pravkniga.ru
ฟีดอร์ ตอสโตเยฟสกี (Фёдор Михайлович Достоевский)
นักเขียนอมตะคนหนึ่งของรัสเซีย เจ้าของผลงานอย่าง Crime and Punishment , The Idiot, Brothers Karamazov
เขาเกิดเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 1821 (11 พฤศจิกายน ตามปฏิทินปัจจุบัน) ในมอสโคว์พ่อของเขาชื่อ มิคาเอล (Michael,Михаил Андреевич) ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลมารินสกาย่า (MariinskayaHospital) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสำหรับคนจน มิคาเอลน่าจะมีเชื้อสายมาจากครอบครัวชาวเบลารุสที่มีฐานะ ประมาณปี 1831 มิคาเอลซื้อที่ดินเล็กๆ ในเมืองตุล่า (Tula)
แม่ของเขามาเรีย (Maria,Мария Фёдоровна (Нучаевф)) พ่อแม่เธอมีอาชีพค้าขาย ตอสโตเยฟสกี เป็นบุตรคนที่สองในพี่น้องเจ็ดคน
แม่ของพวกเขาทำหน้าที่เป็นครูในการสอนหนังสือให้กับลูกๆ ซึ่งมีทั้งเรื่องศาสนาและภาษาฝรั่งเศสด้วย
1834 ตอสโตเยฟสกี ถูกส่งไปยังมอสโคว์เพียงคนเดียวเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนประจำ ที่นั้นเขาเริ่มหัดการเขียนรูปและการเขียนนิยายด้วย นักเขียนที่เขาชื่นชอบคือพุชกิ้น ตอสโตเยฟสกี เปรียบพุชกิ้นว่าเป็น สมมุติเทพ (Demigod) หรือ prophet
1837 เมื่ออายุได้ 15 ปี แม่ของเขาก็เสียชีวิตด้วยโรควัณโรค คนที่ทำหน้าที่ดูแลเขาก็เป็นพี่ชายคนโต และในปีก็เป็นปีเดียวกับที่พุชกิ้น เสียชีวิต , พวกเขาย้ายไปอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก พ่อของเขาอยากจะให้เข้าเรียนที่วิทยาลัยวิศวกรรมทหาร (Military engineering college) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในตอนนั้น แต่ว่าตอนเรียนนั้นเขาไม่ค่อยชอบนักและสนใจงานวรรณกรรมมากกว่า
1839 พ่อของเขาเสียชีวิต ว่ากันว่าอาจจะถูกทาสของตัวเองทำร้ายจนตาย เพราะว่ามิคาเอลเองดูเหมือนจะเป็นนายทาสที่ทารุณ
1843 มีผลงานแปลเรื่อง Eugenie Grandet (Евгению Гранде) แต่งโดย Honore de Balzac
1844 ตีพิมพ์นิยายเรื่องแรกของเขาเอง Poor Folk (Бедные Люди) มันได้รับความนิยมอย่างมาก แต่หนังสือเรื่องต่อมา The Double (Двойник) กลับไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก
1847 The Land lady
1848 หนังสือเล่มใหม่ชื่อ White Nights (Белых Нщчей) ซึ่งหลังจากหนังสือวางจำหน่ายไม่นานเขาเองถูกจับ
1849 ในคืนวันที่ 23 เมษายน 1849 ดอสโตเยฟสกี ถูกจับในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มของ Petrashevsky ซึ่งเปทราเชฟสกี ตั้งกลุ่มขึ้นมาและกล่าวโจมตีสถาบันกษัตริย์และระบบทาส ซึ่งมันกลายเป็นชุมชนลับที่สนับสนุนรูปแบบปฏิวัติและสังคมนิยมแบบฝรั่งเศส เขาถูกจำคุกเป็นเวลา 8 เดือนระหว่างรอการพิพากษา ระหว่างที่อยู่ในคุก เขาเขียนหนังสือเรื่องใหม่ A Little Hero ในปีนี้เขามีหนังสือตีพิมพ์ออกมาชื่อ Netochka Nezvanova
22 ธันวาคม ศาลตัดสินประหารชีวิตเขา และตอนช่วงสุดท้าย เขาและนักโทษถูกนำตัวไปที่จตุรัสเซเมนอฟสกี (Semenovsky square) เพื่อรับโทษ แต่วินาทีสุดท้ายซาร์นิโคลัส ที่ 1 ตัดสินใจเปลี่ยนโทษประหารเป็นการใช้แรงงานหนัก เป็นเวลา 4 ปีแทน ความรู้สึกหวาดกลัวของเขาถูกถ่ายทอดลงในหนังสือ The Idiot ในภายหลัง
1850-1854 เขาถูกขังในคุกคาตอร์ก้า (Katorga) ในเมืองโอมส์ก (Omsk) ไซบีเรีย
1854 หลังจากพ้นโทษ เขาถูกเกณฑ์เข้ารับราชการทหาร ในไซบีเรีย ทำให้เขาต้องไปประจำในค่ายทหารในเมืองเซมิปาลาตินส์ก ( Semipalatinsk) อยู่ในคาซัคสถานปัจจุบัน เขาอยู่ในกองทัพเป็นเวลา 5 ปี และระหว่างนี้เขาได้มีความสัมพันธ์กับมาเรีย ดมิทรีเยฟน่า (Maria Dmitrievna,Марией Дмитриевной Исаевой) เธอมีสามีเป็นครูอยู่แล้วชื่ออเล็กซานเดอร์ (Alexander Isaev) แต่ต่อมาอเล็กซานเดอร์เสียชีวิตในปี 1855
1857 ดอสโตเยฟสกี แต่งงานกับมาเรีย ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ในวิหารออโธดอกซ์ในเมืองคุซเนตส์ก (Kutnetsk) และหลังจากแต่งงานได้ย้ายไปยังเมืองเซมิปาลาตินส์กทันที่ แต่ว่าระหว่างเดินทางดอสโตเยฟสกี มีอาการป่วยด้วยโรค Epileptic (การสั่งการของสมองผิดปกติ) ทำให้ต้องหยุดพักที่เมืองบาร์นัวล์ (Barnaul) เป็นเวลา 4 วัน ก่อนที่จะเดินทางถึงเซมิปาลาตินส์กในวันที่ 20 ก.พ.
1859 ได้รับอนุญาตให้เกษียณ 2 กรกฏาคม เขาจึงย้ายไปยังเมืองทีเวอร์ (Tver) และได้เขียนนวนิยายออกมาสองเรื่อง
- Uncle’s Dream (Дядюшкин сон )
- The Village of Stepanchikovo (Село Степанчиково и его обитатели )
1860 เขาและภรรยาย้ายมายังเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ทั้งคู่รับเด็กมาเลี้ยงคนหนึ่ง ชื่อพอล (Paul)
1861 ภรรยาของเขามาเรียเริ่มมีอาการป่วยด้วยโรควัณโรค ทำให้ครอบครัวมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายพอสมควรเพื่อหาเงินมาจ่ายค่ารักษา ดอสโตเยฟสกี ร่วมทำแม็กกาซีน Time (Время) ร่วมกับพี่ชายคนโตของเขาไมเคิ้ล มันได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และเขาก็พิมพ์นิยายของเขาเรื่อง
- The Insulted and Humiliated (ниженные и оскорблённые)
- The House of the Dead(Записки из мёртвого дома)
- Winter Nots on Summer Impressions(Зимние заметки о летних впечатлениях)
- Note from Underground ( Записки из подполья )
และเรื่องสั้น A Nasty Story ลงในแม็กกาซีนนี้
1862 เขาเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส สวิสแลนด์ อิตาลีและอังกฤษ ในปารีสเขาได้มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงชื่อซุซโลว่า (Appolinaria Suslova) เธอกลายบุคคลิกของตัวละครในหนังสือ Idiot ของเขา
1864 เขาเดินทางกลับมารัสเซียในปี 1963 แต่ในปี 1964 นี้เขาต้องเสียภรรยาไปด้วยโรควัณโรคในเดือนเมษายน และต่อมาในเดือนมิถุนายน พี่ชายของเขาก็เสียชีวิตไปอีกคน ดอสโตเยฟสกี จึงเริ่มทำหนังสือแม็กกาซีนเล่มใหม่แทน ชื่อ Epoch (Эпоха) แต่ว่ามีปัญหาเรื่องหนี้สินทำให้ต้องปิดตัวลงในไม่นาน
1865 เดินทางไปยังเยอรมันเพื่อรักษาสุขภาพ เขาไปอยู่ในเมืองเวสบาเดน (Wiesbaden) และเริ่มเขียนวรรณกรรมอมตะ Crime and Punishment (Преступления и наказания) เขาส่งมันกลับมาพิมพ์ในรัสเซียเป็นตอนๆ
1866 เขาหมดสัญญากับสำนักพิมพ์ ทำให้ต้องเขียนงานเพิ่มขึ้นทั้ง Crime and Punishment และ The Gambler(Игрок) ซึ่งเขาได้ว่าจ้างหญิงคนหนึ่งชื่อแอนนา (Anna Snitkina) มาเป็นผู้ช่วยในการจดบันทึก ต่อมาทั้งคู่จึงได้แต่งงานกันในปีต่อมา
หลังจากแต่งงานทั้งคู่เดินทางไปเที่ยวทั้งในเยอรมันและอิตาลี เขาเริ่มเขียน The Idiot (Идиот)
1971 เขาและภรรยาเดินทางกลับมารัสเซีย และในเดือนพฤษภาคมได้ย้ายจากเซนต์ปีเดอร์เบิร์ก ไปยังเมืองสตาราย่า (Staraya) ในเขตนอฟโกรอด ซึ่งต่อมาได้ซื้อที่ดินและมีลูกด้วยกันสองคน
1872 ตีพิมพ์วรรณกรรมเล่มใหม่ The Possessed (Бесы) บางที่ภาษาอังกฤษเรียกชือว่า The Demons ปีนี้เขายังได้ทำแม็กกาซีน Citizen และได้เขียนคอลัมน์ A Writer’s Diary(Дневник писателя) ซึ่งเป็นบทความแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเมือง วรรณกรรม เรื่องสั้นและภาพวาดในคอมลัมน์นี้ ซึ่งเขาเขียนไดอารีนี้ไปเรื่อยๆ จนปี 1877
1875 Teenager (Подросток)
1876 A Gantle Creature (Кроткая)
1877 ดอสโตเยฟสกีได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ Academy of Sciences
1879 The Brothers Karamazov ( Братья Карамазовы)
เขาได้เดินทางไปลอนดอนเพื่อร่วมประชุมนักเขียนนานาชาติ (International Literary congress) และได้รับตำแหน่งสมาชิกกิตติมาศักดิ์ในสมาคมนักเขียน (Intenational Literature Association)
1881 เขาตั้งใจจะเขียน A Writer’s Diary ต่อ แต่ว่าเขาเสียชีวิตก่อนในคือวันที่ 26 มกราคม มีผู้คนมากมายมาร่วมในพิธีเผาศพเขาในวันที่ 31 มกราคม ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก
