Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Ivan Fyodorov

อิวาน ฟิโดรอฟ (Иван Фёдоров)

ผู้บุกเบิกการพิมพ์ในรัสเซีย


เขาเกิดระหว่างปี 1510-1530 นักประวัติศาสตร์ยังไม่ทราบปีเกิดที่แน่นอนของเขา รวมถึึงสถานที่เกิดด้วย นักประวัติศาสตร์บางท่านเชื่อว่าเขาเกิดในมอสโคว์หรืออาจจะเป็นนอฟโกรอด จากตราสัญลักษณ์ที่เขาพิมพ์ออกมา คล้ายกับของตระกูลราโกซ่า (Ragoza) ซึ่งตรานี้ใช้กันในหลายครอบครัวในเบรารุส ยูเครนและโปแลนด์ แต่ก็มีบางท่านที่เชื่อว่าเขาเป็นคนเปตโกวิค (Petkovic) โดยกำเนิด ซึ่งอยู่ในเบลารุสปัจจุบัน

1929 จากงานเขียนของ อี. เนมิรอฟสกี (E. Nemirovsky) กล่าวว่า ฟิโดรอฟย้้ายจากเมืองเปตโควิชิ (Petckovichi) ไปยังคราคอฟ เพื่อเรียนมหาวิทยาลัย
1532 เขาจบปริญญาตรีจาก Jariellonion เมืองคราคอฟ ประเทศโปแลนด์ เอกสารการศึกษาระบุว่าเขาใช้ชื่อ Johannes Theodori Moscus แม้จะไม่ได้ระบุสาขาที่เรียน แต่ว่ามหาวิทยาลัยนั้นมีชื่อเสียงในเรื่อวรรณกรรมกรีกและโรมันโบราณ รวมถึงภาษากรีก ฮิบรู และปรัญชา และในตอนนั้นมหาวิทยาลัยก็เป็นที่นิยมสำหรับคนหลายเชื้อชาติไม่เฉพาะชาวโปแลนด์เท่านั้น นักประวัติศาสตร์บางท่านเชื่อว่าเขาน่าจะได้ทำงานในห้องการพิมพ์ภาษาลาตินหรือโปแลนด์ ซึ่งทำให้เขาได้เรียนรู้การใช้เครื่องพิมพ์ Schweipolt Fiol ซึ่งสร้างโดยชาวเยอรมัน

1550 ข้อมูลบางส่วนบอกว่าเขาอยู่ในยูเครน และกลายเป็นผู้คิดค้นปืนใหญ่ เขาอ้างว่าตัวเขาเป็นผู้สร้าง multibarreled mortar (ปืนใหญ่ชนิดหนึ่ง) ช่วง 1550s นี้ เขาก็ได้เดินทางไปยังมอสโคว์ และได้บวชเป็นพระประจำอยู่ที่วิหาร เซนต์นิโคลัส กอสตันสกี (St. Nicholas Gostunsky Church) ตั้งอยู่ในพระราชวังเครมลิน โดยเขาอยู่ใต้อุปการะของ มาคาเรียส (Macarius)

1553 ได้มีการก่อตั้งโรงพิมพ์แห่งแรกในรัสเซียตามคำสั่งของ ซาร์ อีวาน ที่ 4 (Ivan IV) โดยภายหลังถูกเรียกว่าเป็นสำนักพิมพ์นิรนาม สำนักพิมพ์นี้ไม่เคยมีผลงานเป็นเล่มออกมาเลย มีเพียงตัวอย่างการพิมพ์เป็นแผ่นๆ
1563 เขามีผลงานพิมพ์เกี่ยวกับศาสนาออกมา โดยร่วมกับพี. มันซิสลาเวต์ส ( P. Mstsislavets )โดยงานพิมพ์ของเขาใช้เครื่องพิมพ์ที่เคลื่อนที่ได้ หนังสือเล่มแรกที่พิมพ์ออกมาโดยมีชื่อฟิโอโดรอฟ คือ The Apostle (Апостол) โดยมีทั้งตัวหนังสือและภาพประกอบ 19 เมษายน 1563 จึงเป็นวันที่รัสเซียมีหนังสือที่สร้างจากการพิมพ์ อย่างเป็นทางการครั้งแรก

หนังสือเล่มต่อมาคือ Breviary (Часовник)เทคนิคการพิมพ์หนังสือของพวกเขาทำให้ผู้ที่ประกอบอาชีพรับเขียนไม่พอใจ และได้กลั่นแกล้งฟีโอโดรอฟและพี. มันซิสลาเวต์สในปีนี้เองมากาเรียสก็เสียชีวิตไป ทำให้ทั้งคู่ขาดคนคอยคุ้มครอง

1565 มีผลงานพิมพ์หนังสือ Horologion

1566 โรงพิมพ์ของเขาถูกวางเพลิง และเครื่องพิมพ์ก็เสียหาย ทำให้ฟีโดโอรอฟ และมันซิสลาเวต์ส และลูกชายของฟีโดโอรอฟ (ชื่อ อีวาน) หนีออกจากมอสโคว์  ไปอยู่กับ แกรนด์ ดัชชี แห่งลิทัวเนีย (Grand Duchy of Lithuania)ชาวลิทัวเนีย ชือเฮตแมน คอชเกวิช ( Hetman Grzegor Chodkiewicz หรือ Hryhoriy Khodkevych) นักการเมืองผู้นับถือนิกายออโธดอกซ์ได้เชิญพวกเขาทั้งสามคนไปยังคฤหาสน์ซาบลูโดว์ (Zabludow)  ซึ่งก็กลายมาเป็นโรงพิมพ์แห่งใหม่

1569 ที่ซาบลูโดว์ นี้ได้พิมพ์หนังสือชื่อ Didactic Gospel (หนังสือรวมหลักคำสอนของศาสนา)

1569 มัสซิสลาเวตส์ ได้ตัดสินใจสร้างโรงพิมพ์ของตัวเอง ในเมืองวัลโน่ (Valno) แต่ว่าฟีโดรอฟ ยังคงทำงานอยู่กัซาบลูโดว์1570 หนังสือ Psalter (หนังสือรวมบทสวดมนต์) มันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาก โดยหน้าปกมีตราของกษัตริย์เดวิดและตระกูลคอชเกวิช และยังมี 4 ฉบับคงอยู่จนปัจจุบันหนังสือที่ถูกพิมพ์ที่ซาบลูโดว์นี้ เขาเขียนคำว่า “ชาวมอสโคว์ The Muscovite” ต่อท้ายชื่อตัวเองตามธรรมเนียมที่จะระลึกถึงบ้านเกิด คอชเกวิช มีอาการป่วยอย่างหนักทำให้เขาเลิกสนใจธุรกิจโรงพิมพ์ และโรงพิมพ์ได้ปิดตัวลงในปี 1572
1572  ฟีโดรอฟและลูกชายอีวานย้ายไปอยู่ที่เมืองลีฟ ( Lviv) ในยูเครน และยังคงทำงานเกี่ยวกับการพิมพ์ต่อที่ิวิหารเซนต์โอนุเฟรียส ( Saint Onuphrius Monastery) ไม่นานเขาก็ตั้งโรงพิมพ์ของตัวเองขึ้นมา โดยได้รับเงินสนับสนุนจากนักธุรกิจทำรองเท้าชื่อ เซนโก้ คาเลนีโกวิช (Senko Kalenykovych) พวกเขาจึงพิมพ์หนังสือ Apostle ออกมาจำหน่าย แต่ว่าไม่นานโรงพิมพ์ก็ขาดเงินทุน พวกเขาก็ย้ายกลับไปมอสโคว์อีก

1575 เจ้าชาย คอนสแตนตี้ ออสตรอกสกี (Prince Konstanty Wasyl Ostrogski) ได้ตั้งสำนักพิมพ์ออสตอก ( Ostrog Press)  ฟิโอโดรอฟ จึงได้ไปทำงานด้วย และได้มีการตีพิมพ์คำภีร์ไบเบิ้ล (Ostrog Bible) ออกมาในปี 1581 เป็นคำภีร์ไปเบิ้ลเล่มแรกที่สร้างโดยการพิมพ์แบบสมบูรณ์ทั้งเล่ม  นอกจากนั้นยังมีหนังสืออีกหลายเล่มถูกพิมพ์ออกมาด้วย

1581 จนกระทั้งเขามีปัญญากับเจ้าชาย เขาจึงได้เดินทางกลับไปเมืองลีฟ และพยายามจะเปิดสำนักพิมพ์ของตัวเองทว่าไม่ประสบผลสำเร็จ เขาหาเลี้ยงตัวเองใหม่โดยการขายปืนใหญ่ที่เขาผลิตขึ้น โดยได้ทำการค้าร่วมกับแดเนียล โคนิก (Daniel Koenig) นักธุรกิจเหล็กในเมืองลีฟ ฟีโดรอฟ เสนอขายปืนใหญ่ใหักับกษัตริย์โปแลนด์ สเตฟาน บาโทรี (King Stefan Batory) เดินทางไปยังเวียนนา เพื่อขายปืนใหญ่อย่างเดียวกับให้กับจักรพรรดิรูดอฟ ที่ 2 (Rudoff II) ซึ่งร่วมทำสงครามต้านตุรกี (ซึ่งเขาอาจจะได้พบกับบางคนในตระกูลสชาเฟนเบิร์ก ( Scharfenberg) ที่มีชื่อเสียงด้านการพิมพ์ในยุโรป)

1583 ขณะเดินทางกลับมายังลีฟ ด้วยความเหนื่อยล้าทำให้เขาเสียชีวิตวันที่  5 ธันวาคม  1583  ร่างถูกนำไปเผาที่ิวิหาร St. Onuphrius 

ในรัสเซียมีการสร้างอนุสาวรีย์ระลึกถึง อีวาน ฟีโดรอฟ แห่งแรกในปี 1909

Don`t copy text!