Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Nikolai Leskov

นิโคไล เลสกอฟ (Николай Семёнович Лесков)

    นักเขียนเจ้าของผลงาน Lefty ,The Cathedral Clergy  etc. 

เกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตออร์โยล (Oryol region) ในรัสเซียตอนกลาง เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1831

พ่อของเขา เซเมียน (Semyon Dmitrievich Leskov) เป็นผู้พิพากษาในศาลอาญา ส่วนแม่ ชื่อมาเรีย (Maria Petrovna Leskova(Alferyeva)) มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี มาเรียพบรักและแต่งงานกับเซเมียน ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่อเขามาทำงานพิเศษเป็นครูสอนหนังสือในบ้านของเธอ

เลสคอฟ ใช้ชีวิตวัยเด็กในเมืองที่เขาเกิด โดยอาศัยอยู่ในบ้านของญาติฝ่ายแม่ที่มีฐานะดี ซึ่งตอนนั้นพ่อแม่ของเขาไม่ร่ำรวยและไม่มีเงินส่งให้เขาเรียนหนังสือ คนที่สอนหนังสือให้กับเลสคอฟก็คือญาติของเขาเอง ซึ่งหาครูมาสอนพิเศาให้เขาทำให้เขาสามารถอ่านภาษารัสเซีย เยอรมัน และฝรั่งเศส 1841 สิงหาคม

ตอนอายุ 10 ขวบ เลสคอฟ ก็เข้าเรียนหนังสือในโรงเรียนครั้งแรก ที่โอเรลยิมเนเซียม (Orel provicial gymnasium)

1847 เขาสมัครเข้าทำงานในศาลอาญา ที่พ่อของเขาทำงานอยู่

1848 พ่อของเขาเสียชีวิต ด้วยโรคอุจจาระร่วงอย่างรุนแรง

1849 เขาขอย้ายที่ทำงานไปอยู่ในเมืองเคียฟ ในยูเครน โดยตัวของเขานั้นไปอาศัยอยู่ที่บ้านของลุง S.P. Alferyev ซึ่งเป็นอาจารย์สอนการแพทย์ เลสคอฟทำงานเป็นผู้ช่วยอยู่ในสำนักงานคลังประจำเมือง ระหว่างที่อยู่ในยูเครน 1849-1857 นี้ เขาอาสาสมัครเป็นอาจารย์สอนเลคเชอร์ในมหาวิทยาลัย เพื่อที่ตัวเขาเองจะได้เรียนภาษาโปแลนด์และยูเครน ไปด้วย ซึ่งระหว่างนี้ทำให้เขาสนใจศึกษาในเรื่องเกี่ยวกับ ปรัญชา ศาสนา สัญลักษณ์ศาสตร์ ตามนักเรียนที่อยู่รายรอบ เลสคอฟ เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนให้มีการเลิกทาสในรัสเซ๊ยด้วย โดยได้อิทธิพลมาจากนักเศรษฐศาสตร์ D.P. Zhuravsky

1953 6 เมษายน แต่งงานกับ โอลก้า สเมอร์นอฟว่า (Ольге Васильевне Смирновой,Olga Vasilievna Smirnova) ลูกสาวของพ่อค้าในเมื่องเคียฟ ซึ่งต่อมาโอลก้าให้กำเนิดลูกชาย ดมิทรี วันที่ 23 ธันวาคม 1854 แต่เขาเสียชีวิตในปีถัดมา ทั้งคู่ยังมีลูกสาวอีกคนหนึ่งชื่อ เวร่า (Vera) เกิดในวันที่ 8 มีนาคม 1856 ชีวิตครอบครัวไม่ราบรื่นเลย ภรรยาของเขาป่วยด้วยอาการทางจิต ช่วงปี 1878 จนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเซนต์นิโคลัส ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก โอลก้า เสียชีวิตในปี 1909

1857 เขาลาออกจากที่ทำงาน และเข้าทำงานกับบริษัทการค้า Scott & Wilkins ของอเล็กซานเดอร์ สก็อต ซึ่งเพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ และต้องการพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง พฤษภาคม เขาพาครอบครัวย้ายไปอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดเพนซ่า (Penza governorate) ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของบริษัทที่เขาทำงาน บริษัทแห่งนี้ทำงานส่งแรงงานชาวนา ทาส ไปยังเมืองต่างๆ ซึ่งทำให้เลสคอฟ ได้เดินทางไปยังตอนกลางของประเทศในช่วงนี้

1960 บริษัทที่เขาทำงานปิดตัวลง ในเดือนพฤษภาคมเขาได้พาครอบครัวกลับมาอาศัยในเคียฟ เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขาเริ่มงานเขียนหนังสือของตัวเอง เริ่มมีผลงานเขียน Sketches on Wine Industry Issues เนื้อหาเกี่ยวข้องกับการประท้วงต่อต้านแอลกอฮอล์ ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในโอเดสสา นอกจากนั้นยังเขียนบทความเกี่ยวกับการแพทย์และการต่อต้านคอร์รัปชั่นลงในหนังสือพิมพ์ด้วย ,หกเดือนต่อมาในช่วงปลายปี เขาย้ายบ้านอีกครั้งมาอยู่ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และมีผลงานเขียนลงหนังสือพิมพ์ Otehestvennye Zapiski(Отечественных записках~ Note of The Fatherland) ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เป็นประจำ

1861 ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เขาอาศัยอยู่กับ ศจ. อีวาน เวอร์นาดสกี ( Prof. Ivan vernadsky) และเริ่มพิมพ์ผลงาน Notes on the Distillation Industry แต่ว่าเขาอยู่ในเมืองนี้ไม่นานก็เดินทางไปมอสโคว์ เขาทำงานให้กับหนังสือพิมพ์ Russkaya Retch และยังคงส่งผลงานไปตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Otechestvennye Zapiski ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์กด้วย ธันวาคม ออกจาก นสพ. Russkaya Retch และกลับไปอยู่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และทำงานให้กับหนังสือพิมพ์เล็กๆ ชื่อ Severnaya ptchela (Северная пчела ~ The Northern Bee)ของ Pavel Usov ชาวโปแลนด์อังกฤษ ซึ่งนั้นทำให้เลสคอฟ ถูกผู้นิยมฝ่ายซ้ายซึ่งขยายตัวทั่วเซนต์ปีเตอร์เบิร์กโจมตีว่าทำงานให้กับสายลับของอังกฤษ เลสกอฟ ใช้นามปากกาว่า M. Stebnitsky กับหนังสือพิมพ์นี้ ระหว่างปี 1862-1869

1862 30 พฤษภาคม 1862 บทความหนึ่งของเลสคอฟ ตีพิมพ์งใน The Northern Bee เขาเขียนมันโดยอ้างถึงข่าวลือ ที่ว่านักศึกษาที่เรียกร้องการปฏิวัติและพวกโปแลนด์ มีแผนที่จะเผาอาคาร ทำให้เขาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกมายืนยันหรือว่าปฏิเสธข่าวดังกล่าว แต่ว่าด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ทำให้เขาถูกต่อว่าทั้งจากเหล่านักศึกษาเองว่าถูกกล่าวหา และเจ้าหน้าที่ก็ไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาว่าละเลยหน้าที่ เดินทางไปต่างประเทศ ในฐานะตัวแทนของหนังสือพิมพ์The Northern Bee เขาเดินทางเยือนกรุงปารีส และเมื่องต่างๆ หลายเมืองในฝรั่งเศส ตอนเดือนพฤศิจายน เขาก็ไปถึงกรุงปราก ของเชค และได้พบกับนักเขียนหลายคน เช่น มาร์ติน บรอดสกี (Martin Brodsky) ธันวาคม กลับมาปารีส และได้ทำงานแปลผลงานเรื่อง Twelve Months ของ Bozena Nemcova

1863 เดินทางกลับรัสเซีย และเริ่มสร้างผลงานวรรณกรรมออกมา

  • The Life of One Woman (Житие одной бабы) เป็นผลงานวรรณกรรมเรื่องแรกของเลสกอฟ ถูกพิมพ์ลงในวารสาร Bibleoteka Dlia Chtenia (Библиотека для чтения~ Library for Reading) 
  • The Musk Ox (Овцебык) 1964 No Way Out (Некуда ) พิมพ์ลงใน Library for Reading เช่นกัน เป็นผลงานเขียนแนว Nihilism ซึ่งมันทำให้เขาถูกตำหนิจากเพื่อน ๆ และนักเขียนที่มีแนวคิดฝ่ายซ้าย และถูกประณามว่าเป็นสายลับ ที่เกี่ยวกับ 3rd Section (ตำรวจลับในพระเจ้าซาร์) ผลงานนี้ถูกพิมพ์ออกมาบางส่วนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ก่อนที่ฉบับประจำเดือนเมษายนและพฤษภาคมจะถูกสั่งห้ามพิมพ์ ก่อนที่จะกลับมาพิมพ์ใหม่ในเดือนมิถุนายน 

1865 เขาแต่งงงานใหม่กับหญิงม่ายคนหนึ่ง เยแคทเธอรีน [ Екатериной Бубновой (Савицкой), Ekatherine Bubnov (Savitsky) ] เธอเป็นภรรยาคนแรกที่ถูกต้องตามกฏหมายของเขา ส่วนเวร่า ลูกสาวที่เกิดกับโอลก้า นั้นเขาได้จดทะเบียนเป็นลูกบุญธรรมอย่างถูกต้อง มีผลงาน

  • Lady Macbeth of the Mtsensk District เขาเขียนมันระหว่างปีที่ผ่านมาขณะอยู่ในเคียฟ และพิมพ์ลงในหนังสือแม็กกาซีน Epokha ตอนเดือนมกราคม 
  • The Amazon 
  • The Pass By 
  •  The Embezzler พิมพ์ออกมาในเดือนพฤษภาคม มันถูกนำไปทำเป็นละครเวทีด้วย 

1866 ลูกของเลสคอฟกับแคทเธอรีน เกิดมา มีชื่อว่าแอนเดรย (Andrey Leskov)

1867 มีผลงานเขียนเรื่องชุด 6 ตอนจบ เขาเขียนมันเสร็จในเดือนธันวาคม และตอนที่หนึ่งพิมพ์ออกมากในเดือนกุมภาพันธ์ 1868 ในชื่อ The Stories by M.Stebnitsky Vol.1 และตอนที่สองในเดือนเมษายน แต่ว่าผลงานถูกโจมตีโดยพวกฝ่ายซ้าย 1870 มีวรรณกรรมเรื่อง At Daggers Drawn (На ножах) เป็นผลงานแนว nililists เรื่องสุดท้ายของเขา ซึ่งตอนนั้นเขาเริ่มเห็นว่าผู้ชอบแนวนิลิลิสต์ เริ่มกลายเป็นกลุ่มอาชญากรมากขึ้น และตัวเขาเองอาจจะถูกเชื่อมกับคนเหล่านั้นได้ ภายหลังเลสกอฟจึงบอกว่าไม่ค่อยมีความสุขกับผลงานชิ้นนี้

1871 Grief and Laughter เป็นวรรณกรรมที่ไม่ยาวนักพิมพ์ออกมาในเดือนมีนาคม

1872 The Catherdral Clergy (Соборяне) พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือแม็กกาซีน Russky Vestnik เป็นเรื่องราวแนวโรแมนติกซีรีย์ตามนิยามของเลสกอฟเอง มันถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ 1 ในไตรภาค ร่วมกับ Old Years in Plodamosavo (Старые годы в селе Плодомасове , 1869) และ A Decayed Family (Захудалый род,1874)

1873 The Sealed Angel ( Запечатленный ангел) เขาได้รับแรงบัลดาลใจจากนิทานปรัมปราของรัสเซีย เล่าเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ สัญลักษณ์ ตำนานที่เกี่ยวข้องกับออโธดอก เป็นผลงานหนึ่งที่ได้รับการชื่นชมมากของผู้เขียน และในช่วงปลายปีมีผลงานเรื่อง The Enchanted Wanderer ( Очарованный странник) เป็นวรรณกรรมสั้น พิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ Russky Mir เลสคอฟ ได้แรงบัลดาลใจจากการไปเที่ยวทะเลสาบลาโดก้า (Ladoga Lake) ในปีที่แล้ว และได้เยี่ยมชมมหาวิหารวาราม (Valaam monastery) และเป็นผลงานที่เขาเขียนให้กับเพื่อน Sergey Egorovich Kushelev นายทหารที่พบกับเขาในปีก่อนแล้วขอร้องให้เขาเขียนอะไรให้เขาหน่อยเพื่อที่เขาเอาไปถวายให้ซาร์ดิน่า มาเรีย อ่าน

1874 A Decayed Family พิมพ์ออกมา แต่มันเป็นผลงานที่เขียนไม่จบ มีเพียงตอนที่ 1,2 เท่านั้น เพราะเมื่อตอนที่ตอนที่ 2 ถูกพิมพ์ออกมานั้น Mikhail Katkov เจ้าของแม็กกาซีน Russky Vestnik ก็ไม่พอใจเขา เนื่องจากหนังสือวิจารณ์ความเชื่อในศาสตร์มืดของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์และวิจารณ์ความไม่ลงรอยกันระหว่างชาวออโธดอกซ์และคริสเตียนในรัสเซีย

1875 เขาเดินทางไปต่างประเทศอีกเป็นครั้งที่สอง ไปปารีส ก่อนที่จะไปปรากและเดรสเดน

1877 The Cathedral Fold ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะจากจักรพรรดินีมาเรีย (Empress Maria Aleksandrovna) ทำให้เขาได้เข้าทำงานในกรมการศึกษา กระทรวงการคลัง (Education department, Ministry of Government Property)

1879 The Righteous (Праведники) เป็นผลงานรวมงานเขียนเรื่องสั้นหลายเรื่อง Shape(Фигура), Man on The Clock(Человек на часах) , Golovan (Несмертельный Голован)

งานระยะหลังของเขาให้ความสำคัญกับศาสนา และการเขียนเรื่องสั้นแนวตำนานปรัมปรา ผลงานอย่าง Golovan ยังบรรยายความทรงจำของเขาในวัยเด็กด้วย เช่นเดียวกับ Scarecrow(Пугало,1885), Vale((Юдоль)1892)

1881 The Tale of Cross-eyed Lefty from Tula and the Steel Flea(Левша) ผลงานเรื่องสั้นที่รู้จักกันดีเรื่องหนึ่งของเขาถูกเขียนขึ้นในแนวนิทานพื้นบ้าน เรื่องของชายตาบอดข้างซ้ายจากเมืองตุลา ที่สามารถสร้างหุ่นกลไกขนาดเล็กเท่าตัวหมัดได้

ผลงานเรื่อง The Falcon Drive ( Соколий перелет ) เขียนในปี 1883 ลงใน Gazeta Gatsuka ถูกพิมพ์ออกมาบางส่วน บนที่ 1-4 ก่อนที่จะถูกเซ็นเซอร์ และ The Unseen Trace ( Незаметный след ) ถูกพิมพ์ถึงบทที่ 25 ก่อนถูกแบนเช่นกัน และผลงานบทที่เหลือสาบสูญไป และตลอดบั่นปลายชีวิต เขาต้องเผชิญกับวิบากกรรมในการถูกห้ามเผยแพร่ผลงานอยู่หลายเรื่อง

1895 นิโคไล เลสกอฟ เสียชีวิตในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก 5 มีนาคม (21 กุมภาพันธ์ ปฏิทินเดิม) จากโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (angina) ซึ่งเขาเป็นมานาน และถุกฝังที่สุสาน Volkovskoe cemetery ในวันที่ 7 มีนาคม

งานบางส่วน 

  • 1863 The Life of One Woman (Житие одной бабы
  • 1863 The Musk Ox (Овцебык
  • 1864 Nowhere (Некуда
  • 1865 Lady Macbeth of the Mtsensk District (Леди Макбет Мценского уезда
  • 1865 The Pass By (Обойдённые
  • 1866 Warrior (The Amazon)(Воительница
  • 1866 Islander (Островитяне
  • 1867 Waster(The Embezzler)  (Расточитель
  • 1869 Old Years in Plodamosavo (Старые годы в селе Плодомасове
  • 1870 At Daggers Drawn (На ножах
  • 1871 Grief and Laughter (Смех и горе
  • 1872 The Catherdral Clergy (Соборяне
  • 1872 A mysterious man (Загадочный человек
  • 1873 The Sealed Angel ( Запечатленный ангел
  • 1873 The Enchanted Wanderer ( Очарованный странник
  • 1874 A Decayed Family (Захудалый род
  • 1875 At Wolrd’s End (На краю света
  • 1877 Not baptized pop (Некрещенный поп
  • 1878 The Bishop’s Trifles of Life (Мелочи архиерейской жизни
  • 1880 Non-lethal Golovan (Несмертельный Голован
  • 1881 Lefty (Левша) 1882 The Synodal Person (Синодальные персоны
  • 1882 Kuvyrkollegiva Jew (Жидовская кувырколлегия
  • 1883 Toupee Artist (Тупейный художник
  • 1884 Selective grain (Отборное зерно
  • 1884 Old Genius (Старый Гений
  • 1885 The Scarecrow (Пугало
  • 1887 Man On the Clock (Человек на часах
  • 1887 Shameless (Бесстыдник
  • 1887 Buffoon Pamfalon (Скоморох Памфалон
  • 1890 Devil Doll (Чёртовы куклы
  • 1890 Offended Netala (Оскорблённая Нетэта
  • 1891 Polunoschniki (Полунощники
  • 1892 Pustoplyasy (Пустоплясы
  • 1893 Administrative Grace (Административная грация
  • 1894 Remise Rabbit (Заячий ремиз
  • Ghost in the Engineering Castle (Привидение в инженерном замке)
Don`t copy text!