สงครามเกาหลี
1910 29 สิงหาคม, สนธิสัญญาญี่ปุ่น-เกาหลี 1910 (Japan-Korea Treaty of 1910) ประกาศให้เกาหลีเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นได้ปกครองเกาหลีตั้งแต่นั้นมาจนกระทั้งสิ้นสุดสงครามโลก ครั้งที่ 2
ช่วงปี 1920s คิม อิลซุง (Kim Il-sung) และกลุ่มชาตินิยมเกาหลีหลายกลุ่มเร่ิมทำสงครามกองโจรต่อต้านญี่ปุ่น
1943 พฤศจิกายน, การประชุมไคโร (Cairo Conference) จีน, สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ มีความเห็นร่วมกันว่าเกาหลีควรจะได้รับอิสระภาพ
1945 กุมภาพันธ์, การประชุมยาลต้า (Yalta Conference) , สตาลิน (Joseph Stalin) ผู้นำสหภาพโซเวียตให้คำมั่นกับฝ่ายสัมพันธมิตรว่าจะประกาศสงครามกับญี่ปุ่นภายในระยะเวลาสองสามเดือนหลังจากสถานการณ์สงครามโลกในยุโรปสงบลงแล้ว
ที่ประชุมยังมีความเห็นร่วมกันว่าจะรวมเกาหลีให้เป็นประเทศเดียว แต่ว่าไม่มีแผนการณ์ที่ชัดเจน
5 เมษายน, สหภาพโซเวียตยกเลิกข้อตกลงไม่รุกรานระหว่างกัน (Non-Agrression Pact) ที่ทำไว้กับประเทศญี่ปุ่น , ในสหรัฐฯ แฮร์รี่ ทรูแมน (Harry S. Truman) ขึ้นเป็นประธานาธิบดี คนที่ 33
25 กรกฏาคม, การประชุมพอตสดัม (Potsdam Conference) สหรัฐฯ อังกฤษ และจีน ประกาศข้อเรียกร้องให้ญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข
6 สิงหาคม, สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ใส่เมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima)
8 สิงหาคม, สหภาพโซเวียต, สหรัฐฯ ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น
สหรัฐฯ ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลูกที่สองใส่เมืองนางาซากิ
9 สิงหาคม, (Soviet-Japanese War) สหภาพโซเวียตกับมองโกล (Mongolian People’s Republice) นั้นได้ส่งกำลังทหารบุกแมนจูกั๋ว (Manchukuo) ดินแดนอาณานิคมของญี่ปุ่นบนจีนแผ่นดินใหญ่ทางตอนเหนือของปักกิ่งและเกาหลี
10 สิงหาคม, พันโทดีน รัสก์ (colonels Dean Rusk) และชาร์ลี โบเนสตีล (Charles H. Bonesteel III) ทหารของสหรัฐฯ รับผิดชอบแบ่งเกาหลีออกเป็นสองส่วนสำหรับสหภาพโซเวียตและสหรัฐฯ ซึ่งพวกเขาได้เสนอให้ใช้เส้นละติดจูตที่ 38 (38th parallel)
15 สิงหาคม, ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม กองทัพของสหภาพโซเวียตเมื่อยกกำลังมาถึงเส้นขนาดที่ 38 ก็หยุดไม่เดินทางต่อ เพราะยังมองว่าสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรในสงคราม
24 สิงหาคม, กองทัพโซเวียตมาถึงเปียงยาง และโซเวียตได้ตั้งคณะกรรมาธิการประชาชน (People’s Committee) ขึ้นมาโดยให้โช แมนซิก (Cho Man-sik) เป็นผู้นำ
28 สิงหาคม, Lyyh Woon-Hyung ประกาศตั้งคณะกรรมการเตรียมความพร้อมในการเป็นเอกราชของประเทศเกาหลี (Committee for the Preparation of Korean INdepencence, CPKI)
8 กันยายน, พลโท.จอห์น ฮอดจ์ (Lt. Gen. John R. Hodge) ของสหรัฐฯ ได้รับหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการบริหารเกาหลีใต้ซึ่งเป็นเขตที่อยู่ในอำนาจของสหรัฐฯ มีการจัดตั้งรัฐบาลทหารขึ้นในเกาหลีใต้ (United States Army Military Government in Korea, USAMGIK)
ธันวาคม, การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศในมอสโคว์ (Moscow Conference) สหภาพโซเวียต และสหรัฐฯ ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือในการบริหารเกาหลีชั่วคราวระหว่างกัน temporary administration of Korea ซึ่งทำให้มีการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวในเขตเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ซึ่งสองชาติมหาอำนาจต่างเห็นว่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้าเกาหลีจะได้อิสระภาพอย่างแท้จริงและกลับมารวมกัน แต่ว่าการตกลงกันเองระหว่าสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียตทำให้ประชาชนเกาหลีบางส่วนไม่พอใจต่างพากันประท้วง และต้องการให้เกาหลีมีอธิปไตยโดยทันที
การประท้วงทำให้ USAMGIK ต้องประกาศกฏอัยการศึก
1946 4 มกราคม, โช แมนซิก ประกาศเรียกร้องให้เกาหลีมีเอกราชในทันทีเช่นกัน ซึ่งทำให้เขาถูกจับกุมตัวกักไว้ในบ้านพัก
หลังโช แมนซิกถูกจับ คณะกรรมาธิการประชาชน ในเกาหลีเหนือจึงได้มีการจัดรูปแบบองค์กรใหม่ และร่วมเข้ากับกลุ่มคอมมิวนิสต์ ของคิม อิลซุง กลายเป็นพรรคแรงงานเกาหลี (Workers’ Party of Korea)
1948 10 พฤษภาคม, มีการจัดการเลือกตั้งในเกาหลีโดยองค์การสหประชาชาติโดยการสนับสนุนของสหรัฐฯ แต่ว่าสหภาพโซเวียต และพรรคฝ่ายซ้ายเกาหลี และนักการเมืองหลายคนในเกาหลีใต้เองไม่ได้ให้การสนับสนุนทำให้การจัดการเลือกตั้งเกิดขึ้นเฉพาะในเขตเกาหลีใต้และหลี ซิงแมน (Rhee Syngman) ชนะการเลือกตั้ง
หลี ซิงแมน เป็นหนึ่งในราชตระกูลที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์โจซอน (Joseon dynasty) เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดจากพยายามวางแผนโค่นกษัตริย์โกจง (King Gojong) แต่ว่าได้รับการปล่อยตัวในปี 1904 ช่วงสงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น หลังจากนั้นจึงได้ไปอยู่ในสหรัฐฯ
ฝ่ายเกาหลีเหนือ สหภาพโซเวียตได้สนับสนุนคิม อิลซุง ขึ้นเป็นผู้นำ
17 กรกฏาคม, เกาหลีใต้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และหลี ซิงแมน รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรก
15 สิงหาคม, หลี ซิงแมนยประกาศให้เกาหลีใต้กลายเป็นสาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea)
25 สิงหาคม, เกาหลีเหนือจัดให้มีการเลือกสมาชิกรัฐสภากันภายใน
9 กันยายน, คิม อิลซุง ประกาศให้เกาหลีเหนือเป็นสาธารณรัฐประชาชนเกาหลี โดยการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต และเขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (Premier) คนแรก
1949 คิม อิลซุง พยายามจะขอการสนับสนุนจากสตาลินในการบุกเกาหลีใต้ แต่ว่าสตาลินยังเห็นว่าสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม
1 ตุลาคม, ประธานเหมา (Mao Zedong) ประกาศตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China)
1950 ทั้งสหภาพโซเวียตและสหรัฐฯ ถอนกำลังทหารของตนออกจากเกาหลี
เมษายน, สหภาพโซเวียตให้สัญญาณให้คิม อิลซุงบุกเกาหลีใต้ได้ แต่ว่าสหภาพโซเวียตจะไม่สนับสนุนทางการทหาร เพราะเกรงว่าจะเป็นการเปิดสงครามโดยตรงกับสหรัฐฯ แต่ว่าจีนจะเป็นฝ่ายที่สนับสนุนทางทหารแก่เกาหลีเหนือแทน
มกราคม Dean Acheson รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
7 มิถุนายน, คิม อิลซุง เรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วเกาหลีในเดือนสิงหาคม และได้ส่งคณะไปเจรจากับหลี ซิงแมน แต่ว่าหลี ซิงแมน ปฏิเสธข้อเรียกร้องของคิม อิลซุง
25 มิถุนายน, สงครามเกาหลีเริ่มต้นขึ้น โดยสงครามนี้ฝ่ายเกาหลีใต้เรียกว่าเหตุการณ์ 25 มิถุนายน (Incident June 25) เกาหลีเหนือเรียก สงครามปลดปล่อยเกาหลี (Patriotic War of Liberation) ฝ่ายจีนเรียกว่าสงครามต่อต้านสหรัฐฯ และช่วยเกาหลี (The War of resistance against the U.S. to help Korea)
เกาหลีเหนือส่งทหารราว 75,000 นายโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ (Gimpo airbase) ทำให้ทูตสหรัฐฯ ประจำเกาหลีใต้ จอห์น (John J. Muccio) ขอความช่วยเหลือไปยังประธานาธิบดีทรูแมน (Harry S. Truman) ให้ส่งกองกำลังเข้ามาสนับสนุนเกาหลีใต้
คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ มีมติที่ 82 ประณามการรุกรานเกาหลีใต้ของเกาหลีเหนือ และมีมติส่งทหารสหประชาชาติเข้าแทรกแซง ซึ่งทหารส่วนใหญ่มาจากสหรัฐฯ และควบคุมโดยนายพลแม็คอาร์เธอร์ (Douglas MacArthur)
27 มิถุนายน, คณะมนตรีความมั่นคงองค์การสหประชาชาติมีมติที่ 83 ส่งกำลังทหารเข้าไปช่วยเกาหลีใต้จากการถูกรุกรานโดยเกาหลีเหนือ
หลี ซิงแมน หนีออกจากกรุงโซล พร้อมกับสั่งให้มีการระเบิดสะพานฮานกัง (Hangang bridge) ที่ทอดข้ามแม่น้ำฮาน (Han River) เพื่อหยุดกองทัพเกาหลีเหนือ แต่ระหว่างที่ระเบิดสะพานนั้นยังมีผู้อพยอยู่บนสะพานหลายพันคน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยคน
28 มิถุนายน, (Bodo League massacre) หลี ซิงแมน สั่งให้มีการสั่งหารผู้ต้องสงสัยว่าสนับสนุนเกาหลีเหนือ, คอมมิวนิสต์ ซึ่งประมาณว่ามีผู้ถูกสั่งหารกว่า 1-2 แสนคน
26 กรกฏาคม, (Massacre of No Gun Ri) กองทหารม้า ที่ 7ของสหรัฐฯ (7th Cavalry Regiment) ได้ทิ้งระเบิดบริเวณรางรถไฟใกล้กับหมู่บ้านโนกุนริ ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีชาวเกาหลีใต้หลบซอ่นตัวอยู่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 160-400 คน ซึ่งผู้รอดชีวิตและเอกสารลับภายหลังท่ีถูกเปิดเผยแสดงให้เห็นว่าทหารสหรัฐฯ ได้รับคำสั่งให้สังหารผู้ลี้ภัย ไม่ใช่การโจมตีที่ผิดพลาด
กันยายน, กองกำลังผสมจากสหประชาชาติใช้เมืองอินชอน (Incheon) เป็นฐานปฏิบัติการณ์ในการตอบโต้กลับเกาหลีเหนือ
ตุลาคม, จีนส่งกำลังทหารเข้ามาช่วยเกาหลีเหนือ
17 ตุลาคม, (Sinchon Massacre) ฝ่ายเกาหลีเหนืออ้างว่ากองทัพเกาหลีใต้และทหารสหรัฐฯ ได้สังหารประชาชนในเมืองชินชอน กว่า 35,000 คน ระหว่างตุลาคม-ธันวาคม
3 พฤศจิกายน, (Resolution 377) มติที่ประชุมใหญ่องค์การสหประชาติที่ 37 ให้อำนาจที่ประชุมใหญ่สหประชาติใช้อำนาจแทนคณะมนตรีความมั่นคงได้ในสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อสันติภาพ หากคณะมนตรีความมั่นคงขาดเสถียรภาพและไม่มีฉันทามติในเหตุการณ์ดังกล่าว
1951 7 กุมภาพันธ์, (Sancheong-Haryana massacre) ทหารเกาหลีใต้ หน่วยที่ 11 (South Korean Army 11th Division) สังหารหมู่ประชาชน 705 คน ในซานชีอองและฮาร์ยานะ
9 กุมภาพันธ์, (Geochang massacre) ทหารเกาหลีใต้ หน่วยที่ 11 สังหารประชาชนอีก 385 คนในจีโอชาง
1953 27 กรกฏาคม, สงครามเกาหลีสิ้นสุดลง เมื่อมีข้อตกลงหยุดยิง และมีการประกาศตั้งเขตปลอดทหาร (Korean Demilitarized Zone)