Happiness held is the seed.

Happiness shared is the flower.

ความสุขที่เก็บเอาไว้คือเมล็ด

ความสุขที่แบ่งปันคือดอกไม้ 

John Harrigan

Maria Spiridonova

มาเรีย สปิริโดโนว่า (Мария Александровна Спирадонова)

นักปฏิวัติ 

มาเรีย เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1884 ในเมืองตามบอฟ (Tambov) เมืองทางตอนใต้ของมอสโคว์ พ่อของเธอชื่ออเล็กซานเดอร์ (Aleksander Spiridonov) ทำงานเป็นพนักงานธนาคาร 

เธอเริ่มเรียนหนังสือในจิมเนเซียมในเมืองที่เธออาศัย

1902 พ่อของมาเรียเสียชีวิตด้วยวัณโรค ทำให้เธอต้องออกจากการเรียนกลางคัน

1905 24 มีนาคม, เข้าร่วมการเดินขบวนประท้วงของนิสิตนักศึกษาเพื่อประท้วงซาร์นิโคลัส ที่ 2 ทำให้เธอถูกจับ แต่ไม่นานเมื่อได้รับการปล่อยตัวเธอพยายามสมัครเข้าเรียนพยาบาล แต่ว่าถูกปฏิเสธเพราะประวัติเกี่ยวกับการเมือง 

หลังจากนั้นให้เธอหันไปร่วมเคลื่อนไหวกับพรรคปฏิวัติสังคมนิยม หรือ SR (Socialist-Revolutionary Party) ซึ่งเป็นพรรคที่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง การก่อการร้าย การจับอาวุธ และลอบสังหารบุคคลสำคัญ เพื่อบรรลุเป้าหมายของการปฏิวัติ

1906 16 มกราคม, มาเรียสังหารนายตำรวจสืบสวนของเมืองตามบอฟโดยมือลูกโม่ ตำรวนคนนั้นชื่อกาฟริล ลุเชนอฟสกี (Gavril Luzhenovsky) เพราะว่ากันว่าเขาเป็นผู้สั่งให้ตำรวจให้ความรุนแรงเพื่อปราบปรามเกษตรกรที่ประท้วงในปีที่ผ่านมา  มาเรียถูกจับกุมตัวได้แทบจะทันทีหลังการฆาตกรรม

11 มีนาคม, มาเรียถูกตัดสินประหารชีวิตในคดีสังหารลุซเชนนอฟสกี แต่ว่าเธอได้รับการลดหย่อนโทษเป็นการเนรเทศไปไซบีเรียแทนเพราะเห็นว่าเธอมีสุขภาพไม่ดี 

ขณะที่ถูกเนรเทศมาเรียถูกนำตัวขึ้นรถไฟพร้อมกับผู้ก่อการร้ายคนอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกของพรรค SRs อีกห้าคน ทำให้คนกลุ่มนี้ถูกเรียกว่า Shesterka (กลุ่มหกคน) มาเรียและพวกถูกจองจำอยู่ในเรือนจำที่เมืองเนอร์ชินส์ก (Nerchinsk) เป็นเวลากว่า 11 ปี

1917 3 มีนาคม, หลังการปฏิวัติกุมภาพันธ์ มาเรียได้รับการปล่อยตัว และหลังการปฏิวัติตุลาคม ได้ตำแหน่งในกรรมาธิการที่ดูแลด้านกิจการแรงงานด้านเกษตรกรรม

1918 7 กรกฏาคม, ถูกจับ หลังจากร่วมวางแผนสังหารทูตเยอรมันประจำรัสเซีย ชื่อ วิลเฮล์ม ไมร์บัช (Wilhelm von Mirbach-Harff) การสังหารทูตเยอรมันเป็นแผนของพรรค SR ที่ต้องการให้เกิดสงครามระหว่างเยอรมันกับรัสเซีย แต่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ พรรคบอลเชวิคถือโอกาสนี้ใช้เป็นข้ออ้างในการกวาดล้างพรรค SR แทน 

1 ธันวาคม, ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปี แต่ว่าวันถัดมาก็ได้รับการอภัยโทษ

1919 เธอถูกจับอีกครั้งจากการปราศรัยโจมตีรัฐบาลบอลเชวิคว่าทรยศต่ออุดมการณ์ 

24 กุมภาพันธ์, เธอถูกตัดสินให้ถูกจำคุกในสถานบำบัดอาการทางจิต โดยถูกกล่าวหาว่ามีอาการทางจิต แต่ว่าเธอไม่ได้ถูกส่งตัวไปยังสถานบำบัดตามคำตัดสินแต่ถูกส่งตัวไปขังในเรือนจำในค่ายทหาร

2 เมษายน, สมาชิกของ SRs ได้วางแผนช่วยให้เธอหนีออกมาจากเรือนจำได้ แต่ไม่กี่วันต่อมาทางการสามารถจับตัวเธอได้อีกครั้ง

1921 18 พฤศจิกายน, ได้รับการประกันตัว โดยมีเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง

1937 ในยุคของสตาลิน มาเรียถูกจับอีกครั้งในข้อหาที่วางแผนยุยงให้เกิดการประท้วงโดยกลุ่มเกษตรกร ครั้งนี้เธอถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 25 ปี โดยถูกขังไว้ในเรือนจำที่เมืองอูฟ่า (Ufa) 

1941 11 กันยายน, ถูกประหารในออร์โยล (Oryol) 

Don`t copy text!