Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Cleopatra Philopator

คลีโอพัตรา ฟิโลปาเตอร์( Κλεοπάτρα Φιλοπάτωρ)

คลีโอพัตรา ฟลิโลปาเตอร์ เกิดในตระกูลปโตเลมี หรือ ลากิดอฟ (Ptolemy, Lagidov) ซึ่งเป็นชาวกรีก มาเคโดเนีย (Macedonian Greek) ปโตเลมี ที่ 1 โซเตอร์ (Ptolemy I Soter) ต้นตระกูลนั้นเป็นเพื่อนและเป็นทหารองครักษ์ของอเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งพระองค์สววรคตในปี 323 BC หลังจากนั้นปโตเลมีได้เข้าปกครองอียิปต์ และประกาศตัวเองเป็นกษัตริย์ในปี 305 BC ซึ่งไม่นานชาวอียิปต์ยอมรับพวกเขาในฐานะฟาโรห์ แต่ว่าภายในราชวงศ์ปโตเลมีนั้น ไม่มีใครพูดภาษาอียิปต์ พวกเขาใช้ภาษากรีกเป็นทางการ และมักจะแต่งงานกันเองภายในเครือญาติ
เอกสารที่เล่าถึงประวัติของคลีโอพัตรานั้น ปรากฏอยู่ในงานเขียนของชาวโรมัน พลูตาร์ช (Plutarch), ซูโตเนียส (Suetonius), แอปเปี้ยน (Appian),ดิโอ คัสเซียส ( Dio Cassius), และโจเซฟัส (Josephus) ซึ่งให้ข้อมูลค่อนข้างน้อย

69 BC คลีโอพัตราเกิด ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ในเมืองอเล็กซานเดรีย  เธอเป็นลูกสาวของพโตเลมี ที่ 12 อุเลเตส (Ptolemy XII Auletes) กับมารดาที่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นใคร  แต่เชื่อว่าน่าจะเป็น คลีโอพัตรา ที่ 5 ไทรเฟียน่า (Cleopatra V Tryphaena)
อุเลเตส กับ ไทรเฟียน่่า นั้นน่าจะเป็นพี่น้อง หรือญาติภายในตระกูลเดียวกัน 
คลีโอพัตรา น่าจะเป็นลูกสาวคนที่ 2 โดยพี่น้องผู้หญิงของเธอชือ 
  • เบเรไนส์ ที่ 4 (Berenice IV) ไม่ทราบปีเกิด เป็นลูกของคนโตของ พโตเลมี ที่ 12 กับ มารดา(ไม่ทราบ)
  • อาร์ซิโน่ ที่  4 (Arsinoe IV)  เกิดปี 68~67 BC เป็นลูกของ พโตเลมี ที่ 12 กับ คลีโอพัตรา ที่ 6
  • *คลีโอพัตรา ที่ 6 ไทรเฟียนี (Cleopatra VI Tryphaena) เธออาจจะเป็นลูกสาวคนโตของพโตเลมี ที่ 12 แต่จากบันทึกของสตราโบ (Strabo) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก บอกว่า พโตเลมี ที่ 12  มีลูกสาวแค่ 3 คน และมีลูกสาวที่ถูกต้องเป็นคนโตชื่อ เบเรไนส์  ทำให้นักประวัติศาสตร์หลายคนคิดว่า คลีโอพัตรา ที่ 6 และ คลีโอพัตรา ที่ 5 ภรรยาของพโตเลมี นั้นเป็นคน ๆ เดียวกัน  (และ ถ้าเป็นเช่นนี้ ซึ่งคลีโอพัตรา ฟิโลปาเตอร์  ที่เข้าใจกันว่าเป็นองค์ที่ 7 นั้น จะเป็นองค์ที่ 6 )
ชีวิตในวัยเด็กของคลีโอพัตรานั้นไม่มีบันทึกเอาไว้ แต่ว่าในสมัยของ พโตเลมี ที่ 12 อุเลเตส พ่อของคลีโอพัตรานั้นอียิปต์ สูญเสียดินแดนไซปรัส (Cyprus) และ ไซเรเนียคา (Cyrenaica) ภายในอเล็กซานเดรียก็มีแต่ข้าราชการที่คอรัปชั่น จนบ้านเมืองวุ่นวาย
67 BC ปอมปีย์ (Pompey) แม่ทัพของโรมันกำลังต่อสู้กับกษัตย์มิทริเดเตส ที่  6 แห่งปอนตุส (Mithridates VI of Pontus) ส่วนหนึ่งของสงคราม Third Mithridatic War 
65 BC อุเลเตส นั้นให้การสนับสนุนแก่ปอมปีย์ แต่ว่าโรมันก็ยังต้องการที่จะยึดอียิปต์
64 BC  จักรวรรดิซีลูคิดล่มสลาย (Seleucid Empire) กลายเป็นส่วนหนึ่งของโรมัน หลังจากปอมปีย์เอาชนะชนะกษัตริย์มิทรีเดเตส ที่ 6
63 BC ปอมเปย์ พิชิตดินแดน Judea และเกิดการปฏิวัติในอียิปต์
61 BC ปโตเลมี ที่ 13 (Ptolemy XIII) น้องชายของคลีโอพัตรา ประสูตร
59 ฺBC ปโตเลมี ที่ 14 ประสูตร
58 BC โรมัน พิชิตไซปรัส โดยที่กษัตริย์ของไซปรัส ชื่อ ปโตเลมี  เป็นพี่ชายของปโตเลมี L ฆ่าตัวตาย 
พโตเลมี ที่ 12 อุเลเตส เดินทางไปยังโรมพร้อมกับคลีโอพัตรา  ทำให้  เบเรไนส์   ร่วมกับ คลีโอพัตรา ที่ 6 ไทรเฟียนี  ปฏิวัติยึดอำนาจ 
เบเรไนส์ สร้างความมั่นคง โดยการสานความสัมพันธ์กับ Gabinius แห่งซีเรีย
คลีโอพัตรา ที่  6 ครองราชย์อยู่ได้ไม่นานก็สวรรคต อย่างปริศนา บ้างสงสัยว่าพระนางถูกวางยา โดย เบเรไนส์ 
57 BC ปโตเลมี ที่ 12 และ คลีโอพัตรา พบกันอีกครั้งที่ Ephesus ในโรมัน
55 BC  ปโตเลมี ที่ 12 ได้รับการสนับสนุนจากโรมันให้กลับมาปกครองอียิปต์ โดยนายพลอุลัส กาบิเนียส (Aulus Gabinius)
กรกฏาคม เบเรไนส์ ถูกประหารชีวิต
ช่วงเวลานี้ คลีโอพัตรา อายุได้ 14 ปี และได้รับอำนาจบริหารอย่างจำกัดจากบิดา
51 BC มีนาคม ปโตเลมี ที่ 12 สิ้นพระชนษ์  ทำให้คลีโอพัตรา วัย 18 ปี และน้องชาย ปโตเลมี ที่ 13 วัย 10 ปี ขึ้นครองราชย์ , คลีโอพัตรา ใช้ชื่อตำแหน่งว่า  Thea Philopator  แปลว่า เทพเจ้า, อันเป็นที่รักของบิดา 
สิงหาคม คลีโอพัตรา ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จจากน้องชาย และภาพของเธอปรากฏรูปบนเหรียญกษาปณ์แต่เพียงลำพัง
ช่วงสองปีแรกของการปกครอง อียิปต์มีปัญหาเรื่อความแห้งแล้ง ผลผลิตการเกษตรตกต่ำ
50 BC ทหารคนหนึ่งในกองทัพของอุลัส กาบิเนียส ได้ไปสังหารบุตรชายของมาร์คัส ไบบุลัส (Marcus Calpurnius Bibulus) นักการเมืองคนหนึ่งของโรมัน และไบบุลัสถูกแต่งตั้งมาปกครองซีเรีส , กาบิเนียส พยายามขอให้คลีโอพัตรา ช่วยปกป้องทหารของเขา แต่ปรากฏว่าคลีโอพัตราส่งตัวทหารที่เป็นมือสังหารไปให้ไบบุลัส นั้นทำให้กาบิเนียส ไม่พอใจและกลายเป็นศัตรูกับคลีโอพัตรา
นอกจากนั้น ปโตเลมี ที่ 13 ได้รับความช่วยเหลือจาก โปตินุส (Potinus) , ทีโอโดตัส (Teodotus) ผู้บัญชาการทหารในอียิปต์ใน Achiless ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขา  ช่วยยึดอำนาจคืนจากคลีโอพัตรา
48 BC  คลีโอพัตรา ต้องหลบหนีไปยังซีเรีย และรวบรวมกำลังทหารมาปะชิดพรหมแดนอียิปต์ ใกล้กับ Pelusium ประจัญหน้ากับทหารของพโตเลมี ที่ 13 ที่มากันไม่ให้เธอกลับเข้าอียิปต์
มิถุนายน (Battle of Farsala) ในกรุงโรม ปอมปีย์ ซึ่งถูกจูเรียส ซีซาร์ (Julius Caesar) เอาชนะได้ที่ Phasalus ในกรีก ได้หนีมายังอเล็กซานเดรียเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ว่าเมื่อปอมปีย์ ขึ้นฝั่งที่ชายหาดของอเล็กซานเดรีย เขาก็ทหารของปโตเลมี ที่ 13 ชื่อ อชิลลาส (Achillas) และ ลูเซียส (Lucius Septimius) สังหารทันที่ที่ก้าวขึ้นฝั่ง
28 กันยายน ปโตเลมี ที่ 13 เดินทางมาดูศพของปอมปีย์ ด้วยตัวเอง และสั่งให้ตัดหัวของปอมปีย์ออก ต่อหน้าลูกและเมียของเขา โดยหวังจะเอาใจซีซาร์ และกลายเป็นพันธมิตรกับโรม
 แต่ว่าเขาประเมินผิดผลาดไป เพราะเมื่อซีซาร์มาถึงอียิปต์ในอีกสองวันต่อมา เขาโกรธมากที่รู้ว่าศรีษะของปอมปีย์ถูกหลบหลู่ถูกเผาและเอาไปแขวนไว้ที่กำแพงของเมืองอเล็กซานเดรีย ที่เดียวกับสุสานของเนเมซิส (Nemesis) เพราะแม้ว่าปอมปีย์จะเป็นศัตรูกับซีซาร์ แต่เขาก็เป็นลูกเขยของซีซาร์ด้วย และเป็นถึงวุฒิสภาของโรมัน
ซีซาร์ ซึ่งมีกำลังทหาร 7,000 คน ได้ยึดอเล็กซานเดรีย (Siege of Alexandria) และวางตัวเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างปโตเลมี ที่ 13 กับ คลีโอพัตรา
ซีซาร์ เรียกตัวคลีโอพัตรา ซึ่งอยู่ที่พรหมแดนให้เข้ามายังอเล็กซานเดรีย  หนังสือ Life of Julius Caesar ของพลูตาร์ช เล่าการพบกันของคลีโอพัตราและซีซาร์ว่า  คลีโอพัตราซ่อนตัวอยู่ในพรหม โดยที่อโพลโลโดรัส ( Apollodorus) แบกพหรมผืนที่นางซ่อนตัวอยู่นั้นไปที่ห้องนอนของซีซาร์ ซึ่งนั้นเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่
กันยายน ซีซาร์ถูกล้อมอยู่แต่ในเมืองอเล็กซานเดรีย ซีซาร์ต้องเอาตัวรอดจนกว่ามิธิดาเตส (Mithridates of Pergamon) จะนำกำลังทหารจากเอเชียไมเนอร์มาช่วย
47 BC 15 มกราคม (Battle of the Nile) ทหารของซีซาร์สามารถเอาชนะกองทัพของปโตเลมี ที่ 13 ได้เด็ดขาด , ปโตเลมี ที่ 13 นั้นเสียชีวิตเพราะจมน้ำในทะเลสาบมารีโอตีส (Mareotis Lake) ระหว่างพยายามว่ายน้ำหลบหนี 
ซีซาร์ซึ่งเลิกคิดที่จะผนวกอียิปต์ ได้สนับสนุนให้ คลีโอพัตรา และ ปโตเลมี ที่ 14 ขึ้นปกครอง
23 มิถุนายน ปโตเลมี ที่ 15  ซีซาร์ (Ptolemy XV Caesar) ลูกชายของคลีโอพัตรากับซีซาร์เกิดขึ้นมาหลังซีซาร์กลับไปโรมไม่นาน  ชื่อของปโตเลมี ซีซาร์นี้ ชาวอเล็กซานเดรีย เรียกเขาว่า ซีซาเรียน (Caesarion)
 46 BC คลีโอพัตรา และ ซีซาเรียน เดินทางไปกรุงโรม เพื่อพบกับซีซาร์  แต่ช่วงเวลานี้ ซีซาร์ได้แต่งงานกับคาลเปอร์เนีย พิโซนิส (Calpurnia Pisonis) แล้ว
ซีซาร์ ตั้งอนุสาวรีย์เทพอิซิส (Isis) ซึ่งเปรียบเสมือนคลีโอพัตรา ที่ฟอรัมแห่งซีซาร์(Forum of Caesar) เคียงข้างรูปปั้นเทพวีนัส ซึ่งซีซาร์มีความเชื่อว่าบรรพบุรุษของตัวเขาสืบทอดมาจากวีนัส
44 BC  15 มีนาคม จูเลียส ซีซาร์ ถูกสังหาร ในขณะที่คลีโอพัตราก็ยังอยู่ในกรุงโรม , หลังจากนั้นนางก็ถูกบังคับให้ต้องเดินทางกับอเล็กซานเดรีย
ไม่นาน ปโตเลมี ที่ 14 ก็เสียชีวิต , คลีโอพัตรา แต่งตั้งลูกชาย  ซีซาเรียน ขึ้นแทน โดย ซีซาเรียน ใช้คำนำหน้าว่า Theos Philopator Philometor 
ในกรุงโรม เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างผู้สนับสนุนซีซาร์ นำโดยมาร์ก แอนโธนี่ (Mark Antony) , อ็อกตาเวียน (Octavian) กับฝ่ายที่ร่วมกันสังหารซีซาร์ คือ มาร์คัส บรุตุส (Marcus Junius Brutus),  เกียส คัสเซียส ลองกินุส (Gaius Cassius Longinus)
ฝ่ายบรุตุส และคัสเซียส แพ้จนต้องลองเรือหนีออกไปทางตะวันออกของอาณาจักรโรมัน แต่ว่าพวกเขาสามารถตั้งค่ายทหารขนาดใหญ่ได้อีกครั้ง
42 BC The Battle of Philippi  มาร์ก แอนโธนี่ เอาชนะ บรุตุสกับคัสเซียส ได้อย่างเด็ดขาด , มาร์ก แอนโธนี อาศัยอยู่ในจังหวัดตะวันออกของโรมัน
41 BC  มาร์ก แอนโธนี่ และคลีโอพัตรา ได้พบกันที่เมือง ตาร์สัส  (Trasus) เมื่อมาร์ก ส่งเพื่อนของเขา ควินตัส (Quintus Dellius) ไปเชิญนางมาจากอียิปต์ โดยที่มาร์ก แอนโธนี่ ต้องการให้นางสนับสนุนด้านเงินทางในการรบกับพวกปาร์เธีย (Parthia)  หลังจากนี้ มาร์ก แอนโธนีได้เดินทางมาอยู่ในอเล็กซานเดรียหลายเดือนช่วงฤดูหนาว
Arsinoe ที่อยู่ใน Ephesus ถูกประหารตามคำร้องขอของคลีโอพัตรา 
40 BC  มาร์ก แอนโธนี เดินทางจากไปจากอียิปต์
25 ธันวาคม คลีโอพัตราให้กำเนิดลูกแฝด ลูกของมาร์ก แอนโธนี่  ชื่อว่า อเล็กซานเดอร์ เฮลิออส (Alexander Helios) และ คลีโอพัตรา เซลีน ที่ 2 (Cleopatra Selene II
มาร์ก แอนโธนี่ แต่งงานกับ อ๊อคเตเวีย (Octavia) น้องสาวของอ๊อกเตเวียน 
36 BC  ระหว่างที่มาร์ก แอนโธนี่ จะไปทำสงครามกับปาร์เธีย เขาแวะมาที่อเล็กซานเดรีย และได้แต่งงานกับคลีโอพัตรา ซึ่งทั้งคู่มีลูกด้วยกันอีกคนชื่อ ปโตเลมี ฟิลาเดลพัส (Ptolemy Philadelphus
เขามอบดินแดนบางส่วนของโพนีเซีย(Phoenicia), จูเดีย(Judea), และไซเรไนคา (Cyrenaica) ให้เป็นของขวัญแก่คลีโอพัตรา
35 BC แอนโธนี่ พยายามที่จะโจมตีปาร์เธีย อีกเป็นครั้งที่สอง 
34 BC แอนโธนี่ ยึดอาร์เมเนีย (Armenia) สร้างความไม่พอใจให้กับอ็อคเตเวียและโรมอย่างมาก 
32 BC แอนโธนี่ ประกาศขอหย่ากับอ็อคเตเวียเพื่อให้การแต่งงานของเขากับคลีโอพัตราถูกต้อง , อ๊อคเตเวียน สามารถโน้มน้าวให้สภาของโรมประกาศสงครามกับอียิปต์ได้
31 BC สมรภูมิแอ๊คเทียม (Battle of Actium) ฝ่ายอียิปต์ของคลีโอพัตรา แพ้ให้กับกองทัพโรมัน 
30 BC  อ๊อคตาเวียน ยึดอเล็กซานเดรีย 
12 สิงหาคม คลีโอพัตรา ฆ่าตัวตาย
30 สิงหาคม มาร์ก แอนโธนี่ ฆ่าตัวตายโดยพุ่งเข้าหาคมดาบ
Don`t copy text!