Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Ninel Kulagina

นิเนล เซอร์กีฟน่า กุลากิน่า (Нинель Сергеевна Кулагина)

 psychic,psychokinesis
เกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฏาคม 1926 ในเลนินกราด 1942 ตอนอายุ  16 ปี  กุลากิน่า สมัครเข้าเป็นทหารอาสาสมัครในกองทัพแดง เช๋นเดียวกับคนในรุ่นเดียวกันกับเธอ เพราะตอนนั้นนาซีล้อมเซนต์ปีเตอร์เบิร์กเอาไว้นานกว่า 900 วัน  ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 กุลากิน่า ทำงานให้กับหน่วยรถถัง Tank T-34 ซึ่งปฏิบัติการด้านวิทยุ ซึ่งตอนนั้นเธอได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนใหญ่ อาการเธอสาหัสและต้องได้รับการผ่าตัดกว่า 5  ครั้ง หลังสงครามเธอได้รับรางวัล Order of World War ชั้นที่ 1
เธอค้นพบความสามารถของเธอเองระหว่างที่อยู่ที่บ้าน และเมื่อกำลังจะเก็บจานอาหาร เธอผมว่ามีเศษขนมปังเคลื่อนที่ หลังจากนั้นเธอจึงทดสอบการควบคุมสิ่งของต่างๆ อย่างลูกตุ้มนาฬิกา เธอสามารถบังคับมันให้หยุดแกว่งได้ วัตถุใหญ่ที่สุดที่เธอสามารถเคลื่อนได้คือเหยือกน้ำแต่ความสามารถของเธอไม่ได้รับรู้ถึงคนอื่น นอกจากคนในครอบครัว 

ในปี 1964 เธอเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการโรคหัวใจ เธอใช้เวลาว่างบนเตียงในการเย็บปัก และพยาบาลที่ดูแลเธอพบว่าเธอสามารถหยิบเอาก้อนด้านจากตระกร้าขึ้นมาได้ตามสีที่เธอต้องการแม้ว่าจะไม่ได้หันไปมองเลย ซึ่งเมื่อแพทย์ในโรงพยาบาลทดสอบดู เธอก็สามารถแสดงให้พวกเขาเห็นดดยการหยิบลูกบอลในตระกร้าตามสีที่ต้องการได้ เธออธิบายว่าเธอเห็นสีของบอลพวกนั้นได้ในใจนักวิทยาศาสตร์ที่ทดสอบเธอ เช่น นักชีววิทยา Edward Naumov

1970 William A. Mcgray นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐ ทดสอบความสามารถของเธอ และเธอได้แสดงให้เห็นว่าสามารถเคลื่อนแหวน ไปมาบนโต๊ะได้Gaither Pratt จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย มีการบันทึกฟิล์มการทดสอบเธอ ด้วยใช้วัสดุหลายชนิด และมีน้ำหนักที่แตกต่างกัน เพื่อให้มั่นใจว่าเธอไม่ได้ใช้แม่เหล็กหรือด้ายในการเคลื่อนวัตถุเหล่านั้น ซึ่งเธอสามารถแสดงให้เขาเห็นได้ประจักษ์ ทว่าหลายคนยังตั้งคำถามเพราะว่าไม่ได้มีการตรวจสอบที่ตัวกุลากิน่า ก่อนการทดลอง
มีรายงานข่าวการทดสอบกุลากิน่า ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ Czech Pravda โดย Dr.Zdenek Rejdak นักวิทยาศาสตร์มีชื่อเสียงของเชคซึ่งทำให้กับสถาบันทหารของเชค ดร.ซเดเนก เล่าว่า วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 1968 ได้พบกับกุลากิน่าและครอบครัวในตอนหัวค่ำ พร้อมด้วยนักฟิสิกคนอื่นอีก อย่าง Dr. J.S. Zverev, Dr. Sergeyev ซึ่งการทดสอบไม่พบว่าเธอมีการใช้แม่เหล็กหรือสิ่งอื่นใดในการเคลื่อนย้ายตัวอย่างทดสอบเช่นกัน พวกเขาเล่าว่าได้มีมการตรวจสอบเก้าอี้ที่เธอนั่ง โต๊ะ และขอให้เธอล้างมือ และย้ายตำแหน่งที่นั่งบ่อยๆ ระหว่างการทดสอบ ใช้เข็มทิศเพื่อวัดว่ามีแม่เหล็กในตัวเธอหรือไม่ แต่ก็ไม่พบอะไรที่ผิดสังเกตุก่อนการทดลอง และเมื่อเริ่มทดสอบ เธอสามารถเคลื่อนเข็มเย็บผ้า ได้มากกว่าสิบครั้ง เคลื่อนเข็มทิศ และกล่องมันได้ กล่องไม้ขีดและก้านไม้ขีดหลายสิบก้านก็สามารถเคลื่อนได้พร้อมๆ กันห
Dr. V.F. Shvetz ศาสตราจารย์ด้านฟิสิก กล่าวว่าได้มีการทดสอบเธอและเธอสามารถทำให้เกิดตัวอักษร A และ O บนกระดาษถ่ายรูปได้ และบางครั้งสามารถทำให้เกิดภาพลางๆ ของสิ่งที่กุลากิน่า บอกว่าเธอเห็นได้ เป็นความสามารถอีกอย่างที่เรียกว่า Thoughtography แต่ว่าฟิล์มที่บันทึกการทดสอบนี้ไม่เคยถูกเผยแพร่
นอกจากนั้นยังมีหลายครั้งที่มีการรายงานว่า เสื้อผ้าของเธอบางครั้งเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมา
Dr. Leonid L. Vasiliev นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย เลนินกราด ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาพลังจิตในโซเวียต โดยการตั้งสถาบันสมอง Institute of Brain Research in Leningrad เป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกๆ ที่ทดสอบความสามารถของนิเนล และการทดสอบมีมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั้งเขาเสียชีวิตในปี 1966หลังจากนั้น  Dr.Genady Sergeyev ได้เป็นผู้ทำการศึกษาเธอต่อ เขาทำงานให้กับสถาบันวิจัยทางทหาร Leningrad Military Laboratory โดยเฉพาะมีการศึกษาเรื่องกระแสไฟฟ้าในสมองของกุลากิน่าอย่างตอ่เนื่อง ซึ่งหลายครั้งสามารถบันทึกระแสไฟฟ้าที่สูงกว่าปกติ
หนังสือพิมพ์ Moscow Pravda ฉบับวันที่ 17  มีนาคม 1968 ได้ตีพิมพ์คำแถลงของ Dr. Ya Terletsky  จากสถาบัน Theoretical Physics at Moscow University ว่า “คุณ กุลากิน่า ได้แสดงให้เห็นว่ามีรูปแบบของพลังงานชนิดใหม่ซึ่งเรายังไม่รู้ว่ามันคืออะไร" 

10 มีนาคม 1970 การทดสอบที่มหัศจรรย์ที่สุดอย่างหนึ่ง ที่ Leningrad laboratory เมื่อมีการนำไข่ดิบใส่ไว้ในขวดโหลซึ่งมีน้ำเกลืออยู่ภายในด้วย จากนั้นนำขวดโหลวางห่างจากกุลากิน่า กว่า 2 เมตร ปรากฏว่าเธอสามารถแยกเอาไข่แดงและไข่ขาวออกจากกันได้ จากนั้นมีการทดสอบให้เธอหยุดการเต้นของหัวใจกบ ซึ่งตอนแรกเธอทำให้หัวใจกบเต้นเร็วขึ้น เร็วขึ้น ก่อนที่จะหยุดมันอย่างช้าๆ จนหยุดนิ่ง ดร. เซอร์เกเยฟ เป็นคนหนึ่งที่อยู่ในการทดสอบนี้ แต่ยังมีคำถามว่าทำไมไม่มีการเผยแพร่ภาพการทดลองนี้
ระหว่างปี 1981-1982 มีการทดสอบโดยสถาบันวิศวกรรมวิทยุและไฟฟ้า (Institute of Radio Engineering and Eletronics) ซึ่งพบว่าระหว่างมีสองข้างของเธอมีสนามแม่เหล็กเกิดขึ้น และสามารถตรวจจับสัญญาณเสียงอัตราโซนิคได้เป็นระยะโดยไมโครโฟนที่มีประสิทธิภาพสูง

ภาพการแสดงความสามารถของเธอปรากฏให้เห็นเสมอในโทรทัศน์ของรัสเซียตั้งแต่ปลายุคโซเซียต จนเธอเสียชีวิตไปในเดือนเมษายน1990 วัย 75 ปี แต่ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความมหัศจรรย์ และพลังงานลึกลับ ที่อธิบายด้วยคำสั้นๆ ว่า พลังจิต ซึ่งยังมีการอธิบายที่ดีได้ไปกว่านี้

แน่นอนว่ามีคนที่ไม่เชื่อ และคิดว่าเธอใช้ แม่เหล็ก หรือ ด้าย ขนาดเล็กๆ ในการเคลื่อนย้ายวัตถุ 

Don`t copy text!