เจมส์ แม็กซ์เวลล์ (James Clerk Maxwell)
แม็กซ์เวลล์ เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1831 ในอีดินบูร์ก, สก็อตแลนด์ (Edinburgh, Scotland) พ่อของเขาชื่อจอห์น (John Clerk Maxwell of Middlebie) เป็นนักกฏหมาย และเป็นเจ้าของที่ดินในมิดเดิลบี้ (Middlebie estate) ตระกูลคล๊าร์ก แห่งเพนิคูก (Clerk of Penicuik) เป็นตระกูลของบารอนของสก๊อตแลนด์ จอห์น คล๊าร์ก เป็นน้องชายของบารอน ที่ 6 แห่ง เพนิคูก , จอห์น เป็นผู้เติมคำว่า Maxwell เข้าไปเพิ่มหลังนามสกุลเดิม ส่วนแม่ของแม็กซ์เวลล์ชื่อฟรานเซส เคย์ (Frances Cay)
1833 ครอบครัวของเขาย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังใหม่ตั้งชื่อว่าเกล็นแลร์ (Glenlair) สร้างขึ้นในมิดเดิ้ลบี้
1839 แม่เสียชีวิตตอนที่แม็กซ์เวลล์อายุ 8 ปี ด้วยสาเหตุจากโรคมะเร็งลำไส้
1841 แม็กซ์เวลล์ย้ายมาอยู่ที่บ้านของป้าอิสเบลล่า (Isabella) พี่สาวของพ่อของเขา และได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมอีดินบูร์กอะคาเดมี (Edinburgh Academy) ที่โรงเรียนนี้สอนวิชาภาษาลาติน, กรีก และวรรณกรรมโรมันให้แก่เขา ระหว่างที่เรียนอยู่ที่นี่เขายังเป็นเพื่อนกับเลวิส แคมป์เบลล์ (Lewis Campbell) ซึ่งภายหลังเป็นนักปรัชญาและเป็นผู้เขียนชีวประวัติของแม็กซ์เวลล์
1846 มีผลงานเขียนทางวิชาการชิ้นแรก “On the description of Oval Curves and those having a plurality of foci” ตอนอายุ 14 ปี
1847 เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยอีดินบูร์ก (University of Edinburgh)
1850 เข้าเรียนที่ปีเตอร์เฮาส์คอลเลจ, มหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ (Peterhouse College, Cambridge) แต่ว่าเรียนได้เทอมเดียวก็ย้ายมาเรียนที่ไตรนิตี้คอลเลจ (Trinity College) โดยระหว่างที่อยู่แคมบริดจ์ เขาได้เข้าเป็นสมาชิกของอโพลเทิ้ล (Cambridge Apostles) สมาคมลับของพวกหัวกะทิในแคมบริดจ์ด้วย
1854 จบการศึกษาจากไตรนิตี้คอลเลจ โดยได้วุฒิทางด้านคณิตศาสตร์ แต่ว่าหลังจากเรียนจบแล้วเขายังคงได้รับทุนให้ทำงานวิจัยอยู่ที่ไตรนิตี้ต่อไป
1855 เขาได้นำเสนอผลงานของเขาเรื่อง Experiments on Colour ซึ่งแดสงให้เห็นว่าแสงสีขาว เกิดจากการรวมตัวกันของสีแดง, เขียว และน้ำเงิน ต่อสมาคมราชบัณทิตแห่งอีดินบูร์ก (Royal Society of Edinburgh, FRSE)
1856 2 เมษายน, พ่อของแม็กเวลล์เสียชีวิต
แม็กซ์เวลล์ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านปรัชญา (Professor of Natural Philosophy) ที่มาริสชาลคอลเลจ (Marischal College, Aberdeen)
ได้รับเลือกเป้นสมาชิกของสมาคมราชบัณทิตแห่งอีดินบูร์ก
1857 ได้รับรางวัลอดัม (Adams Prize, University of Cambridge) จากการเขียนบทความเรื่อง “The Stability of Saturn’s Rings” ซึ่งพยายามอธิบายความสงสัยของนักวิทยาศาสตร์ในเวลานั้นว่าทำไมวงแหวนของดาวเสาร์ถึงมีรูปร่างคงตัวอยู่อย่านั้น แม็กซ์เวลล์ได้อธิบายว่าวงแหวนของดาวเสาร์ต้องเป็นชิ้นๆ เหมือนกับก้อนอิฐที่ลอยอย่างอิสระรอบดาวเสาร์ ไม่ใช่หินก้อนเดียวและไม่ใช่ของเหลว
1858 2 มิถุนายน, แต่งงานกับแคทเธอรีน แมรี่ (Katherine Mary Dewar)
1860 มาริสชาลคอลเลจถูกร่วมเข้ากับคิงส์คอลเลจเป็นมหาวิทยาลัยอเบอร์ดีน ทำให้ตำแหน่งศาสตราจารย์ของแม็กซ์เวลล์ถูกเลิกจ้าง
ต่อมาแม็กซ์เวลล์ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ที่คิงคอลเลจ, ลอนดอน (King’s College, London) แทน เขาจึงย้ายมาอยู่ในลอนดอน
ได้รับรางวัลรัมฟอร์ด (Rumford Medal) จากผลงานการศึกษาเกี่ยวกับสีของแสง
1861 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกของ Royal Society (FRS)
มีผลงานเขียน On Physical Lines of force ลงในแม็กกาซีน Phil. Mag. ซึ่งแสดงการคำนวณเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กขณะที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง
โธมัส ซัตตัน (Thomas Sutton) สร้างภาพถ่ายสี (color photographer) สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยใช้ทฤษฏีสี RGB ของแม็กเวลล์ เขาถ่ายภาพโบผ้าสก๊อต (Tartan Ribbon) ให้กับแม็กซ์เวลล์เพื่อประกอบการสอน
1865 เขียนหนังสือ “A Dynamical Theory of the Electromagnetic Field” ผลงานชิ้นสำคัญของเขาที่แสดงให้เห็นว่าไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กเคลื่อนที่ผ่านอากาศในลักษณะของคลื่น (waves) ด้วยความเร็วแสง และแสดงให้เห็นว่าแสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ลาออกจากคิงคอลเลจ และกลับไปอยู่ที่เกล็นแลร์
1866 “On the viscosity or internal friction of air and other gases”
1868 “On a method of making a direct comparison of electrostatic with electromagnetic force; with a note on the electromagnetic theory of light”
1869 ได้รางวัลเคียธ (Keith Prize)
1870 “On reciprocal figures, frames and diagrams of forces”
“On hills and dales”
ได้รับรางวัลฮ๊อปกิ้น (Hopkins Prize)
มีผลงานเขียน “Theory of Heat”
ได้รับปริญญาเอกด้านกฏหมาย จากมหาวิทยาลัยอีดินบูร์ก
1871 ก่อตั้งห้องปฏิบัติการทางฟิสิกคาเวนดิช ( Cavendish Laboratory) ที่ ม.แคมบริดจ์ และแม็กซ์เวลล์ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์คาเวนดิช (Cavendish Profressor of Physics) คนแรกของแคมบริดจ์
1877 พิมพ์หนังสือ “Matter and Motion”
1879 5 พฤศจิกายน, เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ที่แคมบริดจ์ ขณะมีอายุ 48 ปี