มิคาอิล โคชกิ้น (Михаил Ильич Кошкин)
ผู้สร้างรถถัง T-34
เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 1898 ในเขตยาโรสลาฟ ครอบครัวมีฐานะที่ยากจน พ่อของเขาทำงานเป็นชาวประมงและแรงงานในการตัดไม้ พ่อของเขาเสียชีวิตตั้งแต่ปี 1905 จากการถูกต้นไม้ล้มทับระหว่างการตัด ทำให้แม่ต้องคอยดูแลลูกสามคนเพียงลำพัง โคชกิ้นจบการศึกษาจากโรงเรียนในเมืองที่เขาอยู่ แค่ชั้น ป. 3
1909 ตอนอาายุแค่ 11 ปี ก็เริ่มทำงานในโรงงานผลิตลูกอมแห่งหนึ่งในเมืองวีแยตก้า เขตมอสโคว์ จนกระทั้ง 1917
1917 สมัครเข้าเป็นทหาร ตอนเดือนกุมภาพันธ์ เขาสังกัดหน่วยทหารปกที่ 58 ด้านแนวรบตะวันตก แต่พอเดือนสิงหาคมก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถูกส่งตัวมารักษาตัวในมอสโคว์ พอปลายปีก็ถูกปลดออกจากกองทัพ
1918 อาสาเข้าร่วมกับกองทัพแดง เข้าร่วมรบในแนวหน้าของสงคราม
1921 หลังจากสงครามสงบ กองทัพส่งให้เขาเรียนกที่ Moscow Communist University (Yakov Sverdlov)
1924 จบการศึกษา และได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลโรงงานลูกอมที่เขาเคยทำงานอยู่ ระหว่างที่ทำงานที่นี่เขาก็ตัดสินใจเข้าเรียนต่อที่สถาบันโพลีเทคนิคเลนินการ์ด (Leningrad Polytechnic Institute) ซึ่งเป็นสถาบันออกแบบสร้างรถยนต์และแทรกเตอร์ในเวลานั้น
1934 หลังจากเรียนจบ เขาทำงานที่โรงงานผลิตรถถังคีรอฟ (Kirov plant)
1936 ได้รับรางวัล Order of the Red Star จากความสำเร็จในการร่วมออกแบบรถถัง T-111 ที่คีรอฟ นี้
1937 ถูกส่งไปยังโรงงานคาคอฟ (Khakov Locomotive Plant) ในยูเครน ทำหน้าที่หัวหน้าในโรงงานหมายเลข 183 ตามคำสั่งให้พัฒนารถถังรุ่นใหม่มาทดแทนรถถังตระกูล BT ซึ่งเขาได้ออกแบบรถถังรุ่นใหม่ 2 รุ่น คือ A-20 และ A-32 ทั้งสองรุ่นใช้เครื่องยนต์ V-2 ซึ่งเป็นผลงานที่พอใช้ได้ แต่รัฐบาลต้องการให้มันดีกว่านี้อีก เพราะยังไม่เห็นว่ามีจุดเด่นเหนือกว่าของต่างชาติในเวลานั้น
1940 โคชกิ้นสร้างรถถังรุ่นใหม่ เสร็จในเดือนมกราคม คือ T-34 เขาทดสอบมันโดยการขับจากคาร์คอฟ ไปยังมอสโคว์ ระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร เริ่มออกเดินทางในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และไปถังมอสโคว์ในวันที่ 17 พฤษภาคม T-34 ถูกนำไปโชว์ให้เครมลินเห็นที่จตุรัสอีวาน หลังจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปฟินแลนด์ก่อนจะเดินทางกลับมายังยูเครน การเดินทางระยะทางไกลเพื่อทดสอบรถถัง T-34 นี้ เป็นสาเหตุให้เขาป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่ตัวเขาเองปฏิเสธการรักษาอย่างทันท่วงที่ ทให้แพทย์พบเขาตอนที่อาการหนักและมีอาการปอดปวมแล้ว มิคาอิล โคชกิ้น เสียชีวิต ในวันที่ 26 กันยายน 1940
1942 เขาได้รับเหรียญรางวัล Stalin Prize และ Order of the Red Star ย้อนหลัง และต่อมา T-34 ก็พิสูจน์ตัวเองในสงครามโลก ครั้งที่ 2 ว่าดีที่สุดในยุคนั้น