ลีโอนาร์โด ดา วินชี
ลีโอนาร์โด เกิดวันเสาร์ ที่ 15 เมษายน 1452 (O.S.) เวลา 22.30 น. ในเมืองวินชี จังหวัดตุสคานี (Vinci, Tuscany region) ในสาธารณรัฐฟลอเรนซ์ (Florence Republic) ลีโอนาร์โด เป็นลูกคนแรก แต่เป็นลูกนอกสมรส ของเซอร์ เปียโร่ (Messer Piero Fruosino di Antonio da Vinci) เปียดร่ มีอายุ 25 ปี มีฐานะมั่งคั่ง เขาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศและทูตของสาธารณรัฐฟลอเรนซ์ ส่วนมารดาเป็นหญิงชาวบ้านธรรมดา ทำการเกษตร ชื่อว่า แคทเธอรีน (Catherine)
ปู่ของลีโอนาร์โด ชื่อแอนโตนิโอ (Antonio) และย่าชื่อลูซี่ (Lucy)
สถานที่เกิดจริงของลีโอนาร์โด เชื่่อกันว่าอยู่ที่บ้านของมารดา ตั้งอยู่บนเนินเขาในแอนเชียโน่ (Anchiano) ห่างจากเมืองวินชีเล็กน้อยประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งลีโอนาร์โดใช้ชีวิตในวัยเด็กที่นี่ ลีโอนาร์โด เข้าพิธีแบ๊พติส ใกล้กับโบสถ์ซานต้า ครอส (parish church of Santa Croce)
ในปีทีลีโอนาร์โดเกิด เปียโร่ พ่อของลีโอนาร์โด ได้แต่งงานกับอัลเบียร่า (Albiera degli Amadori) อายุ 16 ปี เธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ว่าเธอไม่ได้มีลูกกับเปียโร่
1457 เมื่ออายุได้ 5 ขวบ แม่ของเขาแต่งงานใหม่กับเปียโร (Piero di Antonio da Vinci Buti’s Vacca) เกษตรกรคนหนึ่งในเมือง ที่ต่อมาเธอมีลูกกับเขาอีกห้าคน
ลีโอนาร์โด ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของพ่อในเมืองวินชี ซึ่งเปียโร่ดูแลลูกชายเป็นอย่างดี เหมือนลูกที่ถูกกฏหมายคนหนึ่ง โดยได้สอนให้เขาอ่านเขียน และเรียนคณิตศาสตร์ ส่วน อัลเบียร่า ก็รักและเอ็นดูลีโอนาร์โดมาก
1464 อัลเบียร่า แม่เลี้ยงเสียชีวิต , ช่วงเวลานี้ครอบครัวของลีโอนาร์โดอาศัยอยู่ในฟลอเลนซ์
เปียโร่ แต่งงานใหม่กับหญิงสาววัย 15 ปี ชื่อ ฟรานเซสก้า (Francesca di Ser Giuliano Manfredini) แต่ว่าพวกเขาไม่ได้มีลูกด้วยกัน
1466 ตอนลีโอนาร์โด อายุได้ 15 ปี พ่อของเขาพาไปฝากเรียนศิลปะกับ แอนเดรีย เวอร์ร็อคชิโอ (Andrea del Verrochio) ซึ่งเป็นช่างเหล๊ก ช่างแกะสลัก และนักวาดรูป ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง ร้านของเวอร์ร๊อคชิโอ ทำงานส่วนใหญ่ให้กับโลเรนโว่ เมดิคี (Lorenzo de Medici) เปียโร่เป็นคนพาลีโอนาร์โดไปฝากให้เวอร์ร๊อคชิโอ ดูแล หลังจากที่เขาเอาภาพวาดของลีโอนาร์โดไปให้เวอร์ร๊อคชิโอดู แล้วถามเวอร์ร๊อคชิโอ ว่าลีโอนาร์โดควรจะเรียนเพื่อเป็นศิลปินหรือไม่
เวอร์ร๊อคชิโอ เป็นคนที่ฝึกให้ลูกศิษย์ของเขาทุกคนศึกษากายวิภาคจากศพ โดยได้รับอนุญาตให้ใช้ศษจากโรงพยาบาลซานต้ามาเรียนูว่า (Santa Maria Nuova hospital)
เล่ากันว่าลีโอนาร์โด ช่วยเวอร์ร๊อคชิโอ เขียนภาพ Baptism of Chirst แต่ปรากฏว่าฝึมือของลีโอนาร์โด นั้นเหนือว่าเวอร์ร๊อคชิโอมาก ทำให้เวอร์ร๊อคชิโอหยุดที่จะเขียนภาพไปเลย ลีโอนาร์โด ทำงานกับเวอร์ร๊อคชิโอ จนถึงปี 1477 ก่อนที่จะแยกตัวออกมา
1468 ปู่ของลีโอนาร์โด้ เสียชีวิต
1469 Madonna Dreyfus เป็นภาพเขียนแรกๆ ที่เป็นผลงานเดี่ยวขอวลีโอนาร์โด วาดประมาณปี 1649
1473 5 สิงหาคม วันที่ที่ปรากฏบนภาพ Landscape with river (Arno valley) เป็นภาพวิวทิวทัศน์ ซึ่งปรากฏวันที่ชัดเจนบนภาพที่เก่าแก่ที่สุดของลีโอนาร์โด
1475 เปียโร่ แต่งงานใหม่กับ มาร์เกริต้า (Margherita di Francesco di Jacopo di Guglielme) ซึ่งพวกเขามีลูกด้วยกันถึง 6 คน
Guglielmo Cortigiani Lucrezia ภรรยาคนที่สี่ คนสุดท้ายของเปียโร่ ซึ่งลีโอนาร์โดรักเธอมาก
ช่วงปี 1474-1478 ไม่ปรากฏผลงานของลีโอนาร์โด เชื่อกันเขาหันไปสนใจศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ และกายวิภาค , ลีโอนาร์โด สนิทกับนักดารราศาสตร์ ชื่อ เปาโล (Paolo dal Pozzo Toscanelli)
1476 8 เมษายน , ถูกจับในข้อหารักร่วมเพศ โดยมีความสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มอายุ 17 ปี ชื่อ จาโคโป (Jacopo Saltarelli)
1478 เขาเลิกทำงานที่สตูดิโอของเวอร์ร็อคซิโอ โดยได้งานอิสระ วาดรูปประดับแท่นบูชา (altarpiece) ให้กับวิหารเซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard) แต่ว่าเขาวาดภาพไม่เสร็จ งานถูกเปลี่ยนมาให้ฟิลิปปิโน่ ลิปปี (Filippino Lippi) วาดต่อจนสำเร็จ
1481 ลีโอนาร์โด เริ่มวาดรูป The Adoration of the Magi โดยได้รับการว่าจ้างจากวิหารในซานโดนาโต้ (San Donato monastery) แต่ว่ายังไม่ทันจะเสร็จ ลีโอนาร์โด ต้องเดินทางไปมิลานเสียก่อน
สันตะปาปา ซิกตัส ที่ 4 (Pope Sixtus IV) เพื่อใช้ประดับวิหารซิซไตน์ (Sistine Chapel)
1482 ฤดูใบไม้ผลิ ลีโอนาร์โด อยู่ในมิลาน เขาถูกลอเรนโซ่ (Lorenzo the Magnificent) ส่งมาเพื่อทำงานให้กับดุ๊กแห่งมิลาน ลูโดวิโค (Ludovico iL Moro, Duke of Miland) เขาทำงานให้หลายอย่างทั้งเรื่องการวาดภาพ และดนตรี เล่ากันว่าลีโอนาร์โด สร้างพิณ (lyre) ขึ้นมาอันหนึ่ง โดยมีหัวเป็นรูปม้า สีเงิน ที่มีเสียงไพเราะมาก แต่ว่าลีโอนาร์โดไม่พอใจกับค่าตอบแทนที่ได้รับนัก ซึ่งไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูตัวเขาและลูกศิษย์อีก 6 คน อย่าง มาร์โด ดิอ๊อกกิโอโน่ (Marco d’Oggiono), จอห์น โบลทราฟฟิโอ (John Boltraffio), เกียน คาปรอตติ (Gian Giacomo Caprotti)
เริ่มวาดรูป Virin of the Rocks
1490 21 มิถุนายน เขาเดินทางไปอิตาลี พร้อมกับ ฟรานเซสโก้ มาร์ตินี (Francesco di Giorgio Martini) สถาปนิก
1495 เขาเริ่มวาดภาพ The Last Supper ภายในห้องอาหารของโบสถ์ซานต้า มาเรีย (Santa Maria della Grazie) ในมิลาน โดยได้รับการว่าจ้างจากลุโดวิโค สฟอร์ซ่า (Ludovico Sforza) ซึ่งเขาใช้เวลาจนถึงปี 1498 กว่าจะวาดภาพนี้เสร็จ The Last Supper ไม่ใช่ภาพเฟรซโก้ (fresco) เพราะว่าลีโอนาร์โด เขียนมันลงบนผนังปุนที่แห้งแล้ว ทำให้ภาพเขียนเร่ิมหลุดลอก หลังเขาทำเสร็จไม่กี่ปี
1499 เกิดสงครามอิตาลี ครั้งที่ 2 (Second Italian War) เมื่อหลุยส์ ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส (Luois XII of France) บุกมิลาน ทำให้ลีโอนาร์โดหนีไปอยู่ที่เวนิช ซึ่งในเวนิช เขาถูกว่าจ้างเป็นวิศวกรในการออกแบบอุปกรณ์และวิธีในการรับมือหากว่าพวกเติร์กบุกมาทางทะเล แม้ว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว เติร์กไม่ได้บุกมา แต่ลีโอนาร์โด ก็ออกแบบผลงานที่น่าสนใจ อย่างชุดประดาน้ำ
เขาใช้เวลาสองสามเดือนเดินทางไป มานโตว่า (Mantova) ทางเหนือของอิตาลีพร้อมกับนักคณิตศาสตร์ลูค่า ปาคิโอลิ (Luca Pacioli) ซึ่งที่มานโตว่า นี้ได้รู้จักกับ อิซาเบลล่า (Isabella d’Este) ซึ่งลีโอนาร์โด ได้วาดภาพสเก็ตของเธอ เป็นภาพหนึ่งที่มีชื่อเสียงของเขา
1501 เมษายน เขากลับมาที่ฟลอเรนซ์ ซึ่งเขาไม่ได้กลับมาที่นี่กว่ายี่สิบปีแล้ว
1502 อยู่ในเคเซน่า (Cesena) เขาได้รับการว่าจ้างจาซีซารี บอร์เกีย (Cesare Borgia) ลูกชายของสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ ที่ 6 (Pope Alexander VI) โดยทำหน้าที่วาดแผนที่ทางการทหาร และเดินทางติดสอยห้อยตามซีซารี
1503 ตุลาคม เดินทางกลับมาที่ฟลอเรนซ์ เขาได้รับการว่าจ้างจากเปียโร่ โซเดรินี (Piero Soderini) ให้วาดภาพ The Battle of Anghiari บนกำแพงของ พลาซ่าเวคคิโอ (Palazzo Vecchio) ซึ่งขณะเดียวกัน มิเคลันเจโร่ (Michalangelo) ก็ถูกจ้างให้วาดภาพ Battle of Cascica บนกำแพงฝั่งตรงข้ามด้วยเช่นกัน ซึ่งภายหลังผลงานทั้งสองชิ้นของทั้งสองคนหายสาบสูญ
ลีโอนาร์โด เริ่มวาดภาพ La Gioconda (Mona Lisa) ซึ่งเชื่อกันว่า ลิซ่า เกอร์ราร์ดินี (Lisa Gherardini) เป็นนางแบบของภาพโมน่า ลิซ่า ที่ลีโอนาโดวาด เธอเป็นภรรยาของพ่อค้าผ้าไหม ชื่อ ฟรานเซสโก้ (Francesco del Giocondo)
1504 9 กรกฏาคม พ่อของเขาเสียชีวิต
1506 เดินทางมามิลาน ครั้งนี้เขาพาลูกศิษย์ติดตามมาด้วยหลายคน
1507 กลับมาฟลอเรนซ์ เขาได้รับมรดกจากลุงฟรานเซสโก้ (Francesco) แต่ว่าพี่น้องต่างมารดาของลีโอนาร์โดหลายคนไม่เห็นด้วย จนลีโอนาร์โดต้องฟ้องร้องต่อ Charles d’Amboise, Florimond Robertet
1508 กลับมาที่มิลาน ตอนแรกไปอาศัยอยู่กับช่างปั่นชื่อจิโอวานี ฟรานเซสโก้ (Giovanni Francesco Rustic) แต่เมื่อจิโอวานีออกจากมิลานไป ลีโอนาโด ได้ซื้อบ้านของเขาเองไว้หลังหนี่งใน Porta Orientale
เมื่อหลุยส์ ที่ 12 กลับมายังมิลานในเดือนพฤษภาคมและกำลังจะบุกเวนิช ลีโอนาร์โด ได้ถูกจ้างให้ทำหน้าที่เป็นวิศกรในกองทัพ ซึ่งได้ติดตามหลุยส์ที่ 12 ไปในการรบที่ในสมรภูมิแอ๊กเนเดลโล่ (Battle of Agnadello)
1913 กันยายน ลีโอนาร์โด กลับมาที่กรุงโรม หลังจากสงครามที่ราเวนน่า (Battle of Ravenna, 1512) ซึ่งฝรั่งเศสถอนทหารออกจากอิตาลีแล้ว ลีโอนาร์โด กลับมาทำงานให้สันตะปาปา เลฟ ที่ 10 (Pope Leo X) ซึ่งเป็นคนในตระกูลเมดิคี
1515 กันยายน ฟรานซิส ทีี่ 1 (Francis I) กษัตริย์องค์ใหม่ของฝรั่งเศส บุกยึดมิลานใหม่อีกครั้ง
19 ธันวาคม ในงานเลี้ยงเพื่อพบกันระหว่างสันตะปาปา เลฟ ที่ 10 กับ กษัตริย์ ฟรานซิส ที่ 1 , ลีโอนาร์โด ได้ถูกนำตัวมาแนะนำให้กษัตริย์ ฟรานซิส ที่ 1 รู้จัก ซึ่งต่อมาฟรานซิส ที่ 1 ได้รับสั่งให้ลีโอนาร์โด สร้างหุ่นสิงโต ที่สามารถเดินได้
1516 เขาเดินทางไปฝรั่งเศส พร้อมกับลูกศิษย์ ฟรานซิสโก้ เมลซิ (Francesco Melzi) , ซาเลีย (Salai)
ฟรานซิส ที่ 1 ได้ประทานปราสาาทคลอส ลูส (Castel of Clos Luce) ในออมบัวซ์ ให้เป็นที่อาศัยของพวก ที่ฝรั่งเศส ลีโอนาร์โด ได้ออกแบบปราสาทโรโมแนนติน (Romorantin Palace) ซึ่งฟรานซิส ที่ 1 ตั้งใจจะสร้างให้กับพระมารดา แต่ว่าโครงการนี้ไม่ได้เริ่มก่อสร้างเพราะลีโอนาร์โดเสียชีวิตเสียก่อน
ภาพ St. John the Baptist ซึ่งน่าจะถูกวาดระหว่างปี 1513-1516 เชื่อกันว่าเป็นภาพวาดภาพสุดท้ายของลีโอนาร์โด โดยที่ซาเลียลูกศิษย์คนโปรดของเขาเป็นแบบ ซาเลีย เดินทางกลับมิลานในปี 1918 ทิ้งลีโอนาร์โด ไว้ที่ฝรั่งเศส
1519 ปลายเดือนเมษายน ลีโอนาร์โดเริ่มล้มป่วย และที่สุดเขาเสียชีวิตในวันที่ 2 พฤษภาคม (O.S.) ที่ Clos Luce อายุได้ 67 ปี ซึ่งบางข้อมูลบอกว่าเขาตายภายในอ้อมกอดของกษัตริย์ฟรานซิส ที่ 1
ลีโอนาร์โด ถูกฝังที่โบสถ์เซนต์ฮิวเบิร์ต เมืองออมบัวซ์ ฝรั่งเศส( Chapel of Saint-Hubert, Amboise, France) ทรัพย์สมบัติของลีโอนาร์โด ถูกแบ่งให้กับบรรดาลูกศิษย์ของเขาเพราะลีโอนาร์โด ไม่มีทายาท ฟรานซิสโก้ เมลซิ ได้รับต้นฉบับลายมือของลีโอนาร์โด ส่วนใหญ่ไป ร่วมทั้งภาพวาดโมนา ลิซ่า