Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Plutarch

พลูตาร์ช (Πλούταρχος)

พลูตาร์ช เกิดในปี 46 ในเมืองชาโรเนีย (Chaeronea) เขตไบโอเทีย (Boeotia) อาณาจักรโรมัน บริเวณประเทศกรีซ เขาเกิดในสมัยของจักรพรรดิเนโร (Nero) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โรมันอยู่อย่างสงบสุข และศัตรูภายนอกที่แข็งแกร่งไม่มี
ครอบครัวของเขามีฐานะร่ำรวย   ปู่ของเขาชื่อว่านิการ์คอส (Nikarchos)  และพ่อชื่ออริสโตบูรัส (Aristobulas) มีเป็นนักประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับพลูตาร์ช  
เขามีพี่น้องอีกอย่างน้อยสองคนชื่อ ทิมอน (Timon) และแลมเปรียส (Lamprias

66 A.D. พลูตาร์ช เข้าเรียนหนังสือที่ในเอเธนส์ ด้านปรัชญาและคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนหลายแห่ง อาจารย์คนสำคัญของเขาคือ แอมโมเนียส (Ammonius) ซึ่งเป็นนักปราญตามแนวคิดของเพลโต (Plato)  แต่พลูตาร์ชเป็นคนเปิดกว้าง เขายังเข้าเรียนในโรงเรียน Stoa  และโรงเรียนที่สอนตามแนวคิดของอลิตโตเติ้ลด้วย ซึ่งบางครั้งเขาก็เดินทางมากรุงโรมเพื่อฟังบรรยายด้านปรัชญา 
ในปีนี้พลูตาร์ช มีโอกาสได้พบกับจักรพรรดิเนโร ตอนที่เขาเดินทางมาที่กรีซ ด้วย
67 A.D. หลังเรียนหนังสือจบ เขาเดินทางกลับชาโรเนีย และต่อมาได้แต่งงานกับ ทิโมเซน่า (Timoxena) ซึ่งไม่ปรากฏว่าพวกเขาแต่งงานในปีใด แต่พวกเขามีลุกด้วยกัน 4 คน  ชื่อ โซคลารอส (Soklaros) พลูตาร์ช (Plutarch) , ออโตบูรัส (Autobulus)  และลูกสาวคนเล็ก ทิโมเซน่า (Timoxena) ซึ่งเป็นธรรมเนียมแบบกรีซที่นิยมตั้งชื่อตามชื่อบรรพบุรุษ  แต่ว่าทิโมเซน่า เสียชีวิตตอนที่เธออายุได้เพียงสองขวบ ส่วนโซคลาดรอส เสียชีวิตตอนอายุราวสิบสองปี 
ต่อมาพลูตาร์ชได้เป็นครูสอนด้านปรัญชา
69 A.D. ระหว่างที่พลูตาร์ช เดินทางไปเมืองครีโมน่า (Cremona) เขาได้รู้จักกงสุล ลูเคียส เมสเทรียส โพลรัส (consul , Lucius Mestrius Florus) ซึ่งเป็นกงสุล พลูตาร์ชติดตามลูเคียสไปยังโรม และได้พบความวุ่นวายและสงครามในโรม ซึ่งมีการเปลี่ยนจักรพรรดิในปีเดียวถึง 4 คน (Year of the Four Emperors) ลูเคียสนั้นเป็นเพื่อนกับจักรพรรดิ เวสปาเซียน (Vespasian) ซึ่งลูเคียส ได้ช่วยให้พลูตาร์ช ได้ฐานะประชาชนของโรมัน, พลูตาร์ช จึงใช้ชื่อโรมัน ว่าลูเคียส เมสเทรียส พลูตาร์ชัส  (Lucius Mestrius Plutarchus)  ตามชื่อเพื่อนของเขา และลูเคียส ยังเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญในการช่วยพลูตาร์ช เขียนชีวประวัติของจักรพรรดิอ็อคโฮ (Life of Otho) ด้วย 
95 A.D พลูตาร์ช กลายเป็นนักบวชหนึ่งในของคน ให้กับวิหารเดลฟี่แห่งเทพอพอลโล  (Oracle of Delphi) ห่างจากบ้านเขาเองไปยี่สิบไมล์  แต่ว่าเขายังคงสอนหนังสือในโรงเรียนของเขาเองที่ชาโรเนียควบคู่ไปด้วย  คำสอนของพลูตาร์ชถูกบันทึกและพิมพ์ออกมารวมกันในชื่อ Moralia (หรือ Ethica) ซึ่งรวมบทความ 78 เรื่องของเขาเอาไว้
เนื่องจากพลูตาร์ชมีฐานะที่ร่ำรวย บ่อยครั้งเขาจึงได้ทำงานเป็นตัวแทนของเมือง เดินทางไปยังที่ต่างๆ พลูตาร์ชมีตำแหน่งเป็นผู้พิพากษา (magistrate) ในแชโรเนียบ้านเกิด  และยังเป็นผู้ปกครอง (archon) ของเมืองด้วย 
96 ปรากฏผลงานเขียนเรื่อง Parallel Lives ผลงานชิ้นนี้ของเขามีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เพราะว่าบันทึกประวัติของบุคคลสำคัญของโรมันและกรีซเอาไว้ 50 คน เป็นกรีซ 23 คน และผู้นำโรมัน 23 คน และคนอื่นๆ อีก 4 คน  หนังสือเล่มนี้พลูตาร์ชเอุทิศผลงานให้กับเพื่อนคือ คินตัส เซเนคิโอ ( Quintus Sosius Senecio)  ซึ่ง
หนังสือสารานุกรมยุคกลางของกรีซชื่อ Suda บันทึกเอาไว้ว่า จักรพรรดิโรมัน ทราจัน (Trajan) ซึ่งครองราชย์ในช่วงปี  98-117 ได้แต่งตั้งพลูตาร์ช ให้เป็นอัศวินแห่งอิลีเรีย (Procurator of Illyria)  แต่ว่านักประวัติศาสตร์หลายคนไม่เชื่อเพราะว่าอิลีเรีย ไม่ได้ถูกปกครองโดยอัศวิน และพลูตาร์ชพูดภาษาอิลีเรียนไม่ได้  แต่ถ้าพลูตาร์ชได้รับตำแหน่งจริง เขาก็จะสามารถสวมแหวนทองคำ(golden ring) และชุดโตก้าสีขาว ที่ชายผ้าเป็นสีม่วงได้ (Toga praetexta)
พลูตาร์ชเสียชีวิตน่าจะปีใดปีหนึ่งระหว่า 119 A.D. –127 A.D.
Don`t copy text!