Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

NEP, 90 years


из россий нэповской будет россия социалистическая

ในรัสเซีย , NEP เป็นสังคมนิยม

(ข้อความบนป้าย)

NEP ( New Economic Policy,Новая экономическая политика) 
 ถูกประกาศเมื่อ 21 มีนาคม 1921 โดยการเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจเดิม “สงครามคอมมิวนิสต์ (War Communism) ซึ่งใช้มาตั้งแต่การปฏิวัติตุลาคม 1917 แต่ว่าหลังจากนั้นก็เกิดสงครามระหว่างประชาชนรัสเซ๊ยกันเอง (Civil War) ระหว่างกองทัพแดง และกองทัพขาว ซึ่งกองทัพขาวได้รับการสนับสนุนจากโปแลนด์ ยึดเอาพื้นที่การเกษตรสำคัญอย่างยูเครนเอาไว้ ทำให้ในรัสเซียส่วนที่บอลเชวิคปกครองนั้นมีปัญหาการคลาดแคลนอาหาร และการว่างงาน  ช่วงนี้เลนิน มีการยกเลิกการใช้เงินตรา โอนโรงงานอุตสาหกรรมมาเป็นของรัฐ รัฐเข้าไปผูกขาดการค้าต่างประเทศ และบังคัับเอาผลผลิตการเกษตรส่วนเกินมาเป็นของรัฐเพื่อนำไปปันส่วนให้ประชาชน

 ผลของสงครามตั้งแต่ 1917-1921 ประชาชนรัสเซียลดลงราว 10-25 ล้านคน และผลผลิตอุตสาหกรรมเหลือเพียงหนึ่งในเจ็ด และผลผลิตการเกษตรเหลือหนึ่งในสาม มีการลุกฮือขึ้นประท้วงของชาวนาหลายครั้ง เพราะไม่พอใจที่ผลผลิตถูกรัฐยึด ขณะเดียวอาหารที่ได้รับการปันส่วนก็ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดตลาดมืด ซึ่งสินค้าถูกขายให้พวกเขาในราคาสูงกว่าปกติมาก มีการลุกฮือ ขึ้นประท้วงรัฐหลายครั้งของชาวนาซึ่งแค่ระหว่างปี 1920-1921  มีการลุกมาต่อต้านบอลเชวิค ที่สำคัญเช่น เหตุการณ์ 

  • Antonovschina ( Антоновщина) การก่อกบฏในเขตตามบอฟ (Tambov Oblast) ทางใต้ของมอสโคว์ ซึ่งไม่พอใจที่รัฐเข้าไปยึดผลผลิต มีชาวนาเข้าร่วมในการลุกขึ้นประท้วงครั้งนี้กว่า 50,000 คน กองทัพแดงต้องใช้อาวุธเคมีเข้าช่วย จนสามารถชนะได้ และสังหารผู้ต่อต้านไปกว่า 5,000 คน
  • Makhnovshchina (Махновщина) ภายใต้การนำของ เนสเตอร์ แมคโน่ (Nestor Makhno) ผู้นำกลุ่มโจรอนาธิปไตยที่ต้องการเรียกร้องเอกราชให้กับยูเครน 
  • โดยเฉพาะการลุกฮือในวันที่ 1 มีนาคม 1921 นายทหารและนักเดินเรือ แห่งค่าย  (Кронштадтского,Kronstadt ) ในไครเมีย ได้จับอาวุธขึ้นต่อสู้ ด้วยสโลแกน "โซเวียตที่ปลอดคอมมิวนิสต์” เรียกร้องให้มีการจับตัวนักการเมืองคอมมิวนิสต์ทั้งหมด และจัดให้มีการเลือกตัั้งในโซเวียต เสรีภาพในการพูด การค้า และสิทธิของชาวนาในผลผลิตที่ตัวเองสร้าง

 

  วันที่ 21 มีนาคม 1921 Central Executive Committee ได้รับรอง NEP โดยผลของการประชุมครองเกรสครั้งที่ 10

  เลนินยอมรับว่าประเทศยังไม่พร้อมเข้าสู่ระบบสังคมนิยม และเป้าหมายของ NEP ก็เพื่อลดความตรึงเครียดที่เกิดขึ้นในประเทศ ป้องกันการล้มเหลวของประเทศ NEP เป็นทุนนิยมโดยรัฐบาล ( State Capitalism) ตามนิยามของเลนิน โดยบอกว่าเป็นระยะเวลาก่อนที่สังคมจะเปลี่ยนไปสู่ระบบสังคมนิยมอย่างเต็มที่ หรือเรียกว่าเป็นการยอมถอยอย่างมียุทธศาสตร์ รัฐบาลยอมยกเลิกการผูกขาดการผลิตอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ยอมรับสิทธิของเอกชนในการครอบครองทรัพยสินในระดับหนึ่ง 

Tax in Kind การเก็บภาษีโดยจ่ายเป็นผลผลิต ระบบนี้เข้ามาแทนที่ระบบเดิมที่ชาวนาจะต้องงานตอบแทนให้กับรัฐ เพื่อแลกกับสวัสดิการ  (Payment in kind of work) ดังนั้นก่อนหน้าที่จะมี NEP การผลิตของโซเวียตจึงตกต่ำเพราะแรงงานขาดแรงจูงใจในการทำงาน  Tax in Kind เปลี่ยนแนวคิดนี้ใหม่ ทำให้ผลตอบแทนของชาวนา ขึ้นกับคุณภาพและปริมาณของผลผลิต (money in quantity and quality of work) ชาวนาสามารถนำผลผลิตส่วนเกินหลังจากเสียภาษีแล้วไปขายในตลาดได้

การเงิน เดือนตุลาคม ได้มีการตั้งธนาคารของรัฐขึ้นมา มีการผลิตเหรียญเงิน โดยการอ้างอิงกับทองคำ เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนในตลาดโลกได้ โดยเหรียญรูเบิ้ล 1 เหรียญจะมีทองคำ 7.74 กรัม และ 10 รูเบิ้ลสามารถแลกได้ 1 ดูคัส (Ducat เงินที่ใช้มากในยุโรปช่วงนัั้น ทำมาจากทองคำ นำหนักเหรียญละ 3.4909 กรัม ก่อนหน้านั้นระบบเหรียญกษาปณ์ในโซเวียตถูกยกเลิกไปเนื่องจากปัญญาการเสื่อมค้าเงินอย่างรวดเร็วหลังสงครามโลก ครั้งที่ 1 ซึ่งเกิดขึ้นทั่วยุโรป ตั๊วเงิน (Sovnaks) ที่นำมาใช้แทนนั้นเสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็ว

อุตสาหกรรมการค้า พฤษภาคม มีการตั้งหน่วยงานเพื่อรับผิดชอบอุตสาหกรรมกว่า 16 สำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นรูปแบบคณะกรรมการบริหารเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค  รัฐบาลยังคงเป็นเจ้าของในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศ แต่ วันที่ 7 กรกฏาคม ได้ผ่านกฏหมายยอมให้มีกิจการการค้าขนาดเล็ก และยอมให้มีการจ้างแรงงานในกิจการได้ ไม่เกิน 20 คน ยอมให้มีการซื้อขายผลผลิตจำนวนน้อยๆ ได้ ซึ่งเลียนแบบระบบทุนนิยมในการกระตุ้นให้เกิดการแข็งขัน แต่ว่ารัฐมีความเข้มงวดในการตรวจสอบกิจกรรมของเหล่าพ่อค้าคนกลางมาก และการจัดเก็บภาษีเข้มงวด รัฐยังผูกขาดการค้าต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว

ความสำเร็จของ

NEP ทำให้เศรษฐกิจของโซเวียตกับมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนสงคราม และในบางด้านก็สูงกว่าช่วงก่อนสงคราม

NEP ถูกยกเลิกไปในปี 1928 เมื่อสตาลิน ขึ้นมาเป็นผู้นำ เขานำเอาแผนเศรษฐกิจแบบ 5 ปีมาใช้แทน ซึ่งสตาลินและสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์มองว่า NEP เป็นระบบทุนนิยม เป็นโครงการชั่วคราวเพื่อประณีประนอม แต่เมื่อรัฐมีความเข้มแข็งแล้วก้สมควรที่จะหยุดใช้หลังจาก NEP โซเวียตจึงนำเอาระบบนารวมกลับมาใช้อีก และอุตสาหกรรมก็โอนกลับมาเป็นของรัฐ

Don`t copy text!