คดีแม่มดแห่งซาเล็ม (Salem Witch Trials)
ปี 1689 กษัตริย์วิลเลียม (King William) และควีนแมรี่ (Queen Mary) แห่งอังกฤษทำสงครามกับฝรั่งเศส ในอาณานิคมอเมริกา ซึ่งมีการรบกันในนิวยอร์ค, ควีเบค, และโนวา สโกเทีย ทำให้เกิดผู้อพยพจำนวนมากที่พากันหนีไปอยู่ในหมู่บ้านซาเล็ม (Salem Village) บริเวณอ่าวแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Colony Bay) แต่ว่าแมสซาซุเซตส์นั้นก่อตั้งโดยกลุ่มคริสต์เคร่งศาสนา (Puritanism) ตั้งแต่ปี 1628
แต่เพราะจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขี้นมาทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นมา โดยเฉพาะกับบรรดาผู้ที่ทำการเกษตรและผู้ทำการค้า
ในปีนี้คอตต้อน มาเธอร์ (Cotton Mather) เขียนหนังสือ Memorable Providences ซึ่งเล่าเหตุการ์ณเด็ก 4 คนในตระกูลกูดวิน (Goodwin) ในเมืองบอสตัน (Boston) ถูกคุณไสย์จากแม่มด และคดีนี้กูดี โกลเวอร์ (Goody Glover) ได้ถูกประหารด้วยการแขวนคอในความผิดฐานเป็นแม่มด หนังสือเล่มนี้โด่งดัง และมีอิทธิพลต่อการตัดสินคดีแม่มดแห่งซาเล็ม
1692 มกราคม, อลิซาเบธ (Elizabeth) วัย 9 ขวบ ลูกสาวของซามูเอล พาร์ริส (Samuel Parris) วัย 39 ปี ซึ่งรัฐมนตรีศาสนา (ordained minister) ของซาเล็มคนแรก เขาเป็นอดีตนักธุรกิจที่ล้มละลาย และอบิเกล (Abigail Williams) วัย 11 ขวบหลานสาวของพาร์ริส เกิดอาการคลุ้มคลั่ง พวกเธอพากันกรีดร้องด้วยเสียงประหลาดและเควี้ยงทำลายข้าวของภายในบ้าน
เมื่อเด็กๆ ถูกพาไปหาหมอในหมู่บ้าน แพทย์ซึ่งไม่รู้ว่าพวกเธอป่วยเป็นอะไร กลับวินิจจัยว่าอาการของพวกเธอเกิดจากอำนาจเหนือธรรมชาติ
ต่อมาไม่นานก็มีเด็กอีกคนหนึ่ง วัย 11 ปี แอน พุตแนม (Ann Putnam) ล้มป่วยด้วยอาการที่คล้ายกันอีก
29 กุมภาพันธ์, เด็กทั้งสามคนถูกผู้พิพากษาโจนาธาน คอร์วิน (Jonathan Corwin) และจอห์น ฮาโทรน (John Hathorne) ไต่สวน พวกเด็กๆ ด้วยความกดดัน พวกเธอจึงได้กล่าวหาผู้หญิงสามคน คือ ติตูบา (Tituba) ทาสเชื้อสายแคลิเบี้ยนในบ้านของพาร์ริส , ซาราห์ กู๊ด (Sarah Good) หญิงขอทาน และซาราห์ ออสบอร์น (Sarah Osborne) หญิงชรายากจน ว่าเป็นผู้ทำคุณไสยใส่พวกเธอ
1 มีนาคม, ในการสอบสวนหญิงสามคนซึ่งถูกล่าวหา ออสบอร์น กับซาร่าห์ กู๊ด ยืนยันความบริสุทธิ์และปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ว่าติตูบา สารภาพว่าเธอได้พบกับปีศาจและปีศาจได้ขอให้เธอรับใช้มัน
หญิงทั้งสามคนถึงถูกนำไปขังไว้ในเรือนจำ
หลังเหตุการณ์แรก ก็มีการกล่าวหากันภายในหมู่บ้านอีกหลายคดีว่าเป็นแม่มด
27 พฤษภาคม, ผุ้ว่าฯ วิลเลี่ยม ฟิปป์ (William Phipps) ได้สั่งให้มีการตั้งศาลพิเศษขึ้นมาเพื่อพิจารณาคดี (Special Court of Oyer and Terminer for Suffolk, Essex, Middlesex countries) โดยที่บริดเก็ต บิชอป (Bridget Bishop) เป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกนำตัวขึ้นศาลนี้ และเธอถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ในวันที่ 10 มิถุนายน
กรกฏาคม-กันยายน, มีคนอีก 18 คนที่ถูกศาลตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ แม้ว่าคอตต้อน มาเธอร์เองก็ไม่เห็นด้วยที่ศาลมีการตัดสินโดยไม่มีประจักษ์พยานชัดเจนแต่ใช้เรื่องของความฝันและภาพหลอนเป็นหลัก
29 ตุลาคม, ศาลพิเศษถูกยุบไป แต่ผู้ว่าฯ ฟิปป์ ได้ตั้งศาลใหม่ขึ้นมา เรียกว่าศาลยุติธรรมสูงสุด (Superior Court of Judicature) โดยศาลใหม่นี้ไม่อนุญาตให้เอานิมิต หรือความฝันมาเป็นหลักฐานอีก แต่ว่ากว่าที่ศาลใหม่นี้จะถูกตั้งขึ้นมา มีผู้ต้องหากว่า 200 คนที่ถูกลงโทษและเสียชีวิตในเรือนจำไปแล้ว
1702 ศาลยุติธรรม ได้มีการประกาศว่าการตัดสินคดีแม่มดที่ซาเล็มเป็นความผิดผลาดและไม่เป็นไปตามกฏหาย
1711 รัฐบาลอาณานิคมอเมริกาได้ประกาศคืนความบริสุทธิให้กับผู้ถูกตัดสินในคดีแม่มดทุกคน และมีการชดใช้ค่าเสียหาย 600 ปอนด์ให้กับทายาทของแต่ละคน
1957 รัฐแมสซาซูเซตส์ออกกฏหมายขอโทษต่อความผิดพลาดในการพิจารณาคดีอย่างเป็นทางการ