Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Ekaterina Dashkova

ru.wikipedia.org

  เจ้าหญิงแคทเธอรีน  หรือ ยีแคทเธอริน่า โรมานอฟน่า โวรอนโซวา-ดาชโกว่า (1743-1810, Екатерина Романовна Воронцова Дошкова
เธอเกิดในครอบครัวชนชั้นสูง ตระกูลโวรอนต์ซอฟ(Vorontsov) เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 1743 บางข้อมูลบอกว่าเป็นปี 1744 ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เธฮเป็นลูกคนที่สามของเคานต์ โรมัน โวรอนต์ซอฟ (Roman Vorontsov) ซึ่งเขาเป็นสมาชิกวุมิสภาและนายพล  

พี่ชายคนโต อเล็กซานเดอร์ โวรอนต์ซอฟ (Alexander Vorontsov) เป็นนายกรัฐมนตรี

และพี่ชายคนรองเซมยอน (Semyon Vorontsov) เป็นทูตของรัสเซียประจำประเทศสหราชอาณาจักร มารดาเธอชื่อ มาร์ธา (Марфа) เสียชีวิตตอนที่เธออายุได้เพียง 2 ขวบ หลังมารดาเสียชีวิต บิดาของเธอไม่ค่อยสนใจดูแลลูกสาวมากนัก จีงส่งตัวไปฝากให้ลุงของเธอเลี้ยง

เธอเติบโตมาในบ้านของลุงซึ่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี มิคาอิล อิลาเรียโนวิช (Vice Chancellor, Mikhail Vorontsov IIIarionovich) ด้วยสังคมในตอนนั้นเธอไม่ได้รับการศึกษาอะไรมากนัก นอกจากการเรียนภาษาต่างประเทศ เต้นรำ และวาดเขียน

ยีแคทเธอริน่า แต่งงานก่อนที่อายุจะครบ 16 ปี กับ เจ้าชายมิคาอิล ดาสกอฟ (Prince Mikhail Ivanovich Dashkov)  หลังจากแต่งงานเธอย้ายบ้านตามเจ้าชายไปยังมอสโคว์ ซึ่งยีแคทเธอริน่า ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยมอสโคว์ โดยวิชาที่เธอถนัดคือ คณิตศาสตร์  

ยีแคทเธอริน่าและสามีมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นผู้หญิงและชาย

นักเขียนที่เธอชอบ คือ โวลแตร์(Voltaire), มองเตสกิเออ(Charles Montesquieu),แพร์รี่ เบยล์ (Pierre Bayle), นิโคลัส บอลัว (Nicholas Boileau)

1758 เธอได้พบกับแกรนดัชเชช แคทเธอรีน (Catherine the Great) ก่อนที่พระองค์จะได้ครองบัลลังค์ ยีแคทเธอริน่า และเจ้าชายมิคาอิล ได้กลายเป็นเพื่อนและผู้สนับสนุนคนสำคัญของแคทเธอรีน ตอนนั้นราชสำนักของรัสเซียแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายที่สนับสนุนสามีของแคทเธอรีน ซึ่งจะกลายเป็น ซาร์ ปีเตอร์ ที่ 3 (Peter III) กับอีกฝ่ายที่สนับสนุน แกรนดัชเชช แคทเธอรีน

1762 เมื่อซาร์ดิน่าอลิซาเบธ สวรรคตลงในวันที่ 5 มกราคม สามีของพระนางแคทเธอรีน ได้รับราชบัลลังค์รัสเซียสืบต่อมา เป็นซาร์ ปีเตอร์ ที่ 3 แต่หลังจากอยู่ในตำแหน่งได้เพียงหกเดือน เมื่อพระองค์เดินทางไปต่างประเทศ ในเดือนกรกฏาคม ได้เกิดการปฏิวัติ Leib Guard ปลดพระองค์จากตำแหน่ง และได้แต่งตัั้งให้พระนางแคทเธอรีน เป็นจักรพรรดินี แห่งรัสเซียแทน  เยแคทเธอริน่า เป็นหนึ่งในแกนนำการปฏิวัตินั้น หลังจากปฏิวัติสำเร็จ จักรพรรดินีองค์ใหม่ประทานรางวัล Order of St. Catherine เป้นรางวัลแก่เยแคเธอริน่า

1764 สามีของนางเสียชีวิต ด้วยโรคนิวโมเนีย

1768 แต่ว่ามิตรภาพระหว่างพระนางแคทเธอรีนและเยแคทเธอริน่า ไม่ค่อยจะดีนักหลังจากนั้น เยแคทเธอริน่าทำตัวเป็นข้ารับใช้ที่จงรักภักดี แต่ทว่าเธอไม่ค่อยชอบผู้ชายทีี่มีความสัมพันธ์กับจักรพรรดินีของเธอ เยแคทเธอริน่า หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั้งด้วยการเดินทางไปต่างประเทศ  นอกจากนี้หลังจากสามีเธอ แล้วฐานะของเธอไม่สู้ดี เธอตัดสินใจที่จะใช้เงินที่เหลืออยู่เพื่อการศึกษาของลูกๆ ลูกชายของเธอได้เข้าเรียนที่อังกฤษ ผลงานเขียนของเธอทำให้เธอมีชื่อเสียงท่ามกลางหมู่ชายชื่อดังในสังคมชั้นสูงของยุโรป ในปารีส เธอได้รู้จักและเป็นเพื่อนกับนักเขียนที่เธอโปรดอย่างโวลแตร์

1777-17 เธฮอาศัยอยู่ในเอดินเบิร์ก (Edinburgh) 

3 กุมภาพันธ์ 1781 ได้พบกับเบนจามิน แฟรงคิน ระหว่างอยู่ในปารีส ,แฟรงคินได้เชิญให้เธอเข้าไปสมาชิกหญิงคนแรกของสมาคมปรัญญาแห่งอเมริกา ( American Philosophical Society)1782 เธอเดินทางกลับมายังรัสเซีย ซาร์ดิน่า ทรงชื่นชมในความสามารถของเยแคทเธอริน่า ที่ทำให้รัสเซียได้รับการยอมรับในหมู่ปัญญาชนของยุโรป 

1783 พระนางแคทเธอรีน ก่อตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์ Imperial Russian Academy of Sciences และทรงแต่งตั้งให้ เยแคทเธอริน่า ดำรงตำแหน่งประธานคนแรกของสถาบัน เธอเป็นสตรีคนแรกในโลกที่เป็นผู้นำของสถาบันทางวิทยาศาสตร์

งานแรกของเธอคือ การสร้าง เรียบเรียง พจนานุกรมภาษารัสเซีย ออกมาเป็นครั้งแรก มันถูกตีพิมพ์ประมาณปี 1789-1794

และยังทำแม็กกาซีนรายเดือน เธอเขียนบทความที่มีชื่อเสียง The Marriage of Fabian และ Toissioko

1783 เธอได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกกิตติมาศักดิ์ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งสวีเดน (Royal Swedish Academy of Sciences) เป็นสมาชิกคนที่สองของสถาบันที่เป็นสตรีหลังจากอีวา อเกบลาด (Eva Ekeblad) แต่เป็นสตรีต่างชาติคนแรกที่ได้เป็นสมาชิก

1796  หลังการเสียชีวิตของจักรพรรดินี แคทเธอรีน เธอถูกซาร์องค์ใหม่ พอล ที่ 1 (Paul I) ได้เนรเทศยีแคทเธอริน่า และคนที่เคยสนับสนุนแคทเธอรีน ให้ย้ายให้ไปอยู่ในหมู่บ้านเล็กในที่นิชนี นอฟโกรอด โชคดีที่เป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ จนกระทั้งอเล้กซานเดอร์ ที่ 1 ครองราชย์ ก็คืืนตำแหน่งในสถาบันให้กับเธอ

Memoirs (Записки) หนังสือเล่มหนึ่งที่เธอเขียน ตีพิมพ์ออกมาประมาณปี 1840 ยังคงตีพิพม์มาจนปัจจุบัน มันเป็นหนังสือที่เขียนถึงซาร์ดินีของเธอ

เยแคทเธอริน่า ดาชโกว่า เสียชีวิต ในวันที่  16 มกราคม 1810 และถูกเผาที่วิหารไตรนิตี(Holy Trinity) ในหมู่บ้านไตรนิตี เขตกาลุก้า (Kaluga)
Memoirs of Princess Daschkaw: Lady of Honour to Catherine Ii, Empress of All the RussiasEkaterina Dashkova: Zhizn' Vo Vlasti I V Opale. Zhzl

Don`t copy text!