Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Maria Rasputin

en.wikipedia.org

มาเรีย รัสปูติน (Мария Распутина)

ลูกสาวรัสปูติน
เธอเกิดที่หมู่บ้านโปกรอฟสโกเย ในไซบีเรีย ในวันที่ 27 มีนาคม 1898 มีชื่อจริงตอนเกิดว่า มาทรีน่า กริโกเรฟน่า รัสปูติน (Матрёна Григорьевна Распутина, Matryona Grigorievna Rasputina ) เป็นลูกสาวรัสปูติน กับ ปราสกอฟย่า (Praskovya Dubrovin) เธอเป็นลูกสาวคนโปรดของรัสปูติน
เธอย้ายมาอยู่ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก พร้อมกับรัสปูติน ในช่วงที่เธอยังเป็นวัยรุ่น พร้อมกับน้องสาวอีกคนหนึ่ง ชื่อบาร์บาร่า ซึ่งทั้งคู่เข้าเรยนที่โรงเรียนเอกชน สเตปลิน-คาเมนสกี (Steblin-Kamensky school) ในปี 1913 ซึ่งทำให้เธอได้เข้ากับสังคมของคนชั้นสูง และพ่อแม่ของเธอก็เปลี่ยนมาเรียกเธอในชื่อมาเรียแทน แต่คนอื่นๆ จะเรียกเธอว่า มาร่า (Mara) หรือ มารอชก้า (Marochka) 
มาเรียเป็นผู้หญิงที่มีใบหน้าเป็นสีเหลี่ยม และสูงใหญ่ เธอบอกว่ารัสปูตินเป็นคนสอนให้เธอเข้ากับสังคม และเวลาที่ออกไปข้างนอกไม่ควรที่จะไปตัวเปล่าแต่ควรมีของติดไว้ในกระเป๋าสำหรับแจกคนยากจน
1914 มาเรียหมั่นกับนายทหารคนหนึ่งเชื้อสายจอร์เจีย นามสกุลแพนคาเซ ( Pankhadze)  ซึ่งรัสปูตินช่วยให้เขาไม่ต้องถูกส่งไปรบในสงครามโลก โดยแค่ประจำการในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก
1916 ครอบครัวรัสปูตินอาศัยอยู่ร่วมกันภายในอพาร์ตเมนต์ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์กจนกระทั้ง รัสปูตินถูกฆ่าตายในเดือนธันวาคม หลังการเสียชีวิตของรัสปูตินแล้ว มาเรียถูกบรรดาผู้ติดตามรัสปูตินสนับสนุนให้แต่งงานกับ บอริส โซโลเวียฟ (Boris Soloviev) ซึ่งเป็นลูกชายของนิโคไล โซโลเวียฟ (Nikolai Soloviev) สมาชิกของ Holy Synod (คณะปกครองทางศาสนาในนิกายรัสเซียออโธดอกซ์) ซึ่งบอริส พยายามทำตัวเป็นผู้สืบทอดจากรัสปูติน หลังจากรัสปูตินเสียชีวิต สาวกของรัสปูตินได้จัดการประชุมขึ้นมาและมีการทำพิธีเพื่อติดต่อกับวิญญาณของรัสปูติน (seances) ซึ่งมาเรียก็เข้าร่วมในพิธีด้วย มาเรียเล่าเอาไว้ว่าเธอไม่ชอบบอริสเอาเสียเลยแม้ว่าร่างทรงรัสปูตินในพิธีกรรมดังกล่าวจะบอกให้เธอรักบอริส
1917 อย่างไรก็ดี มาเรียแต่งงานกับบอริส ในวันที่ 5 ตุลาคม 1917 และหนีการปฏิวัติ เดินทางกลับไปยังไซบีเรียไปอาศัยอยู่ในบ้านเดิมของรัสปูตินอยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งบอริสได้นำเอาของมีค่าที่ครอบครัวรัสปูตินได้รับพระราชทาน ไปขาย แต่เขากับเก็บเงินเอาไว้เสียเอง
ต่อมาเมื่อบอลเชวิคมีอำนาจ บอริส กับเข้ารับราชการอีก และตั้งใจไปอยู่ในเยคาเตอรินเบิร์ก (Ekaterinburg) บอริสพยายามติดต่อช่วยเหลือซาร์นิโคลัส โดยที่เรียกร้องเงินจากพระองค์เป็นค่าตอบแทนในการพาหลบหนีไปยังเมืองจีน
ต่อมามาเรียและบอริส เดินทางไปยังบุคาเรสต์ ในโรมาเนีย โดยที่มาเรียทำงานเป็นนักเต้นคาบาเรต์ อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่จะเดินทางไปยังปารีส และบอริสได้เข้าทำงานในโรงงานรถยนต์
1926  บอริสเสียชีวิตด้วยวัณโรค , ส่วนมาเรียนั้นเข้าทำงานราชการ
ต่อมาเมื่อเฟริค ยุสสุปอฟ (Felix Yussupov) ตีพิมพ์หนังสือบันทึกความทรงจำของเขาเกี่ยวกับการสังหารรัสปูติน มาเรียได้ยืนฟ้องบุสสุปอฟ และแกรนดุกซ์ ดมิทรี (Grand Duke Dmitri Pavlovich) ต่อศาลในกรุงปารีส เป็นเงินกว่าแปดแสนดอลล่าห์ แต่สุดท้ายแล้วศาลยกคำร้องของเธอ โดยบอกว่าศาลไม่มีอำนาจถึงปัญญาการเมืองในรัสเซีย
1932 มาเรียเขียนหนังสือเกี่ยวกับรัสปูติน พิมพ์ออกมาครั้งแรก โดยใช้ชื่อ Rasputin, My Father  
หลังจากนั้นพบว่าเธอมีผลงานเป็นนักเขียนร่วมเกี่ยวกับตำราอาหารอีกหลายเล่ม และยังทำงานในคณะละครสัตว์ริงลิง (Ringling Brothers circus) ในฐานะผู้ควบคุมสิงโต ซึ่งทำให้เธอมีโอกาสเดินทางไปหลายประเทศทั่วโลก ทั้งเปรู อินเดีย และไมอามี่ ฟลอริด้า สหรัฐอมเริกา  เป็นแห่งสุดท้ายก่อนที่เธอจะเลิกเล่นละครสัตว์ แล้วเข้าทำงานในโรงงานต่อเรือรบ ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2
1937 มาเรีย อาศัยอย่างถาวรในสหรัฐอเมริกา
1940 แต่งงานกับกริกอรี เบอร์นาดสกี (Gregory Bernadsky)
1945 เธอได้รับสิทธิเป็นพลเมืองสหรัฐ
1955 เธอถูกบังคับให้ออกจากโรงงานประกอบเรือ เนื่องจากมีอายุที่เยอะแล้ว หลังจากนั้นเธอทำงานในโรงพยาบาล,โรงแรม และทำงานพิเศษในการเลี้ยงเด็ก และสอนภาษารัสเซีย
1968 เธออ้างว่ามีพลังจิต และอ้างว่าได้พบเห็นกับคนหลายคนที่ตายไปแล้วอย่าง Betty Ford และเธออ้างว่าจำได้ว่า แอนน่า แอนเดอร์สัน (Anna Anderson) เป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซีย
บันปลายชีวิตเธออาศัยอยู่ในฮอลลีวูด แคลิฟอร์เนีย โดยอาศัยเงินประกันสังคม เธอเลี้ยงสุนัขไว้ 2 ตัว เธอเรียกมันอย่างประชดประชันว่า ยุสสุ (Youssou) และ ปอฟ (Pov) 
ลูกสาวคนหนึ่งของมาเรีย แต่งงานกับทูตเนเธอแลนด์ประจำกรีซ และกลายมาเป็นเพื่อนกับลูกสาวของยุสสุบอฟ ที่ชื่ออิริน่า (Irina Yussupov) ในช่วงปี 50s , มาเรียมีหลานถึงสี่คน ซึ่งมาเรียเล่าถึงรัสปูตินให้หลานฟังว่า “เป็นแค่คนธรรมดา ที่มีหัวใจยิ่งใหญ่ จิตวิญญาณที่เข้มแข็ง รักประเทศรัสเซียและซาร์”
1977 มาเรีย เสียชีวิตในวันที่ 27 กันยายน 1977 ขณะอายุ  79 ปี ด้วยอาการหัวใจวาย ในลอสแองเจิ้ลลิส และถูกฝังที่สุสาน  Angelus Rosedale cemetery
  • My Father , Rasputin (Распутин, Мой Отец, ISBN 0821601202,9780821601204)
  • Rasputin, The Man Behind The Myth (ISBN 9780137531295,1977)
  • Rusputin , Memory of Daughter (Распутин , Воспоминания Дочери ,ISBN : 5815904589) หรือ Rasputin , Why not ? (Распутин, Почему? ) เธอเขียนระหว่าง 1946-1960 เริ่มเขียนตอนอายุ 48 ปี แต่ว่าไม่เคยพิมพ์ออกมาระหว่างที่เธอมีอายุอยู่ 
Don`t copy text!