Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Caligula

Gaius Julius Caesar Germanicus

คาลิกูล่า จักรพรรดิองค์ที่ 3 ของโรมัน  เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 12 ในเมืองแอนเทียม (Antium) พ่อของเขาคือเยอมานิคัส (Germanicus) และแม่ชื่อ เอกริปพิน่า (Agrippina the Elder) เป็นหลานสาวของจักรพรรดิออกัสตัส (Augustus) จักรพรรดิองค์แรกของโรมัน
คาลิกูล่า มีพี่น้องอีก 5 คน (ที่มีชีวิตรอดจนโต) คือ เนโร (Nero) ดรูซัส (Drusus) เอกริปพิน่า (Agrippina) จูเลีย (Julia Drusilla) และจูเลีย (Julia Livilla)
   ตั้งแต่ตอนเด็กเขาติดตามพ่อออกรบไปยังบริเวณไรน์ (Rhine) ตอนเหนือของเยอรมัน ซึ่งทำให้เขาได้รับฉายาว่า Caligula หรือ Bootikins ที่แปลว่ารองเท้า(ทหาร) อันเล็ก (little boot)
19 AD พ่อของเขาเสียชีวิตโดยถูกวางยาโดย กเนียส ปิโซ่ (Gnaeus Calpurnius Piso) ซึ่งลือกันว่าจักรพรรดิไทเบเรียส (Tiberius) เป็นผู้จ้างวานมา  แต่ว่าปิโซ่ฆ่าตัวตายระหว่างการสอบสวน  หลังจากพ่อเสียชีวิตแล้ว คาลิกูล่ากลับไปอาศัยอยู่กับแม่ 
29 AD แม่ของเขาและเนโร ถูกจับในข้อหาทรยศ คาลิกูล่าจึงถูกส่งไปอยู่กับย่าทวด (มารดาของไทเบเรียส) ชื่อลิเวีย (Livia)  แต่ไม่นานเมื่อย่าทวดเสียชีวิต เขาก็ไปอยู่กับย่าของเขาเองชื่อแอนโทเนีย (Antonia) 
30 AD ดรูซัส พี่ชายอีกคนถูกจับในข้อหาทรยศ
31 AD คาลิกูล่า อาศัยอยู่ที่คาปริ (Capri) ภายใต้การดูแลของไทเบเรียสอย่างเข้มงวด 
33 AD แม่และเนโรพี่ชายของคาลิกูล่าเสียชีวิตภายในคุก , ไทบีเรียส มอบตำแห่ง quaestorship ให้กับคาลิกูล่า 
37 AD 16 มีนาคม , ไทบีเรียสเสียชีวิตบนที่นอน ตอนอายุ 77 ปี  ทรัพย์สินของเขาตกทอดไปยังคาลิกูล่า และหลานชายของไทบีเรียส เยเมลลัส (Tiberius Gemellus) 
บางว่าการเสียชีวิตของไทบีเรียส เป็นเพราะคาลิกูล่ากับ แปรโตเรียน มาโคร (Pratorian Prefect Macro) ใช้หมอนกัดที่ไทบีเรียสตอนหลับจนเสียชีวิต แต่นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่บันทึกว่าไทบีเรียสเสียชีวิตตามอายุขัย
หลังจากนั้น คาลิกูล่า วัย 24 ปี ได้รับตำแหน่งจักรพรรดิองค์ใหม่ ซึ่งตอนเข้าขึ้นสู่อำนาจได้รับความยินดีจากประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขาเป็นสืบเชื้อสายจากออกัสตัส คาลิกูล่าเริ่มเอาใจประชาชนโดยสั่งให้ลดการเก็บภาษี
ตุลาคม คาลิกูล่า ล้มป่วยอย่างหนัก คาดว่าเป็นโรค nervous breakdown, encephalitis ตอนที่ป่วยนั้นคาลิกูล่าได้ตั้งให้ดรูซิลล่าน้องสาว ซึ่งว่ากันว่าเป็นคนรักของคาลิกูล่าด้วย เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของเขาหาเสียชีวิต  แต่ว่าต่อมาคาลิกูล่าสามารถหายจากการป่วยได้
 หลังจากหายป่วยบุคคลิของเขาเปลี่ยนไปกลายเป็นคนโหดร้าย เขาสั่งให้สังหารเยเมลลัส และญาติของไทบีเรียสทุกคน  รวมถึงมาร์คัส ซิลานัส (Marcus Junius Silanus) พ่อบุญธรรมของคาลิกูล่า และมาร์คัส เลปิดัส (Marcus Lepidus) พี่เขยของเขาเองด้วย
นอกจากนั้นพี่น้องผู้หญิงของเขายังถูกเนรเทศ 
38 AD  10 มิถุนายน, ดรูซิลล่า เสียชีวิต 
แต่งงานกับ ลิเวีย โอเรสติลล่า (Livia Orestilla)  เธอนั้นหย่ากับ เกียส ปิโซ่ (Gaius Calpurnius Piso) ก่อนที่จะแต่งงานกับคาลิกูล่า แต่ภายหลังลิเวียถูกสงสัยว่ากลัยไปมีความสัมพันธ์กับปิโซ่อีก จนถูกเนรเทศ
ต่อมาคาลิกูล่าแต่งงานใหม่กับ โลลเลีย พัวลิน่า (Lollia Paulina) เธอมีสามีมาก่อนเช่นกัน ซึ่งไม่นานทั้งคู่ก็แยกทางกัน
39 AD ทำสงครามในเยอรมัน  รบกับชนเผ่าต่างๆ อย่างสลาฟ และยิว ที่อาศัยในพื้นที่ แต่ปีนี้เร่ิมเกิดวิกฤตการเงินกับโรมเมื่อรัฐบาลไม่มีเงินเพียงพอ เขาจึงออกกฏหมายเพิ่มภาษี 
ช่วงนี้มีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างสำคํญอย่าง วิหารออกัสตัส (temple of Augustus) , โรงละครปอมปีย์ (theatre of Pompey)
มีการสร้างเรือขนาดยักษ์ที่ใช้เป็นพระราชวังลอยน้ำ ขึ้นมาสองลำ ถูกเรียกว่า Nemi ships หลังจากซากเรือขนาดมหึมาถูกขุดพบที่ทะเลสาบเนมิในปี 1446 แต่ว่าโชคร้ายที่ซากเรือถูกทำลายด้วยระเบิดในปี 1944 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ช่วงมีนี้คาลิกูล่า มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใหม่ชื่อ  มิโลเนีย ซีโซเนีย (Milonia Caesonia) ซึ่งต่อมาเมื่อทั้งคู่แต่งงานได้เพียงเดือนเดียวมิโลเนีย ก็ให้กำเนิดลูกสาว ชื่อ จูเรีย ดรูซิลล่า (Julia Drusilla) ตามชื่อพี่สาวและคนรักของคาลิกูล่า 
40 AD  ปโตเลมี (Ptolemy of Mauretania) กษัตริย์ของมัวรินาเนีย (Mauretania) ได้รับคำเชิญจากคาลิกูล่าให้เดินทางมายังโรม แต่ว่าเมื่อเขามาถึงได้ถูกจับประหารชีวิต หลังจากนั้นโรมันได้ผนวกดินแดนมัวริทาเนียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร
41 AD 24 มกราคม  คาลิกูล่าถูกสังหาร ในพระราชวังปาลาไตน์ (Palatine hill Palace) พร้อมกับภรรยาแคโซเนีย (Caesonia) และลูกสาวของพวกเขา ผู้สังหารเขาเป็นทหารองครักษ์ (Praetorian Guard) หลายคน  นำโดยคาสเซียส แชเรีย (Cassius Chaerea) 
Don`t copy text!