Antoine de Saint-Exupéry

อ็องตวน เดอ เซงเตซูปีรี (Antoine Marie Jean-Baptiste Roger,  comte de Saint-Exupery)

เซงเตซูปีรี เกิดวันที่ 29 มิถุนายน 1900 ในลีอง, ฝรั่งเศส (Lyon, France) ในครอบครัวชนชั้นสูงที่นับถือแคโธริก พ่อของเขาชื่อฌอน เดอ เซงเตซูปีรี (Viscount Jean de Saint Exupery) และแม่ชื่อมาเรีย (Viscountress Marie de Fonscolombe) 

เซงเตซูปีรีเป็นลูกคนที่สามในพี่น้องห้าคน  เขาใช้ชีวิตวัยเด็กอยู่ในปราสาท Saint-Maurice-de-Remens และเริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนเยซูอิตในมองกี (Montgre) และที่เลอ แมน (Le Mans) 

1904 พ่อของเขาเสียชีวิตเพราะอาการเส้นเลือดในสมองแตกตอนที่เขาอายุได้ 4 ขวบ ซึ่งหลังจากพ่อเสียชีวิตครอบครัวของเขาก็มีฐานะยากลำบาก

1915 เข้าเรียนที่เซนต์จอห์นคอลเลจ (Marianist College Villa St.Jean) โรงเรียนประจำในสวิสเซอร์แลนด์

ซึ่งระหว่างเรียนที่เซนต์จอห์นคอลเลจน้องชายของเขาเสียชีวิตจากการระบาดของไข้รูห์มาติก (rheumatic fever)  ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 1 

1917 ออกจากโรงเรียนเพราะว่าผลการเรียนไม่ดี แต่ได้พยายามสมัครเข้าเรียนที่สถาบันกองทัพเรือ (Naval Academy) แต่ว่าสอบไม่ผ่านสองครั้ง

เข้าเรียนที่ École des Beaux-Arts ในทางด้านสถาปัตยกรรม แต่ว่าเขาเรียนได้แค่ 15 เดือนก็ลาออก 

1921 เข้าเป็นทหาร สังกัดหน่วยทหารม้า ที่ 2 (2nd Regiemnt of light cavalry) ซึ่งถูกส่งไปประจำการณ์ในเมืองนูฮอฟ (Neuhof) ใกล้กับสตรัสบูร์ก (Strasbourg) ซึ่งระหว่างนี้ทำให้เขาได้มีโอกาสในการฝึกบินกับกองทัพอากาศ

1926 เข้าทำงานกับสายการบิน Aeropostale ซึ่งดำเนินกิจการส่งไปรษณีย์จากตูลูส (Toulouse) ฝรั่งเศส ไปยังกรุงดาการ์, เซเนกัล (Dakar, Senegal) 

1929 ถูกย้ายไปทำงานได้อาร์เจนติน่าโดยได้เป็นผู้อำนวยการของบริษัทแอโร่โปสต้า (Aeroposta Argentina Company) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Aeropostale

พิมพ์ผลงานเขียนเล่มแรก Courrier Sud (Southern Mali)

1932 ได้รับรางวัล Prix Femina จากผลงานเขียน Vol de Nuit (Night Flight) 

1935 ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกลงในทะเลทรายซาฮาร่า (Sahara Desert) ระหว่างที่กำลังบินจาปารีสเพื่อไปยังไซง่อน (Saigon) แต่ว่าเขารอดชีวิตมาได้หลังจากต้องเดินทางรอนแรมในทะเลทราย 3-4 วันก่อนที่จะได้รับการการช่วยเหลือจากชนพื้นเมือง

1939 เขียนหนังสือ  “Wind, Sand and Stars” เล่าประสบการณ์เฉียดตายตอนที่ประสบอุบัติเหตุในทะเลทรายซาฮาร่า

1940 ช่วงเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาเข้าเป็นทหารในกองทัพอากาศฝรั่งเศส

1941 เมื่อฝรั่งเศสยอมแพ้ให้กับเยอรมัน เซงเตซูปีรีก็ลี้ภัยมาอยู่ในสหรัฐฯ  ซึ่งช่วงเวลานี้เขาใช้เวลาในการเขียนหนังสือ 

1943 เข้าเป็นทหารในกองทัพสหรัฐฯ​โดยทำหน้าที่ขับเครื่องบินสอดแนม MB 170  เหนื่อฝรั่งเศสและเข้าร่วมกับกองกำลังปลดปล่อยฝรั่งเศส Free French Air Force ซึ่งไปรบอยู่บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

1944 31 กรกรฏาคม, เขาบินออกจากฐานในบอร์โก้ (Borgo, Corsica) ด้วยเครื่องบินสอดแนม P-38 ซึ่งเครื่องบินของเขาหายไปนับแต่นั้น จึงอนุมานว่าเป็นวันที่เขาเสียชีวิต

1988 กันยายน, ซากเครื่องบินของเซงเตซูปีรีถูกค้นพบ ทางตอนใต้ของหมู่เกาะมาร์แซลล์ (Marsielle)

ผลงานเขียน