Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Pedro Cabral

เปโตร คาบรัล (Pedro Álvares Cabral)

นายทหารและนักสำรวจชาวโปตุเกส ซึ่งเป็นชาวยุโรปคนแรกที่เดินทางไปบราซิล (แม้ว่า Vicente Yanez Pinzon ชาวสเปนอาจจะไปถึงก่อานคาบรัล)

เปโตร เกิดประมาณปี 1467 หรือ 1468 ในเบลมอนเต้ (Belmonte) พ่อของเขาชื่อเฟอร์เนา (Fernao Cabral) ทำงานอยู่ในราชสำนักในรัชสมัยของกษัตริย์ มานูเอล ที่ 1 (King Manuel I of Portugal)  ส่วนแม่ชื่ออิซาเบล (Isabel de Gouveia) เปโตรมีพี่น้องผู้ชายอีกสี่คนและพี่น้องผู้หญิงหกคน 

คาบรัล (Cabral) ในภาษาโปตุเกสและสเปนหมายถึงแพะ ตราประจำตระกูลของพวกเขามีรูปแพะอยู่ ซึ่งความเชื่อของครอบครัวเชื่อว่าครอบครัวสืบเชื้อสายมาจากคารานัส (Caranus) กษัตริย์พระองค์แรกของมาเซโดเนีย (Macedonia) 

1500 9 มีนาคม, เปโตรได้รับพระบัญชาให้ออกเดินทางไปยังอินเดีย ซึ่งเป็นการเดินทางไปอินเดียครั้งที่สองของโปตุเกส หลังจากวาสโก ดา กาม่า (Vasco da Gama) ค้นพบเส้นทางอ้อมแหลมกู๊ดโฮป (Good Hope) เพื่อไปยังอินเดีย

เปโตรเป็นผู้บัญชาการกองเรือของโปตุเกส ซึ่งประกอบด้วยเรือ 13 ลำ ออกเดินทางจากท่าเรือในมองลิสบอน (Lisbon) โดยใช้เส้นทางเดียวกับวาสโก ดา กาม่า 

แต่แม้ว่าเขาจะมีเส้นทางการเดินเรือของวาสโก ดา กาม่า แต่ดูเหมือนว่าเปโตร จะออกนอกเส้นทางด้วยความตั้งใจ โดยเขาข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปทางตอนใต้

22 เมษายน, เดินทางมาถึงเกาะทรูครอสส์ (Island of the True Cross) ซึ่งจริงๆ แล้วคือบริเวณประเทศบราซิลปัจจุบัน แต่ในตอนนั้นเปโตรคิดว่ามันเป็นเกาะขนาดใหญ่ ต่อมาเกาะทรูครอสส์ ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นดินแดนโฮลี่ครอสส์ (Land of Holy Cross by King Manuel ,Terra de Santa Cruz) ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็นบราซิล (Brazil) ตามชื่อต้นไม้ที่พบในพื้นที่

เมื่ออยู่ในบราซิล คาบรัลส่งเรือลำหนึ่งกลับมายังโปตุเกส เพื่อถวายรายงานการค้นพบดินแดนใหม่ให้กับกษัตริย์มานูเอล ทรงทราบ 

หลังจากอยู่ที่บราซิลได้ 10 วัน เขาก็เดินทางต่อไปยังอินเดีย

29 พฤษภาคม, กองเรือโปตุเกสขต้องเสียเรือไป 4 ลำระหว่างที่อ้อมแหลมกู๊ดโฮป

13 กันยายน, เดินทางมาถึงคาลิคัต (Calicut) อินเดีย โดยที่เปโตรได้เข้าเฝ้ากษัตริย์ซาโมริน (Zamorin of Calicut) และได้รับพระราชทานอนุญาตให้โปตุเกสตั้งสถานีการค้าขึ้นภายในเมืองได้

17 ธันวาคม, เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวโปตุเกสกับพ่อค้าชาวมุสลิม ทำให้ชาวมุสลิมยกกำลังเข้ามาทำร้ายชาวโปตุเกสภายในศูนย์การค้า ทำให้ลูกเรือที่ติดตามเปโตรมาส่วนใหญ่ถูกฆ่าตาย

ต่อมาเมื่อกำลังเสริมจากโปตุเกสมาถึง เปโตรก็ทำการล้างแค้นโดยการยิงถล่มเมืองจนราบ และยึดเรือของพ่อค้ามุสลิมเอาไว้ พร้อมประหารลูกเรือ

เปโตรเดินทางมายังโคชิน (Cochin) และได้ตั้งสถานีการค้าเครื่องเทศขึ้นมาใหม่ที่เมืองนี้

1501 16 มกราคม, เปโตร เดินทางกลับโปตุเกส โดยบรรทุกเครื่องเทศด้วยเรือ 6 ลำกลับไป

23 มิถุนายน, เดินทางกลับถึงโปตุเกส แต่ว่าระหว่างทางได้สูญเสียเรือไป 2 ลำ

หลังจากการเดินทางครั้งนี้ เปโตรไม่ได้เดินทางไปอินเดียหรือบราซิลอีก เขาใช้ชีวิตบั้นปลายหลังเกษียณภายในบ้านของเขาที่เมืองบีร่า ไบชา (Beira Baixa province) 

1520 เปโตร เสียชีวิต 

1848 สุสานของเปโตร ถูกค้นพบโดยนักประวัติศาสตร์ ชื่อ ฟรานซิสโก้ วาร์นฮาเก้น (Francisco Adolfo Varnhagen)

Don`t copy text!