Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

1812 : little-know facts

1812 War: little-known facts

Tags: History, War of 1812, Russia, World Kharlamova Maria 20.12.2010, 15:19 Some such facts are odd enough but true, while others prompt many to rethink the events pertaining to the 1812 war. The 16th century reputed seer Nostradamus, for example, is thought to have predicted the birth of Napoleon and all that it implied. In a bizarre twist of events, the manuscript was later discovered and handed over to Bonaparte after he came to power in France in 1799. Contemporaries claimed that at the time, Napoleon was very much impressed by Nostradamus’ prediction, which proved to be the naked truth. Bonaparte was quick to hide the manuscript from strangers, and avoided discussing the subject. The manuscript never re-emerged. Like Napoleon’s, Russian Emperor Alexander I’s rise to power was also preceded by a wide array of obstacles that Alexander had to deal with. Upon succeeding to the throne in 1801, he unexpectedly announced that being closer to common people will be one of his key priorities. And he quickly began to practise what he preached. Many were amazed to see Alexander I walking down the streets of St.Petersburg and hailing passers-by, something that flew in the face of the status of the top people in Russia at the time. In particular, a Russian Emperor was obliged to move in a gilded carriage accompanied by an escort of guardsmen, which was certainly not the case with Alexander I. Читать далее Source: Voice of Russia.


ความจริงบางอย่างเหมือนเรื่องชวนหัว แต่เป็นเรื่องจริง เมื่อกลับไปคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสงครามปี 1812 ก่อนหน้านี้ ในศตวรรษที่ 16 นอสตราดามุส  ได้เคยทำนายถึงการมาเกิดของนโปเลียนไว้ ซึ่งต้นฉบับลายมือที่เขาทำนายไว้ ได้ถูกส่งให้กับนโปเลียน เมื่อเขาครองอำนาจในฝรั่งเศสปี 1799 ซึ่งว่ากันว่านโปเลียนตะลึงในความแม่นยำของคำทำนาย ราวกับว่านอสตราดามุสได้เห็นกลับตาของเขาเอง นโปเลียนเก็บต้นฉบับนั้นไว้เป็นความลับ เพื่อไม่ให้เกิดการถกเถียงกันในสาธารณชน นั้นก็ทำให้ต้นฉบับลายมือส่วนนั้นของนอสตราดามุสไม่เคยปรากฏให้เห็นอีก
เช่นเดียกับนโปเลียน จักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ ที่ 1  ของรัสเซีย ขึ้นสู่อำนาจด้วยอุปสรรคมากมาย จนกระทั้งได้ราชบัลลังค์ในปี 1801 จักรพรรดิทรงได้ประกาศว่าการใช้ชีวิตใกล้ชิดกับสามัญชนเป็นภาระกิจที่สำคัญประการหนึ่ง และก็ทรงปฏิบัติตัวเช่นนั้น ผู้คนต่างแปลกใจเมื่อเห็น อเล็กซานเดอร์ ที่ 1 เดินอยู่บนถนนใน เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก  มีผู้คนต่างร้องตะโกน และสิ่งของบางอย่างถูกโยนใส่ใบหน้าพระองค์ แต่การที่จะไปตามที่ต่างๆ โดยมีราชพาหนะ ห้อมล้อมด้วยอารักษ์จำนวนมากนั้น ไม่ใช่นิสัยของพระองค์
สำหรับนโปเลียน เขาถูกขนาดนามว่าเป็นชายที่มีความเฉลียวฉลาด นักประวัติศาสตร์กล่าวว่าโบนาปาร์ตเป็นายทหารระดับสูงที่สัมพัสได้มากที่สุดที่เดียว ปี 1798 ที่นโปเลียนใช้การบุกอียิปต์เป์นเครื่องมือหาสียง เขาเดินทางทางไปยังเมืองกิซ่า (Giza) เพื่อดูปิรามิดแห่งคิออฟ(Cheops Pyramid) และสฟริงห์  และไปสำรวจมหาปิรามิดคูฟู (Khufu Pyramid)  นโปเลียนได้ขอเวลาที่จะอยู่ลำพังในหอแห่งกษัตริย์ (King’s Chamber) ที่ซึ่งว่ากันว่าเขาได้ค้นพบสิ่งประหลาดภายในที่ทำให้เขารู้สึกช๊อค และดูเปลี่ยนไปอย่างที่สุด แต่เมื่อถูกถามว่าเกิดอะไรขึ้นเขาปฏิเสธที่จะตอบ และบอกว่า “พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร คุณจะไม่เชื่อผมอยู่ดี " "What’s the use of talking? all the same,you’d never believe me” ประโยคที่นโปเลียนพูดในตอนนั้น

หลายคนยังส่งสัยว่าโบนาปาร์ดเจออะไรกันแห่งภายในปิรามิดแห่งคิออฟจนทำให้เขาตื่นกลัว  หลายคนชี้ไปที่โรคกลัวแมวของนโปเลียน ซึ่งนโปเลียนเชื่อว่าแมวจะทำให้ชะตาชีวิตเปลียนไป
เกร็ดอื่นๆ อย่าง  หลังสงครามปี 1812 พระจักรพรรดิอเล็กซานเดอร์ทรงม้าที่ชื่อ อีคริบ (Eclipse) ระหว่างขบวนพาเรซ ซึ่งม้าตัวนี้เป้นของขวัญที่นโปเลียนเคยให้ไว้ มีทหารฝรั่งเศสกว่า 200,000 คนถูกจับตัวเข้่าคุก พวกเขาต้องแปลกใจเล็กๆ เมื่อได้รับเมนูอาหาร ที่ให้เลือก ขนมปัง,เนื้อ,ข้าว,มันฝรั่ง,ผักกาด,แครอท หรือกระทั้งไวน์ได้ 
นอกจากนั้นนักพฤษศาสตร์ ยังตัั้งชื่อดอกบีโกเนีย (Begonia) ให้มีชื่อเล่นว่า หูของนโปเลียน (Napoleon’s ear) จากรูปทรงของดอกไม้ที่คล้ายใบหูมนุษย์


Don`t copy text!