Numquam prohibere somniantes 

Never stop dreaming

Tag: Folk

  • Rumpelstiltskin

    Rumpelstiltskin ชาวนาฐานะยากจนคนหนึ่ง ใฝ่ฝันที่จะมีเงินทองและอำนาจ เขาจึงได้เข้าไปยังพระราชวังและโกหกให้พระราชาฟังว่าลูกสาวของเขาสามารถที่จะทอฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำได้  พระราชาได้ฟังดังนั้นก็สั่งให้ชาวนาพาลูกสาวของชาวนาไปขังไว้ในหอคอย พระราชาตรัสสั่งให้นางทอฟางข้าวให้เป็นทองคำให้เสร็จภายในคืนนี้ หากนางไม่สามารถทำได้ตามที่พ่อของนางพูดไว้ นางและพ่อจะถูกประหารชีวิต ในตอนกลางคืน ลูกสาวของชาวนาซึ่งอยู่ภายในหอคอยอย่างสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีพรายรูปร่างเล็กปรากฏตัวขึ้น  พรายตัวเล็กช่วยทอฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำจนเต็มหอคอย โดยของแลกเพียงสร้อยคอที่ลูกสาวชาวนาสวมอยู่เท่านั้น เมื่อถึงตอนเช้า พระราชาเห็นว่ามีทองคำอยู่เต็มหอคอย คืนถัดมาพระองค์จึงนำหญิงสาวไปขังไว้ในหอคอยที่ใหญ่ขึ้น และสั่งให้นางทอทองคำจากฟางข้าวขึ้นมาอีกให้เต็มหอคอยก่อนรุ่งเช้า ในคืนนี้พรายก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาช่วยหญิงสาวปั่นฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำจนเต็มหอคอย โดยแลกกับแหวนที่เธอสวมอยู่เท่านั้น พอรุ่งเช้า พระราชามาพบทองคำเต็มห้อง พระองค์ก็รับสั่งให้ย้ายหญิงสาวไปยังหอคอยที่ใหญ่ที่สุดที่เต็มไปด้วยฟางข้าว ทรงรับสั่งว่าถ้านางทำให้ฟางข้าวเป็นทองคำได้ก่อนรุ่งสางของพรุ่งนี้ พระราชาจะอภิเษกสมรถกับนาง แต่ว่าถ้านางทำไม่ได้ นางจะต้องถูกประหารพร้อมกับพ่อของนาง พอถึงเวลากลางคืน พรายปรากฏตัวขึ้น แต่ว่าคราวนี้หญิงสาวไม่มีสิ่งของใดๆ เหลืออยู่ติดตัวเพื่อแลกกับความช่วยเหลือจากพราย พรายจึงขอให้นางสัญญาว่าจะมอบสิ่งๆ หนึ่งอะไรก็ได้ให้กับมัน หลังจากที่มันช่วยทอทองคำขึ้นมา  หญิงสาวไม่มีทางเลือกจึงรับปาก เมื่อพรายช่วยสร้าทองคำจนเต็มหอคอย มันก็บอกสิ่งที่มันต้องการ นั่นคือ …มันจะขอลูกชายคนแรกที่เกิดจากหญิงสาวกับพระราชา…แล้วพรายก็หายตัว ไป เวลาผ่านไป พระราชาและหญิงสาวลูกชาวนาได้แต่งงานและในวันที่นางให้กำเนิดพระโอรส พรายก็ปรากฏตัวขึ้นมา เพื่อที่จะทวงคำสัญญา หญิงสาวอ้อนวอนขอความเห็นใจให้พรายยอมละเว้นลูกของเธอ จนกระทั่งพรายใจอ่อน … พรายยืนข้อเสนอว่าภายในเวลาสามวัน หากหญิงสาวสามารถบอกได้ว่ามันชื่ออะไร มันก็จะละเว้นไม่เอาเด็กไป … หญิงสาวพยายามเดาชื่อของพรายอยู่นับไม่ถ้วนแต่ว่าก็ไม่สามารถเดาได้ถูกต้อง จนในวันสุดท้าย…

  • Rumpelstiltskin

    Rumpelstiltskin ชาวนาฐานะยากจนคนหนึ่ง ใฝ่ฝันที่จะมีเงินทองและอำนาจ เขาจึงได้เข้าไปยังพระราชวังและโกหกให้พระราชาฟังว่าลูกสาวของเขาสามารถที่จะทอฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำได้  พระราชาได้ฟังดังนั้นก็สั่งให้ชาวนาพาลูกสาวของชาวนาไปขังไว้ในหอคอย พระราชาตรัสสั่งให้นางทอฟางข้าวให้เป็นทองคำให้เสร็จภายในคืนนี้ หากนางไม่สามารถทำได้ตามที่พ่อของนางพูดไว้ นางและพ่อจะถูกประหารชีวิต ในตอนกลางคืน ลูกสาวของชาวนาซึ่งอยู่ภายในหอคอยอย่างสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีพรายรูปร่างเล็กปรากฏตัวขึ้น  พรายตัวเล็กช่วยทอฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำจนเต็มหอคอย โดยของแลกเพียงสร้อยคอที่ลูกสาวชาวนาสวมอยู่เท่านั้น เมื่อถึงตอนเช้า พระราชาเห็นว่ามีทองคำอยู่เต็มหอคอย คืนถัดมาพระองค์จึงนำหญิงสาวไปขังไว้ในหอคอยที่ใหญ่ขึ้น และสั่งให้นางทอทองคำจากฟางข้าวขึ้นมาอีกให้เต็มหอคอยก่อนรุ่งเช้า ในคืนนี้พรายก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาช่วยหญิงสาวปั่นฟางข้าวให้กลายเป็นทองคำจนเต็มหอคอย โดยแลกกับแหวนที่เธอสวมอยู่เท่านั้น พอรุ่งเช้า พระราชามาพบทองคำเต็มห้อง พระองค์ก็รับสั่งให้ย้ายหญิงสาวไปยังหอคอยที่ใหญ่ที่สุดที่เต็มไปด้วยฟางข้าว ทรงรับสั่งว่าถ้านางทำให้ฟางข้าวเป็นทองคำได้ก่อนรุ่งสางของพรุ่งนี้ พระราชาจะอภิเษกสมรถกับนาง แต่ว่าถ้านางทำไม่ได้ นางจะต้องถูกประหารพร้อมกับพ่อของนาง พอถึงเวลากลางคืน พรายปรากฏตัวขึ้น แต่ว่าคราวนี้หญิงสาวไม่มีสิ่งของใดๆ เหลืออยู่ติดตัวเพื่อแลกกับความช่วยเหลือจากพราย พรายจึงขอให้นางสัญญาว่าจะมอบสิ่งๆ หนึ่งอะไรก็ได้ให้กับมัน หลังจากที่มันช่วยทอทองคำขึ้นมา  หญิงสาวไม่มีทางเลือกจึงรับปาก เมื่อพรายช่วยสร้าทองคำจนเต็มหอคอย มันก็บอกสิ่งที่มันต้องการ นั่นคือ …มันจะขอลูกชายคนแรกที่เกิดจากหญิงสาวกับพระราชา…แล้วพรายก็หายตัว ไป เวลาผ่านไป พระราชาและหญิงสาวลูกชาวนาได้แต่งงานและในวันที่นางให้กำเนิดพระโอรส พรายก็ปรากฏตัวขึ้นมา เพื่อที่จะทวงคำสัญญา หญิงสาวอ้อนวอนขอความเห็นใจให้พรายยอมละเว้นลูกของเธอ จนกระทั่งพรายใจอ่อน … พรายยืนข้อเสนอว่าภายในเวลาสามวัน หากหญิงสาวสามารถบอกได้ว่ามันชื่ออะไร มันก็จะละเว้นไม่เอาเด็กไป … หญิงสาวพยายามเดาชื่อของพรายอยู่นับไม่ถ้วนแต่ว่าก็ไม่สามารถเดาได้ถูกต้อง จนในวันสุดท้าย…

  • Alyosha Popovich

    อโลชา โปโปวิช (Алёша Попович) ในนิทานพื้นบ้านของรัสเซียโปโปวิช เป็นหนึ่งในสามอัศวินนักรบที่สำคัญของยุคสมัยเคียฟรัสเซีย (Kievan Rus) เขาเป็นนักรบที่อายุน้อยที่สุดในอัศวินทั้งสาม ซึ่งอีกสองคนคือ โดบรีเนีย นิกิติช (Dobrynya Nikitich) และอิลย่า มูโรเมต (Ilya Muromets)  โปโปวิช มีอุปนิสัยขึ้เล่น ช่างพูดและเป็นคนที่ฉลาดเฉลียวท่ีสุด ตำนานยังเล่าว่าเขาเกิดขึ้นมาในวันที่มีเสียงฟ้าผ่า และในวัดถัดมาเขาก็สามารถลุกขึ้นวิ่งเล่นได้ทันที วันหนึ่ง โปโปวิช ได้ออกเดินทางพร้อมกับทหารรับใช้ของเขาชื่อเยคิม (Yekim) เพื่อไปพบกับเจ้าชายวลาดิมีร์ แห่งเคียฟ  (Prince Vladimir of Kiev) เมื่อโปโปวิชและเยคิมเดินทางไปถึงยังพระราชวัง เป็นช่วงเวลาที่เจ้าชายวลาดิมีร์กำลังเสวยพระกระยาหารกลางวัน เจ้าชายวลาดิมีร์จึงชวนให้ทั้งสองคนร่วมโต๊ะเสวยกับพระองค์  แต่ปีศาจตนหนึ่งชื่อตุการิน (Tugarin) ได้ทำการหยามเกียรติของโปโปวิช ด้วยการแทรกที่นั่งระหว่างโปโปวิชกับภรรยาของเขา  เพื่อเป็นการตอบโต้ โปโปวิชจึงได้เล่านิทานเรื่องหนึ่งขึ้นมา โดยเป็นเรื่องของสุนัขตัวหนึ่งและวัวตัวหนึ่งที่กินอาหารและน้ำมากจนเกินไปจนเสียชีวิต ซึ่งเสียดสีว่าตรงกับลักษณะนิสัยของเจ้าปีศาจตุการินนั่นเอง นั้นทำให้ตุการินโมโหและเควี้ยงส้อมเข้าใส่โปโปวิช แต่ว่าเยคิมรับส้อมเอาไว้ได้ทัน ตุการินโกรธมากขึ้นไปอีกและทำท่าจะพ่นไฟ โปโปวิชจึงท้าให้มันออกไปสู้กับเขาที่สนามด้านนอก ใกล้กับแม่น้ำซาฟัต (Safat River)  เมื่อทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ตุการินได้ใช้ปีกบินขึ้นไปในอากาศ แต่โปโปวิชได้ท่องคาถาบันดาลให้เกิดฝน จนปีกของตุการินเปี๊ยกและหนักจนไม่สามารถบินได้…

Don`t copy text!