Numquam prohibere somniantes 

Never stop dreaming

Talpiot

ในปี 1974 ศาสตราจารย์ชาอูล แยตซีฟ (Shaul Yatziv) และศาสตราจารย์เฟริกซ์ โดธาน (Felix Dothan) ได้เสนอเอกสาร ชื่อว่า “A Proposal for Establishing an Institute for the Development of New Weapons” ซึ่งปัจจุบันเรียกสั้นๆ ว่าเป็น The Initiation Document of the Talpiot program 

ซึ่ง Talpiot program เป็นโครงการในการว่าสร้างหัวกระทิด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ให้เข้าทำงานกับกองทัพ (IDF) ของอิสราเอล เพื่อช่วยในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี กว่า 40 ของหหลังการตั้งโครงการนี้ ทำให้อิสราเอลประสบความสำเร็จมากมายในด้านการทหาร นวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูง อิสราเอลที่มีประชากรไมถึงสิบล้านคนแต่มีบริษัทเทคโนโลยีเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq ได้เป็นรองเพียงบริษัทจากสหรัฐ 

ชื่อ Talpiot มาจากส่วนหนึ่งของบทกวีใน Song of Songs ซึ่งหมายถึงวิหาร (temple) กล่าวกันว่า ศจ.ซาอูล และ ศจ.เฟริกซ์ ได้แนวคิดการทำโครงการ Talpiot นี้มาจากการตั้งศูนย์วิจัย Palo Alto Research Center (PARC) ของบริษัท Xerox ในปี 1970 

1975 กระทรวงกลาโหมอิสราเอล ประชุมเพื่อพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการทำโครงการ Talpiot 

1978 นายกรัฐมนตรีบีกิน (Menachem Begin) และนายพลราฟาเอล (Rafael Eitan) รัฐมนตรีกลาโหม ได้อนุมัติโครงการ Talpiot

1979 Talpiot เริ่มดำเนินการครั้งแรก โดยสำนักงานตั้งอยู่ในฐานทัพปาลมาชิม (Palmachim military base) และมีการเปิดเรียนคลาสแรกในช่วงซัมเมอร์ โดยหลักสูตรในช่วงแปดปีแรกของโครงการนี้ เน้นไปที่คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์ และคอมพิวเตอร์  โดยคลาสแรกมีนักศึกษา 25 คน

1981 ย้ายสำนักงานของ Talpiot มาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮิบรู (Hebrew University) ในเยรูซาเล็ม

1982 ทหารชุดแรกที่สำเร็จจากโครงการ Talpiot ซึ่งมีโปรแกรมฝึกทหาร 3 ปี ซึ่งทหารบางส่วนหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วถูก่งเข้าไปรบในเลบานอน (อิสราเอลบุกเลบานอนตั้งแต่ปี 1978)

1983 Talpiot ตั้งแผนกทางด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

1984 Talpiot เปิดรับนักศึกษาที่เป็นผู้หญิงเป็นครั้งแรก

1985 โอเฟอร์ ยารอน (Opher Yaron) ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโครงการ Talpiot เช่นกัน ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการของโครงการนี้ ซึ่งเมื่อยารอนเข้ารับตำแหน่ง โครงการมีการรับนักศึกษาผู้หญิงในจำนวนที่มากขึ้น

1990s อิสราเอลมีการพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธ Iron Dome 

นักศึกษาที่จบจาก Talpiot ส่วนใหญ่ไปทำงานให้กับกองทัพ หลายคนเข้าไปอยู่ใน MAFAT (ตัวย่อจากภาษาฮิบรู ซึ่งหมายถึง สำนักงานวิจัยและพัฒนาอาวุธและเทคโนโลยีพื้นฐาน) ซึ่ง MAFAT เกี่ยวข้องการการพัฒนาระบบต่อต้านขีปนาวุธอย่าง Iron Dome, Arrow, David’s Sling

1993 มาเรียน แนชต์ (Marius Nacht) อดีตนักเรียนของโครงการ Talpiot ได้ก่อตั้งบริษัทซอฟแวร์ Check Point Technologies 

ในขณะที่  อีลิ มินต์ซ (Eli Mintz) ซิมชอน เฟียกเลอร์ (Simchon Faigler) เอมีร์ นาทาน (Amir Natan) ซึ่งจบจากโครงการ Talpiot ด้วยเช่นกัน ก็ต่อตั้งบริษัท Compugen บริษัทชั้นนำเกี่ยวกับการวิจัยด้าน DNA 

2001 บริษัท Passave ก่อตั้งโดย เอเรียล เมียสลอส (Ariel Maislos)

2003 บริษัท X Technologies ถูกวื้อโดยกุยแดนต์ (Guidant) ซึ่งกลายเป็นบริษัทด้านไบโอเทคโนโลยีแถวหน้าของอิสราเอล

2007 บริษัท XIV ก่อตั้งโดยนักศึกษาของ Talpiot เช่นกัน นำโดย บารัก เบน-อีไลเซอร์ (Barak Ben-Eliezer) และโอฟีร์ ซาฮาร์ (Ofir Zohar) ก่อนที่ต่อมาบริษัทจะถูกขายต่อให้ IBM

2011 Waves Audio ซึ่งก่อตั้ง่โดย Meir Sha’ashua ชนะรางวัล Trechnical Grammy Award

อีเวียต้า มาตาเนีย (Eviatar Matania) ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นมือขวาของโครงการ Talpiot ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการของสำนักงานไซเบอร์แห่งชาติ (Israel National Cyber Bureau, INCB) ซึ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งรับผิดชอบด้านสงครามไซเบอร์

2012 Anobit ซึ่งก่อตั้่งโดยเอเรียล เมี่ยสลอส (Ariel Maislos) ถูกขายต่อให้ Apple

Don`t copy text!