Numquam prohibere somniantes 

Never stop dreaming

Eli Cohen

อีลิยาฮู โคเฮน (אֱלִיָּהוּ בֵּן שָׁאוּל כֹּהֵן, Eliyahu Ben-Shaul Cohen) 
สายลับอิสราเอลที่ทำงานในซีเรีย
โคเฮน เกิดวันที่ 26 ธันวาคม 1924 ในอเล็กซานเดรีย, อียิปต์ ครอบครัวของเขาเป็นยิวที่สนับสนุนไซออนนิสต์
โคเฮนเข้าเรียนในโรงเรียนของยิวในอเล็กซานเดรีย
หลังจากรเรียนจบมัธยมเขาก็สมัครเข้าเรียนวิศวกรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยอเล็กซานเดรีย (Alexandria University) ซึ่งระหว่างที่เรียนอยู่เขาได้เข้าร่วมในการประท้วงต่อต้านการปกครองอียิปต์โดยอังกฤษด้วย 
1949 เมื่ออิสราเอลประกาศก่อตั้งประเทศ ครอบครัวของเขาก็ย้ายมาอยู่ในอิสราเอล
1954 (Lavon Affair), เชื่อกันว่าโคเฮนน่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติลาวอนของอิสราเอล ในการสร้างสถานะการณ์โจมตีชาวอียิปต์, อเมริกา และอังกฤษ แล้วโทษว่าเป็นฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงเพื่อที่จะให้อังกฤษยังคงนโยบายในการยึดคลองสุเอซเอาไว้ต่อไป
แตว่าไม่นานในปีนี้โคเฮนถูกจับโดยเจ้าหน้าที่ตำรวของอียิปต์โดยถูกตั้งข้อหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งโคเฮนถูกขังคุกไว้ระหว่างการต่อสู้คดี แต่ว่าเขาหลบหนีออกมาได้
1956 หลังวิกฤตคลองสุเอซ (Suez Crisis) โคเฮนถูกเนรเทศออกจากอียิปต์พร้อมชาวยิวอื่นๆ อีกหลายพันคนไปยังอิสราเอล
1957 8 กุมภาพันธ์, โคเฮนเดินทางมาถึงอิสราเอล และไม่กี่วันต่อมาเขาได้งานในหน่วยข่าวกรองของกองทัพอิสราเอล
1959 แต่งงานกับนาเดีย (Nadia Majald) ผู้อพยพเชื้อสายอิรัก-ยิว พวกเขามีลูกด้วยกันสามคน
1961 ถูกส่งไปยังอาร์เจนติน่า ในฐานะนักธุรกิจซีเรียที่มีฐานะมั่งคั่ง ชื่อคาเมล ทาเบต (Kamel Amin Thaabet) เขามีเชื้อสายยิว-อาร์เจนติน่า และทำธุรกิจทอผ้า โดยระหว่างนี้เขาได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Comunidades หนังสือพิมพ์ของยิว โดยนาตาลิโอ สเตียเนอร์ (Natalie Steiner) 
หน้าที่ของโคเฮนในอาเจนติน่าคือการแทรกซึมเข้าไปในสังคมของชาวอาหรับ, และชาวซีเรียในบูโนส ไอเรส
ซึ่งความสำเร็จอย่างหนึ่งของปฏิบัติการในอาร์เจนติน่า คือการที่ทำให้โคเฮนได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากนายพลเอมนิ ฮาฟิซ (Amin Hafiz) ซึ่งต่อมาฮาฟิชกลายเป็นประธานาธิบดีของซีเรีย  โคเฮนทำให้ฮาฟิชเชื่อว่าตัวของเขานั้นต้องการที่จะกลับไปซีเรียเพื่อช่วยพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอน
อัลเบิร์ต น้องชายของโคเฮนบอกว่าโคเฮนได้มีโอกาสกลับมายังอิสราเอลอย่างลับๆ เป็นเวลาสามสัปดาห์เพื่อร่วมในงานศพของพ่อ หลังจากนั้นเขาก็เดินทางกลับออกไปผ่านอิตาลี และอเล็กซานเดรีย ก่อนที่จะเข้าไปยังกรุงเบรุต ในเลบานอน
จากเลบานอน โคเฮนเดินทางเข้าไปยังซีเรียโดยเจ้าหน้าที่สายลับที่ทำงานอยู่นั้นก่อนแล้ว 
1962 โคเฮนไปอาศัยอยู่ในกรุงดามัสกัสของซีเรีย ซึ่งเขาก็ยังติดต่อกับคนที่แวดล้อมนายพลฮาฟิชอยู่
1963 การปฏิวัติในซีเรีย ทำให้นายพลฮาฟิชขึ้นเป็นประธานาธิบดี 
ความสำเร็จของโฮเคนคือเขาสามารถล้วงข้อมูลภายในของรัฐบาลซีเรียขณะนั้นออกมาได้ ทั้งการที่โซเวียตส่งอาวุธให้กับซีเรีย, แผนการณ์ของโซเวียตในการผันน้ำจากแม่น้ำจอร์แดนเพื่อให้อิสราเอลแห้งแล้ง, และแผนที่การวางกำลังทางทหารของซีเรีย
1965 มกราคม, โคเฮนถูกหน่วยข่าวกรองของซีเรียจับกุมในอพาร์ตเมนท์ของเขา 
18 พฤษภาคม, โคเฮนถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอในกรุงดามัสกัส ร่างของเขาถูกแขวนเขาไว้กลางแจ้งนาน 6 ชั่วโมง 
1967 (Six Day WAr, 5-10 June) กองทัพอิสราเอลโจมตีอียิปต์, ซีเรีย, จอร์แดน, เลบานอนและอิรัก ซึ่งอิสราเอลสามารถยึดเวสต์แบงค์ (West Bank) , ฉนวนกาซ่า (Gaza Strip) , คาบสมุทรไซนาย (Sinai Peninsula)  และที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights)

ซึ่งประวัติศาสตร์ของอิสราเอลมักอวดอ้างว่าโคเฮนเกือบที่จะได้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมของซีเรีย และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นประธานาธิบดี
Don`t copy text!