Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Month: September 2018

  • Operation Ivy Bells

    Operation Ivy Bells เป็นความริเริ่มโดยอดีตนายทหารเรือ กัปตัน เจมส์ แบรดลีย์ (James Bradley) ซึ่งเคยประจำการณ์ในเรือดำน้ำช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 และทำงานด้านข่าวกรองใต้ทะเล ในปี 1971 แบรดลีย์ เกิดแนวคิดที่จะดักฟังสายเคเบิ้ลใต้ทะเลของโซเวียต เขา, กองทัพเรือ และ NSA (National Security Agency) ตัดสินใจเลือกพื้นที่บริเวณทะเลโอค๊อตส์ก เพราะว่าเป็นฐานทัพสำคัญของโซเวียตในมหาสมุทรแปซิฟิก ฐานทัพเรือเปโตรปาฟลอฟส์ก ซึ่งอยู่บนเกาะคัมชัตก้า (Kamchatka) จึงน่าจะมีสายเคเบิ้ลเชื่อกับศูนย์บัญชาการที่วลาดิวอสต๊อก (Vladivostok) บริเวณดังกล่าวยังถูกจำกัดไม่ให้พลเรือนเข้าไปและมีการลาดตระเวณอย่างเข้มงวด และในทะเลยังมีเครื่องดักฟังสัญญาณเสียงใต้น้ำด้วย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพื้นที่นี้จึงน่าจะมีความสำคัญมาก แบรดลีย์ได้เลือกเรือดำน้ำนิวเคลียร์ฮาลิบัต (Halibut nuclear submarine, SSGN-587) นำในปฏิบัติการณ์นี้ ซึ่งยังประกอบด้วยเรือดำน้ำอื่นๆ อีกหลายลำ  จุดเด่นของเรือดำน้ำฮาลิบัตคือระบบขับเคลื่อนมีความเงียบเป็นพิเศษ และยังมีการติดตั้งเรือดำน้ำกู้ภัยขนาดเล็ก DSRV’s (deep-submergence rescue vehicles) เพื่ออำพรางว่าฮาลิบัตเป็นเพียงเรือกู้ภัยใต้น้ำขนาดเล็ก และมีการปล่อยข่าวลวงว่าสหรัฐฯ ส่งเรือดำน้ำเข้าไปเพื่อค้นหาจรวดมิสไซด์ SS-N-12 Sandbox ของโซเวียตที่หล่นลงในทะเล ขณะที่นักประดาน้ำเอง…

  • Otto Robert Frisch

    อ็อตโต้ โรเบิร์ต ฟริสซ์ (Otto Robert Frisch) ผู้อธิบายปรากฏการณ์ nuclear fission ฟริสซ์ เกิดวันที่ 1 ตุลาคม 1904 ในเวียนนา, ออสเตรียฮังการี (Vienna, Austria-Hungary) พ่อของเขาชื่อจัสตินเนียน (Justinian Frisch) เป็นยิวชาวโปแลนด์ มีอาชีพเป็นจิตรกรและนักกฏหมาย และแม่ชื่อออกัสเต้ มีตเนอร์(Auguste Meitner) เป็นนักเปียโน ฟริสซ์ เป็นหลานของลิส มีตเนอร์ (Lise Meitner)  1922 เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเวียนนา (University of Vienna) ทางด้านฟิสิก 1926 จบปริญญาตรี หลังจากเรียนจบได้ทำงานในห้องทดลองหลายแห่งในเยอรมัน และมีโอกาสทำงานกับอ๊อตโต้ สเติร์น (Otto Stern) นักฟิสิกรางวัลโนเบล  1933 เมื่อฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) มีอำนาจในเยอรมัน ฟริสซ์ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่ลอนดอน โดยได้ทำงานที่เบิร์กเบ็คคอลเลจ (Birkbeck College) …

  • Jill Price

    จิลล์ ไพรซ์ (Jill Price) ผู้ป่วยคนแรกในสหรัฐฯ ที่ถูกวินิจฉัยว่ามีอาการ “hyperthymesia” ไพรซ์ เกิดวันที่ 30 ธันวาคม 1965  ในนิวยอร์ก ซิตี้ (NewYork City) ครอบครัวมีเชื้อสายยิว พ่อของเธอชื่อเลนนี่ (Lenny) มีอาชีพเป็นนักสืบ และแม่ชื่อรอซ (Roz) เป็นแดนเซอร์ให้กับคณะมิตช์ มิลเลอร์ (Mitch Miller Show)  1974 เมื่อไพรซ์อายุ 8 ขวบ เธอเร่ิมรู้ตัวว่าความจำของเธอเองแปลกกว่าคนอื่น คือเธอสามารถจดจำเหตุการณ์ในแต่ละวันได้อย่างละเอียดวันแต่วันเกือบจะสมบูรณ์ คล้ายมันเป็นภาพยนต์ที่ถูกบันทึกไว้ในหัวของเธอ  2000 ไพรซ์ติดต่อกับ ดร.เจมส์ (James McGaugh) นักวิจัยด้านสมองของมหาวิทยาลัยแคริฟอร์เนีย (University of California at Irvine)  เพื่อของคำปรึกษาเกี่ยวกับความแปลกประหลาดเกี่ยวกับความทรงจำของเธอ โดยระหว่างที่เธอถูกศึกษาโดยนักวิจัยนั้น พวกเขารู้จักไพรซ์กันในชื่อว่า AJ 2008 ไพรซ์เขียนหนังสือ The Woman Who Can’t…

  • Julian Assange

    จูเลียน แอสแซง (Julian Paul Assange) ผู้เขียน Cypherpunks, Underground แอสแซง เกิดวันที่ 3 กรกฏาคม 1971 ในควีนแลนด์, ออสเตรเลีย พ่อของเขาชื่อจอห์น (John Shipton) เป็นช่างก่อสร้าง และแม่ชื่อคริสติน แอน (Christine Ann Hawkins) แต่ว่าพ่อและแม่แยกทางกันก่อนที่เขาจะเกิด  และแม่ได้แต่งงานใหม่กับริชาร์ด (Richard Brett Assange) นักแสดง 1979 แม่ของเขากับริชาร์ดหย่ากัน ต่อมาแม่ได้มีครอบครัวใหม่กับลีฟ ฮามิลตัน (Leif Hamilton) และมีลูกด้วยกันคนหนึ่ง แอสแซง เข้าเรียนในโรงเรียนประถามกูลแมนการ์ (Goolmangar Primary School) ในนิวเซาท์เวลส์ 1987 เขาเริ่มทำตัวเป็นแฮกเกอร์ โดยใช้ชื่อว่าเมนแดกซ์ (Mendax) , แทรกซ์ (Trax) และไพม์ ซัสเปคต์ (Prime Suspect)  1989…

  • Julian Assange

    จูเลียน แอสแซง (Julian Paul Assange) ผู้เขียน Cypherpunks, Underground แอสแซง เกิดวันที่ 3 กรกฏาคม 1971 ในควีนแลนด์, ออสเตรเลีย พ่อของเขาชื่อจอห์น (John Shipton) เป็นช่างก่อสร้าง และแม่ชื่อคริสติน แอน (Christine Ann Hawkins) แต่ว่าพ่อและแม่แยกทางกันก่อนที่เขาจะเกิด  และแม่ได้แต่งงานใหม่กับริชาร์ด (Richard Brett Assange) นักแสดง 1979 แม่ของเขากับริชาร์ดหย่ากัน ต่อมาแม่ได้มีครอบครัวใหม่กับลีฟ ฮามิลตัน (Leif Hamilton) และมีลูกด้วยกันคนหนึ่ง แอสแซง เข้าเรียนในโรงเรียนประถามกูลแมนการ์ (Goolmangar Primary School) ในนิวเซาท์เวลส์ 1987 เขาเริ่มทำตัวเป็นแฮกเกอร์ โดยใช้ชื่อว่าเมนแดกซ์ (Mendax) , แทรกซ์ (Trax) และไพม์ ซัสเปคต์ (Prime Suspect)  1989…

  • John Searle

    จอห์น เซียร์เล่อ (John Rogers Searle)  Chinese room argument เชียร์เล่อ เกิดวันที่ 31 กรกฏาคม 1932 ในเดนเวอร์, โคโลราโด้ (Denver, Colorado) พ่อเขาชื่อ จี. เซียร์ล (G. W. Searle) เป็นวิศวกร ทำงานกับ AT&T และแม่ชื่อเฮสเตอร์ (Hester Beck Searle)  1949 เข้าเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน (University of Wisconsin)  ทางด้านรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์และปรัชญา 1952 ได้รับทุน Rhodes จึงย้ายมาเรียนที่อ๊อกฟอร์ด (Oxford)  1959 จบปริญญาเอกจากอ๊อกฟอร์ด และได้ตำแหน่งศาสตราจารย์ย์ที่เบิร์กเลย์ (University of California, Berkeley)  1980 เขียนบทความ “Minds, Brains, and Programs”…

  • Charles Wheatstone

    ชาร์ล วีตสโตน (Charles Wheatstone)  ผู้ประดิษฐ์ Stereoscope , Concertina, Playfair cipher, Wheatstone bridge ชาร์ล เกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1802 ในบาร์นวู๊ด, กลัวเซสเตอร์ไชร์ (Barnwood, Gloucestershire, England) พ่อของเขาเป็นคนขายเครื่องดนตรี และเป็นครูสอนการเล่นฟรุ๊ต เขาเป็นลูกคนที่สอง มีพี่ชายชื่อวิลเลี่ยม  ตอนอายุ 14 ปี ชาร์ลเริ่มฝึกการประดิษฐ์และค้าขายเครื่องดนตรีกับลุงของเขาชื่อชาร์ลีเหมือนกัน ร้านของลุงตั้งอยู่ในลอนดอน แต่ว่าชาร์ลีดูเหมือนจะไม่สนใจเกี่ยวกับงานฝีมือและการค้าขาย จนสุดท้ายพ่อของเขาจึงพาตัวกลับ ชาร์ลสนใจที่จะอ่านหนังสือ และชอบวิทยาศาสตร์ เขาสะสมงานเขียนเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ของโซลต้ม (Alessandro Volta) ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสตั้งแต่เขายังอ่านภาษาฝรั่งเศสไม่ออก 1821 ประดิษฐ์เครื่องดนตรีที่เรียกว่า Enchanted Lyre (Aconcryptophone) ซึ่งไม่ใช่เครื่องดนตรีจริงๆ 1829 ปรับปรุงเครื่องดนตรีแอ๊คคอเดียน (accordion) ซึ่งเขาตั้งชื่อแอ๊คคอเดียนที่เขาปรับปรุงใหม่ว่า คอนเซอร์ติน่า (Concertina) 1834 ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ที่คิงคอลเลจ (King’s College)…

  • Charles Wheatstone

    ชาร์ล วีตสโตน (Charles Wheatstone)  ผู้ประดิษฐ์ Stereoscope , Concertina, Playfair cipher, Wheatstone bridge ชาร์ล เกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1802 ในบาร์นวู๊ด, กลัวเซสเตอร์ไชร์ (Barnwood, Gloucestershire, England) พ่อของเขาเป็นคนขายเครื่องดนตรี และเป็นครูสอนการเล่นฟรุ๊ต เขาเป็นลูกคนที่สอง มีพี่ชายชื่อวิลเลี่ยม  ตอนอายุ 14 ปี ชาร์ลเริ่มฝึกการประดิษฐ์และค้าขายเครื่องดนตรีกับลุงของเขาชื่อชาร์ลีเหมือนกัน ร้านของลุงตั้งอยู่ในลอนดอน แต่ว่าชาร์ลีดูเหมือนจะไม่สนใจเกี่ยวกับงานฝีมือและการค้าขาย จนสุดท้ายพ่อของเขาจึงพาตัวกลับ ชาร์ลสนใจที่จะอ่านหนังสือ และชอบวิทยาศาสตร์ เขาสะสมงานเขียนเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ของโซลต้ม (Alessandro Volta) ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสตั้งแต่เขายังอ่านภาษาฝรั่งเศสไม่ออก 1821 ประดิษฐ์เครื่องดนตรีที่เรียกว่า Enchanted Lyre (Aconcryptophone) ซึ่งไม่ใช่เครื่องดนตรีจริงๆ 1829 ปรับปรุงเครื่องดนตรีแอ๊คคอเดียน (accordion) ซึ่งเขาตั้งชื่อแอ๊คคอเดียนที่เขาปรับปรุงใหม่ว่า คอนเซอร์ติน่า (Concertina) 1834 ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ที่คิงคอลเลจ (King’s College)…

  • Pierre de Fermat

    ปิแอร์ เดอ เฟร์มัต (Pierre de Fermat) เฟอร์มัต เกิดราวปี 1607-1608 ในเมืองบัวม็อง (Beaumont de Lomagne) ทางตอนใต้ของฝั่งเศส พ่อของเขาชื่อโดมินิก (Dominique Fermat)  เป็นพ่อค้าสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ที่มีฐานะร่ำรวย และแม่ชื่อว่าแคร์ (Claire de Long)  มาจากครอบครัวชนชั้นสูงที่มีฐานะ เธอเสียชีวิตตอนที่เฟอร์มัตอายุได้เจ็ดขวบ ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการศึกษาของเฟร์มัต แต่คาดว่าเขาได้เข้าเรียนที่นาแวร์คอลเลจ (College de Navarre) โดยเฟร์มัตมีความสามารถในการพูดได้ถึงหกภาษา ได้แก่ฝรั่งเศส, ลาติ, อ๊อคคิตัน (Occitan), กรีก, อิตาลีและสเปน 1623 เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยออร์ลีน (University of Orleans) ทางด้านกฏหมาย 1626 จบปริญญาตรีตอนอายุเพียง 18 ปี  หลังจากนั้นได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองบอร์ด๊อกซ์ (Bordeaux)  และได้เริ่มทำงานในศาล  ช่วงเวลานี้เขาได้รู้จักกับอีเตียน (Etienne d’Espagnet) ซึ่งเป็นคนที่เก็บหนังสือมีค่าเอาไว้จำนวนมากในห้องสมุดของตัวเอง และเฟร์มัตได้อ่านผลงานของเวียต้า (Francisco’s…

  • Pierre de Fermat

    ปิแอร์ เดอ เฟร์มัต (Pierre de Fermat) เฟอร์มัต เกิดราวปี 1607-1608 ในเมืองบัวม็อง (Beaumont de Lomagne) ทางตอนใต้ของฝั่งเศส พ่อของเขาชื่อโดมินิก (Dominique Fermat)  เป็นพ่อค้าสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ที่มีฐานะร่ำรวย และแม่ชื่อว่าแคร์ (Claire de Long)  มาจากครอบครัวชนชั้นสูงที่มีฐานะ เธอเสียชีวิตตอนที่เฟอร์มัตอายุได้เจ็ดขวบ ไม่มีข้อมูลชัดเจนเกี่ยวกับการศึกษาของเฟร์มัต แต่คาดว่าเขาได้เข้าเรียนที่นาแวร์คอลเลจ (College de Navarre) โดยเฟร์มัตมีความสามารถในการพูดได้ถึงหกภาษา ได้แก่ฝรั่งเศส, ลาติ, อ๊อคคิตัน (Occitan), กรีก, อิตาลีและสเปน 1623 เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยออร์ลีน (University of Orleans) ทางด้านกฏหมาย 1626 จบปริญญาตรีตอนอายุเพียง 18 ปี  หลังจากนั้นได้ย้ายไปอยู่ที่เมืองบอร์ด๊อกซ์ (Bordeaux)  และได้เริ่มทำงานในศาล  ช่วงเวลานี้เขาได้รู้จักกับอีเตียน (Etienne d’Espagnet) ซึ่งเป็นคนที่เก็บหนังสือมีค่าเอาไว้จำนวนมากในห้องสมุดของตัวเอง และเฟร์มัตได้อ่านผลงานของเวียต้า (Francisco’s…

  • William Shakespeare

    วิลเลี่ยม เชคเสปียร์ (William Shakespeare)  วันเกิดของเชคเสปียร์ ไม่มีการบันทึกไว้อย่างแน่ชัแจน ทว่ายอมรับกันทั่วไปว่าเขาเกิดวันที่  23 เมษายน 1564 ซึ่งตรงกับวันนักบุญจอร์จ (St.George’s day)  เชคเสปียร์เกิดในเมืองสแตรตฟอร์ด, วอร์วิคไชร์ (Stratford-upon-Avon, Warwickshire, England) และเข้าพิธีศีลจุ่มในวันที่ 26 เมษายน พ่อของเขาชื่อจอห์น (John Shakespeare) เป็นช่างทำถุงมือและเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น  ส่วนแม่ชื่อแม่รี่ (Mary Arden) มาจากครอบครัวเกษตรกรที่เป็นเจ้าของที่ดินฐานะดี  เชคสเปียร์เป็นลูกคนที่สามในพี่น้องทั้งหมดแปดคน แต่ว่าพี่สาวของคนของเขาเสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นวัยทารก เชคสเปียร์จึงเป็นเหมือนลูกคนโต  เชื่อกันว่าเขาน่าจะเริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนประถมคิงเอ็ดเวิร์ด ที่ 6 (King Edward VI School)  ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเขาไปเพียงสี่ร้อยเมตร และเป็นโรงเรียนที่เปิดให้เรียนฟรี โดยมีการสอนภาษาลาติน, กรีก และวรรณกรรม  1582 22 พฤศจิกายน, เมื่ออายุ 18 ปี เชคเสปียร์แต่งงานกับแอนน์ (Anne Hathaway) ซึ่งขณะนั้นแอนน์มีอายุ 26…

  • Rumpelstiltskin

    Rumpelstiltskin ชาวนาฐานะยากจนคนหนึ่ง ใฝ่ฝันที่จะมีเงินทองและอำนาจ เขาจึงได้เข้าไปยังพระราชวังและโกหกให้พระราชาฟังว่าลูกสาวของเขาสามารถที่จะทอฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำได้  พระราชาได้ฟังดังนั้นก็สั่งให้ชาวนาพาลูกสาวของชาวนาไปขังไว้ในหอคอย พระราชาตรัสสั่งให้นางทอฟางข้าวให้เป็นทองคำให้เสร็จภายในคืนนี้ หากนางไม่สามารถทำได้ตามที่พ่อของนางพูดไว้ นางและพ่อจะถูกประหารชีวิต ในตอนกลางคืน ลูกสาวของชาวนาซึ่งอยู่ภายในหอคอยอย่างสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีพรายรูปร่างเล็กปรากฏตัวขึ้น  พรายตัวเล็กช่วยทอฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำจนเต็มหอคอย โดยของแลกเพียงสร้อยคอที่ลูกสาวชาวนาสวมอยู่เท่านั้น เมื่อถึงตอนเช้า พระราชาเห็นว่ามีทองคำอยู่เต็มหอคอย คืนถัดมาพระองค์จึงนำหญิงสาวไปขังไว้ในหอคอยที่ใหญ่ขึ้น และสั่งให้นางทอทองคำจากฟางข้าวขึ้นมาอีกให้เต็มหอคอยก่อนรุ่งเช้า ในคืนนี้พรายก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาช่วยหญิงสาวปั่นฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำจนเต็มหอคอย โดยแลกกับแหวนที่เธอสวมอยู่เท่านั้น พอรุ่งเช้า พระราชามาพบทองคำเต็มห้อง พระองค์ก็รับสั่งให้ย้ายหญิงสาวไปยังหอคอยที่ใหญ่ที่สุดที่เต็มไปด้วยฟางข้าว ทรงรับสั่งว่าถ้านางทำให้ฟางข้าวเป็นทองคำได้ก่อนรุ่งสางของพรุ่งนี้ พระราชาจะอภิเษกสมรถกับนาง แต่ว่าถ้านางทำไม่ได้ นางจะต้องถูกประหารพร้อมกับพ่อของนาง พอถึงเวลากลางคืน พรายปรากฏตัวขึ้น แต่ว่าคราวนี้หญิงสาวไม่มีสิ่งของใดๆ เหลืออยู่ติดตัวเพื่อแลกกับความช่วยเหลือจากพราย พรายจึงขอให้นางสัญญาว่าจะมอบสิ่งๆ หนึ่งอะไรก็ได้ให้กับมัน หลังจากที่มันช่วยทอทองคำขึ้นมา  หญิงสาวไม่มีทางเลือกจึงรับปาก เมื่อพรายช่วยสร้าทองคำจนเต็มหอคอย มันก็บอกสิ่งที่มันต้องการ นั่นคือ …มันจะขอลูกชายคนแรกที่เกิดจากหญิงสาวกับพระราชา…แล้วพรายก็หายตัว ไป เวลาผ่านไป พระราชาและหญิงสาวลูกชาวนาได้แต่งงานและในวันที่นางให้กำเนิดพระโอรส พรายก็ปรากฏตัวขึ้นมา เพื่อที่จะทวงคำสัญญา หญิงสาวอ้อนวอนขอความเห็นใจให้พรายยอมละเว้นลูกของเธอ จนกระทั่งพรายใจอ่อน … พรายยืนข้อเสนอว่าภายในเวลาสามวัน หากหญิงสาวสามารถบอกได้ว่ามันชื่ออะไร มันก็จะละเว้นไม่เอาเด็กไป … หญิงสาวพยายามเดาชื่อของพรายอยู่นับไม่ถ้วนแต่ว่าก็ไม่สามารถเดาได้ถูกต้อง จนในวันสุดท้าย…

Don`t copy text!