Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Svetlana Alliluyeva

photo: wikipedia

สเว็ตลาน่า อัลลิลูเยว่า (Светлана Иосифовна Аллилуева)  ลูกสาวของ โจเซฟ สตาลิน 

เกิดเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 1926

เธอเเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของสตาลิน กับภรรยาคนที่สอง นาเดซดา (Nadezhda Alliluyeva ) แต่ว่านาเดซดา เสียชีวิตไปในขณะที่เธออายุได้เพียง หกขวบ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 1932 โดยการฆ่าตัวตาย

สเว็ตลาน่าจึงโตมาโดยอยู่กับพยาบาลพี่เลี้ยงเป็นส่วนใหญ่ในขณะที่พ่อของเธอครองอำนาจในโซเวียต

ตอนอายุ ได้ 16 ปี สเว็ตลาน่า ตกหลุมรัก อเล็กซี แคปลิน (Aleksey Kaplin) ซึ่งมีอายุ 40 ปี เขาเป็นช่างภาพชาวยิว แต่ว่าสตาลินไม่เห็นด้วยกับความรักของลูกสาว แคปลิน ถูกลงโทษด้วยการส่งไปค่ายในไซบีเรีย


สเว็ตลาน่าแต่งงานครั้งแรกกับ กริกอรี โมรอฟซอฟ (Grigory Morozov) ในปี 1944 ตอนอายุ 17 ปี ทั้งคู่พบกันตอนเรียนในมหาวิทยาลัยมอสโคว์ สเว็ตลาน่าตอนนั้นเรียนทางด้านประวัติศาสตร์ตามที่สตาลินแนะนำ จากที่เดิมเธอเองต้องการเรียนทางด้านภาษา 

สเว็ตลาน่า มีลูกชายกับ กริกอรี ชื่อว่า โจเซฟ (Joseph) เกิดในปี 1945 

1947 สเว็ตลาน่าหย่าขาดกับสามี

1949 เธอแต่งงานใหม่กับ ยูริ ซดานอฟ (Yuri Zhdanov) ซึ่งเป็นลูกชายของคนสนิทของสตาลิน โดยการแต่งงานนี้เป็นไปตามความต้องการของสตาลิน สเวตลาน่าให้กำเนิดลูกสาว เยคาเทอริน่า (Ekaterina) แต่ว่าไม่นานทั้งคู่ก็หย่าล้างกันอีก 

1953 สตาลินเสียชีวิต

 สเวตลาน่า เปลี่ยนมาใช้นามสกุลของมารดาแทน และทำงานเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยมอสโคว์ โดยสอนทางด้านประวัติศาสตร์

1963 เธอพบรักกับลูกศิษย์ของเธอเอง เป็นชาวอินเดียชื่อ บราเจช สิงห์ (Brajesh Singh) เขาเป็นยุวคอมมิวนิสต์ ที่ทำงานเป็นนักแปลให้กับสำนักพิมพ์ภาษาต่างประเทศ แต่ว่าทั้งคู่ไม่ได้แต่งงานกัน เพราะสิงห์ป่วย และเสียชีวิตในปี 1967 โดยมีสเวตลาน่าอยู่เคียงข้าง สเวตลาน่าบอกว่าสิงห์เป็นสามีของเธอ แต่ว่าเธอไม่ได้รับอนุญาติให้แต่งงานอย่างเป็นทางการ

สเวตลาน่าทำตามคำขอของสิงห์ที่จะนำเถ้ากระดูกเขากลับไปยังอินเดีย เธอไปยังบ้านของสิ่งห์ที่กาลากานการ์ (Kalakankar) และโปรยอัษฐิของสิงห์ลงในแม่นำคงคา

ที่อินเดีย 9  มีนาคม 1967 สเวตลาน่า ยืนขอลี้ภัยกับสถานทูตสหรัฐในนิวเดลี อินเดีย และได้รัรบอนุญาติให้พำนักในสหรัฐได้ แต่เธอเดินทางไปยังหลายประเทศในยุโรปก่อนไปสหรัฐ เพื่อช่วยอินเดียซึ่งเป็นพันธมิตรกับโซเวียตไม่ให้ถูกตำหนิ

ในสหรัฐ สเวตลน่า แต่งานใหม่กับสถาปนิก ชื่อเวสลีย์ ปีเตอร์ (Wesley Peters) และสเวตล่านา ได้เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น ล่าน่า ปีเตอร์ (Lana Peters) อีกชื่อหนึ่งของลูกสาวสตาลิน ที่เป็นที่รู้จัก แต่หลังจากมีลูกสาวชื่อ โอลก้า (Olga) ไม่นานทั้งคู่ก็หย่ากันอีก 

1982 เธอย้ายบ้านไปอยู่ในแคมบริด อังกฤษ

1984 สเวตลาน่าเดินทางกลับโซเวียต โดยไปอยู่ที่กรุงทบิลิซี (จอร์เจีย)  โดยลูกของเธอได้รับฐานะพลเมือง

1986 สเวตลาน่าเดินทางกลับไปอาศัยอยู่ในสหรัฐอีก และเธอยังมีชีวิตอยู่จนปัจจุบัน

 แต่ว่าหลานชายของสตาลิน ลูกชายของเธอ โจเซฟ อาศัยอยู่ในมอสโคว์ อีแคทเทอริน่า และโอลก้า ก็อาศัยอยู่ในรัสเซีย

photo : Russia Today

เธอมีผลงานเขียนชีวประวัติตัวเองอยู่สามเล่ม คือ

  • Twenty Letters to a Friend
  • Svetiana About Svetiana
  • Only One Year

Twenty Letters to a FriendSvetlana About SvetlanaOnly One Year



 

Don`t copy text!