Numquam prohibere somniantes 

Never stop dreaming

Vladimir Zworykin

วลาดิมีร์ ซโวริกิน (Владимир Козьмич Зворыкин)

Father of Television 
เขาเกิดในครอบครัวพ่อค้าที่ร่ำรวยในเซนต์ปีเดอร์เบิร์ก (เมืองมุรอม  เขตวลาดิมีร์,Murom Vladimir ) เมื่อ 17 กรกฎาคม 1888 ตอนนั้นยังคงเป็นเมืองหลวงของรัสเซียอยู่ ครอบครัวเขาเป็นพ่อค้าที่มั่งคั่ง6666111
พ่อของเขา Cosmas Zvorykina(Козьмы Зворыкина) เริ่มต้นจากธุรกิจขายขนมปังก่อนที่จะได้ทำกิจการธนาคารมุรอม และเป็นเจ้าของเรือกลไฟ

 1906 เข้าศึกษาที่สถาบันเทคโนโลยี มหาวิทยาลับเซนต์ปีเดอร์เบิร์ก และจบการศึกษาในปี 1912 ด้านวิศวะกรรม ระหว่างที่ศึกษาอยู่นี้เขาได้ร่วมทำงานกับ ศจ.บอริส โรสซิ่ง (ฺBoris Rosing) ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องรับภาพที่ใช้หลอดคาโทด (CRT ,cathode ray tubes) 

1912 ซโวริกิน เดินทางไปศึกษาต่อที่ปารีส ในวิทยาลัยแห่งฝรั่งเศส (Paris’s College de France ) โดยตอนนั้น Paul Langevin เดินทางไปศึกษาที่เยอรมัน ที่ Charlottenburg Institue ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้สมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพรัสเซีย โดยความรู้ของเขาในเรื่องวิทยุทำให้เขาทำงานในหน่วยทหารสื่อสาร ในเปรโตกราด 

ปี 1916 เขาแต่งงานกับทัตยานา วาซิลเยว่า (Tatyana Vasilyeva) มีลูกด้วยสองคน เกิดในปี 1920,1927

การปฏิวัติคอมมิวนิสต์ในปี 1917 เขาให้การสนับสนุนกองทัพขาวอยู่ระยะหนึ่ง แต่เมื่อกลุ่มของนายพลคอลแชค (Kolchak)  พ่ายแพ้ ในปี 1919 เขาก็หนีไปยังสหรัฐอเมริกา

เข้าทำงานที่ไฟฟ้าเวสติ้งเฮาท์ ( Westinghouse Electrics Corporation)  เป็นแห่งแรก เขาสาทิตย์ระบบการส่งภาพและรับภาพระยะไกลให้กับนายจ้างดูแต่ว่าไม่ได้รับความสนใจ อาจจะเป็นปัญหาด้านภาษา ทำให้เขาใช้เวลาว่างในการพัฒนาเพียงลำพัง 

ปี 1923 สโวริกิน จดสิทธิบัตร เกี่ยวกับโทรทัศน์ หมายเลข Pat. 2141059 ในวันที่ ในวันที่ 20 ธันวาคม 1938 

 ปี 1928 เขาพบกับเดวิด ซาร์นอฟ์ฟ (David Sarnoff) ซึ่งเป็นชาวรัสเซียที่อพยบมายังสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน ซาร์นอฟ์ฟ เสนองานใหม่ให้กับเขา โดยให้ทำงานกับบริษัทวิทยุอเมริกา ( Radio Corporation of America (RCA))  ทำให้เข้ามีเงินทุนในการทำวิจัยมากขึ้น และได้พัฒนาหลอกภาพ CRT ที่มีความคมชัดสูงขึ้นจนสำเร็จ ในปี 1931 , เขาได้นำมันมาแนะนำในที่ประชุมของสมาคมวิศวกรรมวิทยุแห่งสหรัฐ (American Society of Radio Engineers)  ในปี 1933 

ปี 1933 นี้เองที่เขาเดินทางไปยุโรป และได้กลับสหภาพโซเวียตเป็นครั้งแรกหลังสงคราม เขาไปเพื่อช่วยให้ RCA เจรจากับโซเวียตง่ายขึ้น ในการทำสัญญาก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ TK-1 ขึ้นครั้งแรกในปี 1938

1933 ทีมวิจัยของ RCA  โดยทีมวิจัยของซโวริกิน พัฒนากล้องถ่ายภาพโทรทัศน์ (TV camera tube) ซึ่งพวกเขาเรียกมันว่าเป็น Iconoscope มันมีความชัดเจน 375 เส้นในแนวนอนเท่านั้น ก่อนที่จะถูกซื้อสิทธิบัตรไปโดยชาวอังการี ชื่อ คาลแมน ติฮานยี (Kalman Tihanyi) ซึ่งเอาไปพัฒนาต่อจนคุณภาพของหลอดโทรทัศน์ทำงานได้ดีขึ้น และในปี 1935 มันถูกผลิตในเยอรมัน ก่อนที่จะกลายเป็นเครื่องมือในการออกอากาศการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคในเบอร์ลิน ปี 1936  โดยมีความคมชัด 405 เส้น 1951 เขาแต่งงานครั้งที่สองกับ แคทเธอรีน โฟเลวิตสกี (Katharine Polevitzky) เป็นชาวรัสเซียอพยพ ที่ทำงานเป็นศาสตราจารย์ด้านแบคทีเรีย ในมหาวิทยาลัยเฟนซิวาเนีย การแต่งงานครั้งใหม่นี้ทำให้เขาสนใจด้านชีววิทยามากขึ้น เขาเปิดหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับวิชาวิศวกรรมการแพทย์ และวิศวกรรมชีววิทยา กลายเป็นผู้ก่อตั้งและประธานคนแรกของสหพันธ์วิศวกรรมการแพทย์และชีววิทยานานาชาติ (International Federation for Medical and Biological Engineering) เขานำความรู้ในการสร้างโทรทัศน์มาสร้างกล้องไมโครสโคปแบบสี สำหรับการศึกษาเซลล์ พัฒนากล้องขนาดเล็กสำหรับถ่ายภาพในลำไส้ และส่งสัญญาณด้วยภาพด้วยคลื่นวิทยุ พัฒนาอุปกรณ์สำหรับมองกลางคืน และยังมีส่วนในการสร้างเรดาห์นำวิถีและคอมพิวเตอร์พยากรณ์อากาศด้วย

1967 เขาและภรรยาเดินทางกลับสหภาพโซเวียต เป็นครั้งสุดท้ายของเขา แม้ว่ารัฐบาลโซเวียตจะเสนอให้ทุนเขาวิจัยหากกลับมาอยู่ในโซเวียตแต่เขาก็เลิกที่จะอยู่ในสหรัฐต่อไป

เขาเสียชีวิตเมื่อ 29 กรกฏาคม 1982 ในพรินตัน นิวเจอร์ซีย์ อายุ 94 ปี
เขามีผลงานจดสิทธิบัตรไว้กว่า 120 เรื่อง ได้รับรางวัลเชิดชูเกียติ ได้แก่

  • National Medal of Science USA ( 1966 ) 
  • Morris Liebmann Award (1934) 
  • Medal of Honor of the Institute of Radio Engineers (1951) 
  • Edison Medal (1952)

ตั้งแต่ปี 1952-1986 สมาคมวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล้กทรอนิสต์ (IEEE) มอบรางวัลแต่วิศวกรที่ทรงคุณค่า โดยใช้ชื่อรางวัลว่า รางวัลสโวริกิน ก่อนที่ชื่อรางวัลนี้จะตกเป็นกรรมสิทธิของสหพันธ์วิศวกรรมการแพทย์และชีววิทยานานาชาติ

บิดาของโทรทัศน์ วลาดิมีร์ ซโวริกิน พูดเกี่ยวกับโทรทัศน์เอาไว้ว่า 

ผมเกลียดสิ่งที่มันทำกับลูกๆ ของผม … ผมไม่เคยอนุญาตให้ลูกผมดูมัน

I hate what they’ve done to my child…I would never let my own children watch it.

สวิตช์ , ใช้สำหรับปิดสิ่งเลวร้าย

The switch. The switch to turn the damn thing off.

Don`t copy text!