Life is filled with unanswered questions, but it is the courage to seek those answers that continues to give meaning to life. You can spend your life wallowing in despair, wondering why you were the one who was led towards the road strewn with pain, or you can be grateful that you are strong enough to survive it.

ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยคำถามมากมายที่ไร้คำตอบ, มันต้องใช้ความกล้าในการค้นหาคำตอบที่ให้ความหมายของการมีชีวิต คุณอาจจะใช้ชีวิตติดกับความผิดหวัง และสงสัยว่าทำไมมีเพียงแต่คุณที่ต้องเดินไปบนถนนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเพียงลำพัง หรือคุณอาจจะรู้สึกขอบคุณตัวเองที่เข้มแขึงและยืนหยัดอยู่ได้

J.D. Stroube, Caged by Damnation

Francisco Goya

ฟรานซิสโก โกย่า (Francisco Jose de Goya y Lucientes)
จิตรกร
โกย่า เกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 1746 ในซาราโกซ่า, เชตอราก้อน (Zaragoza, Aragon, Spain) สเปน พ่อของเขาชื่อโจเซ่ เบนิโต้ (Jose Benito de Goya y Franque) และแม่ชื่อกราเซีย (Gracia de Lucientes y Salvador) หลังโกย่าเกิดได้ไม่นานครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านฟูเอนเดโตดอส (Fuendetodos) ก่อนที่ปีถัดมาจะย้ายกลับมาที่ซาราโกซ่าอีกครั้ง
โกย่าได้รับการฝึกให้เป็นจิตรกรมาตั้งแต่ยังเล็ก จนเมื่ออายุราว 10 ปี ก็คาดว่าเขาน่าจะได้เข้าเรียนที่เอสโคลาปิออส (Escolapios) แต่ว่าไม่นานทางบ้านก็ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ โกย่าต้องออกมาช่วยทำงานเพื่อหารายได้ 
ตอนอายุ 14  ปี ได้เรียนการวาดรูปกับโจเซ่ รูซาน (Jose Luzan y Martinez) เป็นเวลากว่า 4 ปี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในกรุงแมดริด ได้เรียนเพิ่มเติมกับแอนตัน ราฟาเอล (Anton Raphael Mengs) ซึ่งเป็นศิลปินที่วาดภาพให้กับราชสำนักสเปน
1770 เดินทางไปกรุงโรมของอิตาลี พร้อมกับคณะของนักแสดงวัวกระทิง  เมื่อไปถึงกรุงโรม โกย่าได้ทำงานหาเงินโดยการแสดงเป็นตัวตลกข้างถนน
1771 กลับมาสเปน และได้รู้จักกับฟรานซิสโก้ บายัว (Franicisco Bayeu) ซึ่งโกย่าได้เรียนศิลปะกับบายัว และยังได้แต่งงานกับน้องสาวของบายัว
1773 25 กรกฏาคม, แต่งงานกับโจเซฟา (Josefa Bayeu) พวกเขามีลูกด้วยกันหลายคน แต่มีเพียงซาเวียร์  (Xavier) ลูกชายเท่านั้นที่โตขึ้นมาจนถึงวัยผู้ใหญ่
1775 เขาได้งานเป็นนักออกแบบภาพให้กับโรงพิมพ์หลวง (Royal Tepestry Factory) ในกรุงแมดริด โกย่าทำงานที่นี่จนกระทั้งถึงปี 1792
1783 เขาได้รับงานวาดภาพของกษัตริย์ชาร์ ที่ 3 (Charles III of Spain) 
1789 ได้รับแต่งตั้งเป็นจิตกรประจำราชสำนักสเปน ในรัชสมัยของกษัตริย์ชาร์ล ที่ 4 (Charles IV of Spain) ซึ่งเขาได้รับตำแหน่งนี้เป็นคนแรก
1792 ล้มป่วยอย่างรุนแรงจนกระทั้งทำให้เขาหูหนวก ซึ่งเมื่อเขาหูหนวกแล้วได้เร่ิมสร้างผลงานชุด Los caprichos ซึ่งเป็นภาพกัดกรด (etching) เป็นผลงานชุดหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นอย่างมาก
1797 มีผลงานภาพวาดสีน้ำมัน ชื่อ La Maja Desnuda (The Naked Maja) ซึ่งเป็นภาพวาดหญิงเปลือยนอนอยู่บนเตียง เขาวาดให้กับนายกรัฐมนตรีมานูเอล กอดอย (Manuel de Godoy) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เก็บภาพนี้ไว้เป็นคอลเลคชั่นลับส่วนตัวกว่า 6 ปี ก่อนที่จะภาพจะถูกพบ และทำให้กอดอยถูกตั้งกรรมการสอบจริยธรรมในปี 1808
1795 เป็นผู้อำนวยการของ Royal Academy
1808 นโปเลียน (Napolean Bonaparte) บุกยึดครองสเปน (Peninsular War,1808-1814) โกย่าจึงได้มาทำงานรับใช้กษัตริย์โจเซฟ ที่ 1 (Joseph I of Spain) ซึ่งเป็นพระเชษฐาของนโปเลียน ที่ถูกแต่งตั้งให้มาปกครองสเปน แต่ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของสเปนไม่ยอมรับการปกครองของฝรั่งเศส จนกลายเป็นสงครามเพื่อกอบกู้เอกราช
ช่วงสงครามการต่อสู้เพื่ออิสระภาพของสเปนนี้ โกย่าสร้างผลงานชุด Los desastres de la guerra (The Disasters of War)
ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของสถาบันซานเฟอร์นันโด (Royal Academy of San Fernando)
1812 ภรรยาของโกย่าเสียชีวิต
1814 สเปนได้รับอิสระภาพจากฝรั่งเศส และกษัตริย์เฟอร์ดินันด์ ที่ 7 (Ferdinand VII) ขึ้นครองราชย์
1816 เผยแพร่ผลงานชุด the Tauromaquia 
1819 โกย่าในวัย 72 ปี ย้ายไปอยู่ในบ้านชานกรุงแมดริด ซึ่งบ้านหลังนี้ถูกเรียกว่า La Quinta del Sordo (Deaf Man’s Villa) ซึ่งที่นึเขาได้วาดภาพชุด The Black Painting (โกย่าไม่ได้ตั้งชื่อเอง แต่ถูกตั้งชื่อภายหลังให้กับภาพ 14 ภาพของเขา ซึ่งเป็นภาพที่เขาวาดบนผนังของบ้าน ซึ่งสะท้อนความหดหู่ หวาดกลัว และความสิ้นหวังออกมาก
1824 เขาไปอยู่ในบอร์ด๊อกซ์ (Bordeaux) ฝรั่งเศส  พร้อมกับลีโอคาเดีย ไวส์ (Leocadia Weiss) ญาติห่างๆ ของโกย่า 

1828 16 เมษายน เสียชีวิต ในวัย 82 ปี ที่บอร์ด๊อกซ์
Don`t copy text!