Life does not come with instructions on how to live, but it does come with trees, sunsets, smiles and laughter, so enjoy your day.

ชีวิตไม่ได้มาพร้อมกับคู่มือการใช้ชีวิต

แต่ชีวิตมาพร้อมกับต้นไม้, พระอาทิตย์ตก, รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 

―Debbie Shapiro

Khudiram Bose

คุดิราม โบส (ক্ষুদিরাম বসু )

นักเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชของอินเดียที่เด็กที่สุด
โบส เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 1889 ในหมู่บ้านฮาบิบเพอร์ ในรัฐเบงกอลตะวันตก (Habibpur village, Midnapur town, Midnapore, West Bengal) พ่อของเขาชื่อ ไตรโลกนาถ บาสุ (Trailokyanath Basu ) เป็นพนักงานเก็บภาษีอยู่ในจังหวัดนาดาซอล (Nadazol province) ส่วนแม่ชื่อ ลักษมีพริยา เทวี (Lakshmipriya Devi) โบสนั้นเป็นลูกคนสุดท้อง เขามีพี่สาวอีกสามคน ชื่อ อาภารุภา (Aparupa Devi) , สโรจินี (Sarojini), นานิบาลา (Nanibala)
พ่อกับแม่ของโบส เสียชีวิตตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 6 ขวบ ทำให้พี่สาวคนโต อาภารุภา และสามีของเธอ อมริตาลา (Amritalal) รับหน้าที่ในการเลี้ยงดุน้อง ๆ 
พวกเขาย้ายไปอยู่ที่เมืองตามลุก (Tamlook) ซึ่งโบสได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนฮามิลตัน (Hamilton School) ซึ่งโบสถ์เป็นคนที่ชอบอ่านนวนิยาย และชอบเป่าฟรุ๊ต 
ระหว่างที่อยู่โรงเียนนี้เองที่โบสได้รับอิทธิพลจากครูของเขา ชื่อ สัตเยนทรานาท (Satyendranath) และ เกียเนนดรานาท (Gyanendranath Bose) ซึ่งก่่อตั้งสมาคมลับ อัครา(Akhra) ในการต่อสู้กับการปกครองของอังกฤษ
1905 โบส เข้าเป็นสมาชิกพรรค จุกันฑาร์ (Jugantar ~ New Era)  พรรคซึ่งนักเคลื่อนไหวเพื่อการล้มล้างการเป็นอาณานิคมอังกฤษเป็นสมาชิก โบสเองต่อมาเขาถูกส่งไปยังเมืองมุซาฟฟาร์เฟอร์ ในรัฐภิหาร (Muzaffarpur, Bihar) พร้อมกับปราฟุลลา ชากี (Prafulla Chaki) โดยที่โบสใช้ชื่อปลอมว่า ฮาเรน ซาร์การ์ (Haren Sarkar)  และชากี ใช้ชื่อ ไดเนช รอย (Dinesh Roy) พวกเขาวางแผนที่จะสังหาร คิงฟอร์ด (Kingsford) 
1908 30 เมษายน โบส สังหารคิงฟอร์ด เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง เมื่อรถของคิงฟอร์ดเดินทางมาถึงหน้ายูโรเปี้ยนคลับ (European Club) โบสคว้างระเบิดใส่ที่ตัวรถ แล้วก็หนีไป แต่ปรากฏว่าผู้ที่อยู่ในรถไม่ใช่คิงฟอร์ด แต่ว่าเป็นภรรยาและลูกสาวของ ฟรินเกิ้ล เคนเนดี (Pringle Kennedy) ซึ่งทั้งคู่เสียชีวิต 
ในขณะที่โบสและเพื่อนหนึไปที่สถานีรถไฟ 
ชากี นั้นถูกตำรวจล้อมไว้ ตอนที่อยู่ที่สถานีรถไฟซามาสติเฟอร์ (Samastipur station) ทำให้เขาตัดสินใจฆ่าตัวตาย ส่วนโบส เขาหนีไปได้ไกลจากสถานีประมาณ  20 กิโลเมตร ด้วยการเดินเท้าเปล่า เขาแวะดื่มน้ำชาที่สถานีโอไยนิ (Oyaini) ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนสงสัยโบส เพราะว่ารอยเปื้อนตามเท้าของเขา พวกเขาเข้ามาสอบถามโบส เลยยิ่งสงสัย และตัดสินใจจับกุมตัวโบสไว้ และเมื่อทำการค้นตัวก็พบกระสุนอีก 37 นัด และเงินสามสิบรูปี 
21,23 พฤษภาคม ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดี  และถูกตัดสินประหารชีวิต  โบสยิ้ม ตอนที่เขาได้ยินคำตัดสิน จนผู้พิพากษาประหลาดใจ และต้องถามย้ำกับเข้าว่าเข้าใจความหมายของคำตัดสินหรือไม่ โบสตอบว่าแน่นอน และบอกว่าถ้าเขาพอมีเวลาพอ เขาจะสอนให้ท่านผู้พิพากษาทำระเบิด
11 สิงหาคม  ถูกประหารด้วยการแขวนคอ เวลาหกโมงเช้า ในกัลกัตต้า , หนังสือพิมพ์รายงานว่าเขาตายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และจิตใจที่เข้มแข็ง โบสเดินขึ้นไปบนแท่นอย่างมุ่งมั่น ยิ้มตอนที่เชือกถูกมัดเข้ากับลำคอ  ตอนเสียชีวิต เขามีอายุเพียง 18 ปี
โบส ถูกตั้งฉายาว่า อัคนี-โยคะ (Agni-Yuga) และเป็นแรงบันดาลใจให้กับการลุกฮือต่อต้านการปกครองของอังกฤษ 
Don`t copy text!