นครูในเมืองบลัมเบิร์ก (Blumberg) นานหกเดือน

1942 พฤษภาคม,สมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมิวนิค (University of Munich) ทางสาขาชีววิทยาและปรัชญา ซึ่งที่นี่ฮานส์พี่ชายของโซฟีได้เรียนที่คณะแพทย์อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งฮานส์โดยส่วนตัวแล้วเขาไม่อยากให้น้องสาวเข้าร่วมกับเคลื่อนไหวกับ White Rose เพราะอันตราย เขาจึงปิดเรื่องของกลุ่มเอาไว้เป็นความลับจากโซฟี แต่ว่าต่อมาโซฟีได้เห็นใบปลิวที่กลุ่ม White Rose แจกจ่ายออกไป เธอจึงรู้จากลายมือว่าพี่ชายของเธอมีส่วนร่วมกับกลุ่ม และได้ขอเข้าร่วม

ในช่วงหยุดฤดูร้อน โซฟีต้องถูกเกณฑ์ไปทำงานในช่วงสงคราม โดยที่เธอถูกส่งไปทำงานที่โรงงานเหล็กในเมืองอูล์ม 

ในช่วงเวลานี้โรเบิรตพ่อของโซฟีถูกนำไปขังคุกเป็นเวลาสี่เดือนเนื่องจากเขียนบทความตำหนิฮิตเลอร์

1943 มกราคม, นักศึกษาของมหาวิทยาลัยมิวนิค ทำการประท้วงต่อต้านฮิตเลอร์ และสมาชิกกลุ่ม White Rose ก็ได้เข้าร่วมการประท้วงนี้ด้วย และโซฟีได้ทำหน้าที่โปรยใบปลิวลงมาจากอาคารเรียนชั้นสามในมหาวิทยาลัย แต่ว่าโชคไม่ดีที่มีคนเห็นโซฟี โดยคนที่เห็นโซฟี คือจาค๊อฟ ซมิด (Jacob Schmid) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนนาซี จาค๊อฟจึงได้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เกสตาโป (Gestapo) ทราบ

18 กุมภาพันธ์, โซเวีย และฮานส์ ถูกเกสตาโป จับด้วยข้อหากบฏ

22 กุมภาพันธ์, ผู้พิพากษาโรแลนด์ (Roland Freisler) ตัดสินประหารชีวิตโซฟีและฮานส์ด้วยกิโยติน โดยที่พ่อแม่ของพวกเขาได้มีโอกาสพบกันเพื่ออำลาที่แท่นประหารเป็นครั้งสุดท้าย 

ผู้ทำหน้าที่ประหารโซฟีคือ โจฮัน ไรซ์ฮาร์ต (Johan Reichhart) 

คำพูดสุดท้ายของโซฟีก่อนเสียชีวิตคือ “พระอาทิตย์ยังคงส่องแสง” (Die Sonne Scheint Noch, The Sun is Still Shining)

1947 หลังสงครามโลก อิง พี่สาวของโซฟี เขียนหนังสือ The White Rose ออกมา

Don`t copy text!