Numquam prohibere somniantes 

Never stop dreaming

Cher Ami

เชอร์ เอมี่ (Cher Ami)

เชอร์ เอมี่ เป็นนกพิราบบ้าน (homing pigeon) ที่มีหน้าอกสีดำ เป็นเพศผู้ เกิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 1918  เซอร์เอมี่เป็นหนึ่งในนกพิราบ 600 ตัว ที่หน่วยนกพิราบอังกฤษ (the British Home Forces Pigeon Service) บริจาคให้กับหน่วยสื่อสารด้วยนกพิราบของกองทัพสหรัฐฯ (U.S. Army Signal Corps’ Pigeon Service) สังกัดกองทัพอเมริกันต่างแดน (the American Expeditionary Foreces, AEF) ที่ประจำการณ์อยู่ในฝรั่งเศส ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

23 พฤษภาคม, เซอร์เอมี่ ถูกส่งถึงสำนักงานของหน่วยสื่อสารนกพิราบ

1 กรกฏาคม, เชอร์เอมี่ ถูกจัดอยู่ในหมายเลขล๊อตที่ 11 (Mobile Loft No.11)ของหน่วย ซึ่งดูแลด้วย สิบเอกเออร์เน็สต์ ค็อกเลอร์ ณ.ชิคาโก้ (Corporal Ernest P. Kockler of Chicago) 

ในช่วงเดือนสิงหาคม นกล๊อตที่ 11 ถูกส่งให้กับทหารที่ออกไปรบในแนวรบด้านตะวันตก โดยไปอยู่กับกองพันทหารราบที่ 77 (77th Infantry Division)  บริเวณแรมปง (Rampont) เพราะกองทหารฝรั่งเศสกำลังเตรียมตัวที่จะบุกในสมรภูมิมูสซ์-อาร์ก้อน (Meuse-Argonne Offensive) 

4 ตุลาคม, หน่วยทหารที่ 77 นำโดยร้อยเอกชาร์ล วิตเติ้ลเซย์ (Major Charles White Whittlesey) และพลทหารในสังกัดของเขากว่า 554 นาย ตกอยู่ในวงล้อมของทหารเยอรมัน อยู่ภายในบริเวณเชิงเขาแห่งหนึ่งในป่าอาร์ก้อน (Argonne Fores) ในฝรั่งเศส โดยขาดทั้งอาหารและอาวุธ 

นอกจากพวกเขาจะทยอยถูกข้าศึกโจมตีแล้ว หลายครั้งยังถูกฝ่ายเดียวกันยิงโจมตีด้วย เพราะทหารฝ่ายเดียวกันนั้นก็ไม่ทราบตำแหน่งที่ตั้งของพวกเขา

จนกระทั้งทหารของร้อยเอกชาร์ล เสียชีวิตและลดลงเรื่อยๆ จนกระทั้งเหลือเพียง 194 คน

ร้อยเอกชาร์ลพยายามส่งทหารสื่อสาร ให้วิ่งฝ่าวงล้อมข้าศึก เพื่อออกไปแจ้งข่าวให้ฝ่ายเดียวกันทราบ แต่ว่าก็ไม่มีทหารสื่อสารคนใดเลยที่ปฏิบัติภาระกิจได้สำเร็จ 

ร้อยเอกชาร์ลจึงฝากความหวังเอาไว้ที่นกพิราบสื่อสารในการส่งข่าวให้กับฝ่ายพันธมิตรได้ทราบ 

นกพิราบตัวแรก เขาเขียนข้อความว่า  “มีผู้บาดเจ็บหลายคน, เราไม่สามารถอพยพได้” (Many wounded. We cannot evacuate) 

แต่ว่านกตัวแรกก็ถูกยิงตาย

นกพิราบตัวที่สอง เขาเขียนข้อความว่า “มีคนบาดเจ็บ, ขอกำลังเสริมได้ไหม?” (Men are suffering. Can support be sent?)

นกตัวที่สองก็ถูกยิงตายเช่นกัน

เชอร์เอมี่นั้นเป็นนกพิราบตัวที่สามที่ถูกส่งออกไป ที่ขาของมันมีหลอดเล็กๆ ติดเอาไว้สำหรับใส่กระดาษที่เขียนข้อความว่า  “พวกเราอยู่บนถนนที่ขนาดกับ 276.4 พวกคุณกำลังยิงปืนใหญ่ใส่พวกเรา (ไอสัด) หยุดยิงเสียที” (We are along the road paralell to 276.4. Our own artillery is dropping a barrage directly on us. For heavens sake stop it.)

เชอร์เอมี่ก็เหมือนนกพิราบตัวอื่นๆ ที่ถูกส่งออกไป มันตกเป็นเป้าของฝ่ายเยอรมัน ซึ่งเชอร์เอมี่ก็ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ โดยกระสุนถูกบริเวณหน้าอก และนัดหนึ่งก็โดนตาจนบอด ขาข้างหนึ่งก็ถูกยิงจนหักห้อยต๋องแต๋งด้วยหนังบางๆ  แต่ว่ามันยังคงฝืนบินต่อไปได้จนกระทั้งกลับไปถึงหน่วยบัญชาการณ์หลักที่ห่างออกไป 40 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 25 นาที

7 ตุลาคม, ข้อความสื่อสารที่เชอร์เอมี่นำมาส่ง ทำให้ทหาร 194 ชีวิตได้รับความช่วยเหลือ

เชอร์เอมี่กลายเป็นวีรบุรุษประจำกองพันทหารราบที่ 77 (77th Infantry Division)

หลังภารกิจ เชอร์เอมี่ถูกส่งตัวไปทำการรักษาพยาบาลจนหาย

รัฐบาลฝรั่งเศสได้มอบเหรียญตรา Croix de Guerre พร้อมใบปาล์ม เพื่อสดุดีวีรกรรมอันกล้าหาญในสงคราม

1919   13 มิถุนายน, เชอร์เอมี่ เสียชีวิตในค่ายทหารมอนเมาท์ (Fort Monmouth, New Jersey) ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ 

ร่างของเชอร์เอมี่ ถูกสตาฟฟ์และเก็บไว้ที่สถาบันสมิทโซเนียน (Smithsonian Institution)

– คำว่า เชอร์ เอมี่  เป็นคำภาษาฝรั่งเศส Cher Ami ที่แปลว่า เพื่อนรัก (Cher Ami)

– ที่ขาของเซอร์เอมี่ มีป้ายอลูมิเนียม ปั้มสัญลักษณ์ “NURP 18 EAD 615” ซึ่ง

NURP 18 = Nation Union Racing Pigeon เกิดในปี 1918 

EAD 615 = E. A. Division (ตั้งอยู่ที่ St.James’ House, King’s Lynn, Norfolk, England) หมายเลขประจำตัวนกตอนเกิด คือ 615

– วีรกรรมของทหาร 554 นาย ของกองพันทหารที่ 77 นี้ ถูกขนานนามว่า The Lost Battallion (กองพันพ่าย) 

Don`t copy text!